Pycnogenol (สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส)
คือสารสกัดธรรมชาติที่ได้จากเปลือกของต้นสนมาริไทม์ฝรั่งเศส (French maritime pine – Pinus pinaster) ซึ่งเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารประกอบโพลีฟีนอลหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โปรไซยานิดิน (Procyanidins) ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์สำคัญที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูง
Pycnogenol พบมากในสนประเภทไหน?
Pycnogenol ที่เป็นชื่อทางการค้าและได้รับการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางนั้น สกัดมาจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศสที่ปลูกในป่า Les Landes de Gascogne ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดยเป็นกระบวนการสกัดที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเพื่อให้ได้สารที่มีส่วนประกอบคงที่และคุณภาพสูง
Pycnogenol มีสรรพคุณ
Pycnogenol มีคุณสมบัติเด่น 4 ประการ และมีงานวิจัยรองรับจำนวนมาก (มากกว่า 450 ฉบับ) เกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน
- สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง: ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสื่อมสภาพของเซลล์และการเกิดโรคต่างๆ ช่วยเสริมการทำงานของวิตามิน C และวิตามิน E
- สารต้านการอักเสบตามธรรมชาติ: ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในหลายโรค เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ข้ออักเสบ และปัญหาผิวหนัง
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกรดไฮยาลูโรนิก: มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้กับผิว
- ช่วยในการผลิตไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide – NO): ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ส่งผลดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ลดความดันโลหิต และอาจช่วยในเรื่องของสมรรถภาพทางเพศ
นอกจากนี้ Pycnogenol ยังมีสรรพคุณอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น
- บำรุงสุขภาพผิว: ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ปกป้องผิวจากรังสียูวีและความเสียหายจากสิ่งแวดล้อม
- บำรุงระบบไหลเวียนโลหิต: ปรับปรุงการไหลเวียนเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือด
- ส่งเสริมสุขภาพสมอง: อาจช่วยพัฒนาการรับรู้ของสมอง สมาธิ และลดความเครียดออกซิเดชัน
- ช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย: โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ L-Arginine มีงานวิจัยที่แสดงว่าช่วยปรับปรุงภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้
Pycnogenol ฟอร์มไหนดูดซึมดีที่สุด?
Pycnogenol เป็นสารสกัดที่ประกอบด้วยสารหลายชนิด ซึ่งการดูดซึมของสารแต่ละชนิดอาจแตกต่างกันไป โดยทั่วไปแล้ว สารประกอบที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เช่น คาเทชิน (catechin), กรดคาเฟอิก (caffeic acid), กรดเฟอรูลิก (ferulic acid) และแท็กซิฟอลิน (taxifolin) จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายจากลำไส้เล็ก ส่วนสารโปรไซยานิดินที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ขึ้น อาจถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ให้เป็นเมตาบอไลต์ที่มีขนาดเล็กลง ซึ่งเมตาบอไลต์เหล่านี้ก็สามารถถูกดูดซึมและออกฤทธิ์ได้
โดยรวมแล้ว Pycnogenol ในรูปแบบที่จำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (มักเป็นแคปซูลหรือผง) จะถูกออกแบบมาให้มีชีวปริมาณออกฤทธิ์ (bioavailability) ที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเฉพาะเจาะจงว่า “ฟอร์ม” ใดที่ดูดซึมดีที่สุดในเชิงเปรียบเทียบระหว่างรูปแบบสารสกัดที่ต่างกันอย่างชัดเจนนั้นยังไม่พบว่ามีการระบุอย่างละเอียด แต่สิ่งสำคัญคือการเลือกผลิตภัณฑ์ Pycnogenol ที่มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้และมีมาตรฐานการผลิตที่ดี (เช่น ได้รับการจดสิทธิบัตรและควบคุมคุณภาพ) เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและปริมาณสารออกฤทธิ์
Pycnogenol ปริมาณที่งานวิจัยแนะนำต่อวัน
ปริมาณ Pycnogenol ที่แนะนำอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการรับประทานและแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม จากงานวิจัยและข้อมูลทั่วไป
- สำหรับการบำรุงสุขภาพโดยรวมและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ: ปริมาณที่แนะนำโดยทั่วไปอยู่ที่ 20-100 มิลลิกรัมต่อวัน
- สำหรับอาการเฉพาะทาง เช่น
- เพื่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด (รวมถึงความดันโลหิต): งานวิจัยบางชิ้นใช้ปริมาณ 100-200 มิลลิกรัมต่อวัน
- สำหรับสมรรถภาพทางเพศ (ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ): มีงานวิจัยที่ใช้ Pycnogenol 40 มิลลิกรัมร่วมกับ L-Arginine ในเดือนที่ 2 และเพิ่มเป็น 120 มิลลิกรัม Pycnogenol ร่วมกับ L-Arginine ในเดือนที่ 3 (สำหรับผู้ชายอายุ 25-45 ปี) และบางการศึกษาใช้ 120 มิลลิกรัมต่อวันร่วมกับ L-Arginine 3 กรัม
- สำหรับสุขภาพผิว หรือฝ้า กระ: อาจใช้ปริมาณ 20-50 มิลลิกรัมต่อวัน หรือสูงกว่า ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
Pycnogenol ในฐานะสารต้านอนุมูลอิสระ การเริ่มต้นที่ 50-100 มิลลิกรัมต่อวัน อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และสามารถปรับเพิ่มได้ตามความต้องการและคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
ข้อควรระวัง
- Pycnogenol ถือว่าค่อนข้างปลอดภัยเมื่อรับประทานในปริมาณที่แนะนำ แต่อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ หรือระคายเคืองในกระเพาะอาหาร
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ โดยเฉพาะหากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยาอื่นๆ อยู่ เนื่องจากอาจมีปฏิกิริยาระหว่างยากันได้
สรุป:
Pycnogenol เป็นสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศสที่อุดมไปด้วยโปรไซยานิดิน มีสรรพคุณเด่นในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ กระตุ้นคอลลาเจนและกรดไฮยาลูโรนิก และช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ปริมาณที่แนะนำสำหรับผู้ชายวัย 45 ปีมักอยู่ที่ 50-100 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับการบำรุงสุขภาพทั่วไป และอาจสูงขึ้นตามวัตถุประสงค์เฉพาะ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ