แมกนีเซียม (Magnesium – Mg)
คือแร่ธาตุที่สำคัญอย่างยิ่งต่อร่างกาย มีบทบาทในกระบวนการทางชีวเคมีมากกว่า 300 กระบวนการ เช่น การสร้างพลังงาน การสังเคราะห์โปรตีน การรักษาสมดุลของเซลล์ และการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงหัวใจและกระดูก
แมกนีเซียม (Magnesium – Mg) พบมากใน
- พืชตระกูลถั่ว เมล็ดพืช และธัญพืชไม่ขัดสี: เช่น เมล็ดฟักทอง เมล็ดงา ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ข้าวกล้อง ข้าวสาลีเต็มเมล็ด
- ผักใบเขียวเข้ม: เช่น ผักโขม คะน้า
- ผลไม้: เช่น กล้วย ฝรั่ง มะละกอ
- ปลา
แมกนีเซียม (Magnesium – Mg) มีสรรพคุณ
- สุขภาพกระดูก: ช่วยควบคุมระดับแคลเซียมและวิตามินดีในกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
- การทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท: ช่วยในการหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยลดตะคริว รวมถึงช่วยในการทำงานของระบบประสาทให้เป็นปกติ
- สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด: ช่วยรักษาระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติ ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจเป็นปกติ และช่วยผ่อนคลายหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนโลหิต
- การผลิตพลังงาน: มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวาน
- ลดความเครียดและอาการซึมเศร้า: มีส่วนช่วยในการทำงานของสมองและอารมณ์ ช่วยลดอาการวิตกกังวลและซึมเศร้า
- บรรเทาอาการไมเกรน: ช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการไมเกรน
- ช่วยเรื่องการนอนหลับ: ช่วยผ่อนคลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้หลับสบายขึ้น
- ลดอาการปวดประจำเดือน (PMS): ช่วยลดอาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง อ่อนเพลีย หงุดหงิด
แมกนีเซียม (Magnesium – Mg) ฟอร์มไหนดูดซึมดีที่สุด?
แมกนีเซียมมีหลายรูปแบบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งมีความสามารถในการดูดซึมที่แตกต่างกัน
- Magnesium Glycinate (แมกนีเซียมไกลซิเนต): เป็นรูปแบบที่ดูดซึมได้ดีที่สุด (สูงถึง 80%) อ่อนโยนต่อระบบทางเดินอาหาร ไม่ทำให้ท้องเสีย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคลายเครียด นอนหลับยาก ลดอาการปวดไมเกรน และคลายกล้ามเนื้อ
- Magnesium Citrate (แมกนีเซียมซิเตรต): ดูดซึมได้ดีพอสมควร และมีคุณสมบัติเป็นยาระบายอ่อนๆ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูก
- Magnesium Chloride (แมกนีเซียมคลอไรด์): ดูดซึมได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมแมกนีเซียมอย่างรวดเร็ว ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ไมเกรน และอ่อนเพลีย
- Magnesium Oxide (แมกนีเซียมออกไซด์): เป็นรูปแบบที่ดูดซึมได้ต่ำที่สุด (ประมาณ 4%) และอาจทำให้ท้องเสียได้หากรับประทานมากเกินไป มักใช้เป็นยาระบายมากกว่าอาหารเสริม
แมกนีเซียม (Magnesium – Mg) ปริมาณที่งานวิจัยแนะนำต่อวัน
ปริมาณแมกนีเซียมที่แนะนำต่อวัน (RDA) คือประมาณ 400-420 มิลลิกรัมต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สุขภาพโดยรวม ระดับกิจกรรม และภาวะขาดแมกนีเซียม หากคุณกำลังพิจารณาการเสริมแมกนีเซียม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับคุณที่สุด