เทคนิคเพิ่มความสุขในชีวิต: ปรับสมดุลฮอร์โมนและทัศนคติเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
ความสุขเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนา แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและความเครียด การสร้างความสุขในชีวิตจึงกลายเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝน บทความนี้นำเสนอ 2 แนวทางหลักในการเพิ่มความสุข ได้แก่ การกระตุ้นฮอร์โมนแห่งความสุข และการปรับมุมมองต่อชีวิต เพื่อให้ชีวิตมีคุณภาพและมีความหมายมากยิ่งขึ้น
ฮอร์โมนแห่งความสุข: เคมีในร่างกายที่เราควบคุมได้
1. โดพามีน (Dopamine): ความภาคภูมิใจในตัวเอง
โดพามีนคือฮอร์โมนที่หลั่งเมื่อเราประสบความสำเร็จหรือได้รับรางวัล ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ การตั้งเป้าหมายรายวันและทำให้สำเร็จ เช่น เดินให้ได้ 5,000 ก้าว หรือควบคุมอาหารให้ได้ในแต่ละวัน ล้วนช่วยกระตุ้นการหลั่งโดพามีน
-
สร้าง “Winning Day” ด้วยเป้าหมายที่ท้าทายแต่ทำได้
-
อย่าเปรียบเทียบกับคนอื่น ให้เปรียบเทียบกับตัวเองเมื่อวาน
2. ออกซิโตซิน (Oxytocin): ความอบอุ่นในหัวใจ
ออกซิโตซินมักเกี่ยวข้องกับความรักและความผูกพัน โดยเฉพาะการกอด การสัมผัส หรือการให้สิ่งดี ๆ แก่ผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ฮอร์โมนนี้สามารถหลั่งได้จากกิจกรรมง่าย ๆ เช่น
-
การเล่นกับสัตว์เลี้ยง
-
การกอดสมาชิกในครอบครัว
-
การช่วยเหลือคนแปลกหน้า
3. ซีโรโทนิน (Serotonin): ความสงบและความมั่นคงทางอารมณ์
ซีโรโทนินเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจในชีวิต สร้างโดยแบคทีเรียดีในลำไส้ มีส่วนช่วยให้จิตใจสงบและอารมณ์มั่นคง
-
ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ
-
ตากแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้า
-
ฝึกสมาธิหรือทำโยคะ
4. เอ็นโดรฟิน (Endorphin): ความสุขจากการหัวเราะและออกกำลังกาย
เอ็นโดรฟินเป็นฮอร์โมนที่ช่วยลดความเจ็บปวดและสร้างความรู้สึกดีขณะหัวเราะหรือออกแรง
-
ดูหนังตลกหรือคลิปวิดีโอน่ารัก ๆ
-
ออกกำลังกายเป็นประจำ
-
ลองกินโกโก้ธรรมชาติ (มีสารที่กระตุ้นเอ็นโดรฟิน)

อาหารและความสุข: การเลือกกินมีผลต่ออารมณ์
การรับประทานผักและผลไม้หลากหลายชนิดไม่เพียงช่วยให้สุขภาพดี แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกและอารมณ์
-
สารแคโรทีนอยด์ในผักผลไม้มีส่วนช่วยให้มองโลกในแง่ดี
-
การกินแอปเปิ้ลวันละผลอาจลดความเครียดและความซึมเศร้า
-
วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเริ่มต้นกระบวนการสร้างโดพามีน
แนะนำให้กินผักผลไม้ 7–8 ส่วนต่อวัน เพื่อความสมดุลทั้งทางร่างกายและอารมณ์
มุมมองต่อชีวิต: สิ่งที่เปลี่ยนความสุขได้โดยไม่ต้องใช้เงิน
ทัศนคติคือทุกสิ่ง
ทัศนคติที่ดีสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ร้ายให้กลายเป็นโอกาส การมองโลกในแง่บวกไม่ใช่การหลอกตัวเอง แต่เป็นการเลือกกรอบความคิดที่สนับสนุนสุขภาพจิต
-
ตัวอย่าง: กระเป๋าหาย = ซวย หรือ = ยังดีที่หายแค่ 2,000 บาท?
-
คนสองคนอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน อาจมีความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
สิ่งแวดล้อมส่งผลต่อทัศนคติ
-
เพื่อนที่คบ: เลือกอยู่กับคนที่มองโลกในแง่ดี
-
สื่อที่เสพ: หลีกเลี่ยงข่าวลบหรือเนื้อหาสร้างความโกรธ
-
สังคมที่อยู่: สร้างวงล้อมที่สนับสนุนเป้าหมายของชีวิต
การฝึกปรับทัศนคติเป็นทักษะที่เรียนรู้ได้และฝึกได้ทุกวัน
สิ่งที่คนใกล้ตายเสียใจมากที่สุด: เตือนใจให้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า
งานวิจัยของพยาบาลผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายพบว่าคนมักเสียใจที่ไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้:
-
ไม่กล้าใช้ชีวิตตามความฝันของตัวเอง
-
ทำงานหนักเกินไปจนละเลยครอบครัว
-
ไม่กล้าแสดงความรู้สึกที่แท้จริง
-
ละเลยความสัมพันธ์กับเพื่อน
-
ไม่ให้โอกาสตัวเองมีความสุข
ข้อคิดนี้ชวนให้เรากลับมาทบทวนว่า วันนี้เรากำลังมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
แหล่งอ้างอิง : https://metro.co.uk/2024/03/12/5-common-deathbed-regrets-according-a-nurse-20447590/
สารบัญ บทความ โภชนบำบัด อาหารบำบัดโรค