เซราไมด์ (Ceramides) คืออะไร?
เซราไมด์คือ ไขมันชนิดหนึ่ง (ตระกูลของโมเลกุลไขมันคล้ายขี้ผึ้ง) ที่พบได้ตามธรรมชาติในชั้นผิวหนังชั้นนอกสุดของเรา (stratum corneum) มีหน้าที่สำคัญในการ เชื่อมเซลล์ผิวเข้าด้วยกัน คอยเป็น เกราะป้องกันผิว ที่แข็งแรง ป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง และปกป้องผิวจากสิ่งแปลกปลอม มลภาวะ รวมถึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินอีกด้วย นอกจากนี้ เซราไมด์ยังมีบทบาทสำคัญในระบบประสาทและสมองด้วย
มีมากในอะไร? ในธรรมชาติ เซราไมด์สามารถสกัดได้จากพืชหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าวและน้ำมันรำข้าว ซึ่งเป็นแหล่งที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ยังพบได้ใน ข้าวสาลี, นม, หัวบุก, แกนสับปะรด และผลไม้อื่นๆ
Ceramides มีสรรพคุณ
- เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว: ช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการสูญเสียน้ำ และป้องกันสารก่อภูมิแพ้หรือสิ่งระคายเคืองเข้าสู่ผิว
- ให้ความชุ่มชื้น: กักเก็บน้ำในผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำ เปล่งปลั่ง และดูสุขภาพดี
- ลดการระคายเคืองและอักเสบ: ปลอบประโลมผิว ลดอาการแดง คัน และอักเสบ เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย หรือผู้ที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) และโรคสะเก็ดเงิน
- ฟื้นฟูผิว: ช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลายจากมลภาวะหรือแสงแดด
- ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเต่งตึง
Ceramides ฟอร์มไหนดูดซึมดีที่สุด?
สำหรับการเสริมสร้างเซราไมด์ให้กับผิว สามารถทำได้ทั้งจากการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (topical application) และการรับประทานอาหารเสริม (oral supplementation)
- ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว: ผลิตภัณฑ์ที่มีเซราไมด์หลายประเภทผสมกัน มักจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า นอกจากนี้ หากมีส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบของผิวร่วมด้วย ก็จะช่วยให้เซราไมด์ถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น แบรนด์ยอดนิยมหลายแบรนด์มักใช้เซราไมด์หลายชนิด (เช่น Ceramide 1, 3, 6-II หรือ Ceramide NP, AP, EOP, AS, NS) เพื่อเสริมการทำงานร่วมกันในการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
- อาหารเสริม: เซราไมด์ที่สกัดจากข้าว (Rice Ceramide) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากน้ำมันรำข้าว ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นและฟื้นฟูชั้นผิวได้ดีกว่าเซราไมด์จากข้าวสาลี มีรายงานว่าเซราไมด์จากข้าวมีความพิเศษเหนือกว่าในแง่การดูดซึมและประสิทธิภาพ
Ceramides ปริมาณที่งานวิจัยแนะนำต่อวัน
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับวิตามินและสารอาหาร anti-aging มักแนะนำปริมาณรวมในแต่ละวัน (รวมกับที่ได้รับจากอาหาร) อยู่ที่ประมาณ 1,000 – 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน และเพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุด ควร แบ่งทานครั้งละไม่เกิน 500 มิลลิกรัม เช่น แบ่งทานครั้งละ 1 เม็ด (500 มก.) วันละสองครั้งหรือสี่ครั้ง
ข้อควรพิจารณา
- แหล่งที่มา: การเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรพิจารณาแหล่งที่มาของเซราไมด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซราไมด์จากข้าว หรือน้ำมันรำข้าว
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ก่อนเริ่มรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับสภาพร่างกายและไม่มีผลข้างเคียงกับยาหรือโรคประจำตัวอื่นๆ โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว