การเผาถ่าน บำรุงดิน ( BioChar ) คืออะไร?
การเผาถ่านบำรุงดิน ( BioChar ) คือ Bio มาจาก Biomass ที่แปลว่า พืช สิ่งมีชีวิต หรือ อินทรีย์วัตถุทั้งหลาย Char มาจาก Char ที่แปลว่าถ่าน คือถ่านจากพืช สิ่งมีชีวิต หรือ อินทรีย์วัตถุทั้งหลาย
นักวิจัยชาวฝรั่งได้ทำวิจัยเกี่ยวกับดินที่ป่า Terra preta ในป่าลุ่มแม่น้ำอเมซอน ประเทศบลาซิล ที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ผลการวิจัยพบว่ามีถ่านผสมอยู่มากมาย
เมื่อทำงานวิจัยจบจึงได้ตั้งชื่อเรียกใหม่โดยเอา Biomass สนธิ ( รวมกัน ) กับ Char เมื่อสนธิกันแล้วได้ชื่อใหม่ว่า ” Biochar “
Biochar จึงเป็นชื่อที่ชาวบ้านอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร มาจากไหน ใช้ทำอะไร…???
ในประเทศไทย และ ญี่ปุ่น ใช้ถ่านปรับปรุงบำรุงดิน มานานหลายร้อยปี ก่อนที่จะการบัญญัติชื่อ Biochar ที่เรียกกันมายังไม่ถึง 30 ปี
ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 土壌改良竹炭 ( Dojō kairyō takezumi ) แปลเป็นไทยว่า ถ่านปรับปรุงดิน หรือถ่านบำรุงดิน ภาษาไทยเรียกกันตามภาษาท้องถิ่นที่แตกต่างกันไป
ชื่อ ถ่านไม้ไผ่ปรับปรุงดิน หรือ ถ่านไม้ไผ่บำรุงดิน หรือถ่านบำรุงดินจากไผ่ ไม่ต้องแปล ไม่ต้องอธิบาย ก็สามารถเข้าใจได้ว่ามันคือถ่านสำหรับ “ ปรับปรุงดิน หรือ บำรุงดิน “

ประโยชน์ของถ่าน
- ใช้ดูดซับกลิ่น
- ช่วยตรึงหรือกักเก็บคาร์บอนไว้บนพื้นผิวโลก ไม่ให้ถูกเผาผลาญกลายเป็นก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ลดปัญหาโลกร้อน ฟื้นฟูธรรมชาติ ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
- ช่วยปรับปรุงบำรุงดินในการเกษตรเพื่อลดความเสื่อมสภาพดินและความแห้งแล้งของดิน ซึ่งเป็นการปรับปรุงดินให้สมบูรณ์ เพราะถ่านบำรุงดินจะช่วยดูดซับฟอสเฟตและลดการสูญเสียไนโตรเจนและฟอสฟอรัส
- ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
- ช่วยให้เกษตรกรและผู้บริโภคปลอดภัยจากสารพิษทางการเกษตร
- ช่วยให้เกษตรกรผลิตเชื้อเพลิงหุงต้มและประกอบอาหารใช้เองได้
ประโยชน์ของถ่านสำหรับพืช
- ที่เก็บน้ำ
- ที่เก็บความชื้น
- ที่ดูดอากาศ
- เป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์
- ที่ปล่อยแร่ธาตุ
- แคลเซียม
- โพแทสเซียม
- แมกนีเซียม

ถ่านให้สิ่งที่ดีแก่ชีวิต ( Charcoal Adds to the Good Life )
ในอดีตเกษตรกรจะเน้นแต่การใส่ปุ๋ยเติมจุลินทรีย์ เพิ่มเติมจากการย่อยสลายของซากอินทรีวัตถุตามธรรมชาติ ( ซึ่งมีน้อยเต็มทีในปัจจุบัน )
ใส่ลงไปเท่าไร เติมลงไปเท่าไหร่ พืชก็ดูดซับเอาแต่เฉพาะสารอาหารในปุ๋ยไปกิน แต่กลับทิ้งเศษซากของปุ๋ยเอาไว้ในดิน ทับถมกันอยู่อย่างนั้นปีแล้วปีเล่า นาน ๆ เข้ากลายเป็นดินกระด้าง ดินแข็ง ดินดาน ดินเสื่อมสภาพ และกลายเป็นดินกรดในที่สุด
การไถพรวนจึงไม่เกิดประโยชน์อะไรนอกจากการได้พรวนดินที่ยังแข็งกระด้างเหมือนเดิม
เกษตรกรปล่อยให้เศษซากของปุ๋ยทับถมคลุมหน้าดินมายาวนาน จนเจอปัญหาที่หมดหนทางจะแก้ไข
เศษซากปุ๋ยที่ทับถมกันอยู่เกิดการก่อปฏิกิริยาทางเคมี ก่อตัวเป็นกรดปนเปื้อนอยู่กับดินเพิ่มมากขึ้น ๆ ทุกปี
สิ่งเดียวที่จะแก้ปัญหาได้คือ การแกล้งดิน ตามวิธีของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยการแช่น้ำไว้นานๆ
แต่ก็ทำได้เฉพาะในที่ลุ่มที่มีน้ำเพียงพอ ในที่ ๆ ไม่มีน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไม่สามารถจะใช้วิธีการดังกล่าวได้ ปัญหาจึงทับถมทวีคูณมากยิ่งขึ้นทุกปี
ถ่าน จึงเป็นคำตอบเดียวและเป็นคำตอบสุดท้าย ที่ถูกนำมาใช้ในโครงการ Kameoka Minus Project ที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น : ดูข้อมูลเพิ่มเติม >>> กรณีศึกษา “การใช้ถ่านบำรุงดินจากไม้ไผ่”
เพราะ :
- ถ่านช่วยแก้ปัญหาดินกรด อันเนื่องมาจากฝนกรด ที่มาจากโรงงานปิโตรเคมี ภูเขาไฟระเบิด และระเบิดปรมาณู
- ถ่านช่วยฟอกและทำลาย เจือจางสารเคมีอันตรายในดิน
- ถ่านช่วยกักเก็บน้ำ ความชื้นที่มีอยู่ในอากาศ ถ่ายเทและหมุนเวียนอากาศลงในดิน ช่วยให้ดินร่วนซุย
- ถ่านเป็นแหล่งพลังงานให้กำเนิดแก่จุลินทรีย์ เป็นที่อยู่อาศัยและเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
- ถ่านปล่อยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ละลายได้ในน้ำ ออกมาตลอดเวลานานนับร้อยนับพันปี ไม่มีวันเสื่อมสลายไปจากโลก
- ถ่านยังเป็นการตรึง กักเก็บ ยึด คาร์บอนไว้บนพื้นผิวโลก ลดการปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ลดภาวะเรือนกระจก ลดภาวะโลกร้อย ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก ( Climate Change ) ได้อีกด้วย

ค่ามาตรฐานของ การเผาถ่านบำรุงดิน มีอะไรบ้าง?
- ขี้เถ้า ( Ash ) %
- ความชื้น ( Moisture ) %
- สารระเหยตกค้าง ( Volatile matter )
- ถ่านคงที่ ( Fixed carbon ) %
- พื้นที่ผิว ( Surface area ) ตรม./กรัม
- ความสามารถในการดูดซับ ( Iodine adsorption ) มม./กรัม
ข้อมูลการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ เปรียบเทียบ การเผาถ่านจากไม้ไผ่ และ ไม้อื่นๆ
ถ่านไม้ไผ่
- Moisture. 8.60 % ( ความชื้น, ร้อยละ. 8.60 )
- Volatile. 8.0 % ( สารระเหย, ร้อยละ. 8.0 )
- Ash 9 % ( เถ้า, ร้อยละ 9.0 )
- Fixed carbon 83 % ( คาร์บอนคงตัว, ร้อยละ 83 )
- ( สาระเหย + เถ้า + คาร์บอนคงตัว เท่ากับ 100 )
- Heating value สูงกว่า 7000 Caloric/g. ( ค่าความร้อน, แคลอรี่/กรัม. 7,000 )
- Iodine absorbed สูงกว่า 250 mg/g ( ค่าไอโอดีน, มิลลิกรัม/กรัม. 250 )
- pH. สูงกว่า 10.3 ( ค่าความเป็นกรด เบส 10.3 )
ถ่าน ไม้เนื้อแข็ง ไม้เบญจพรรณ
- Moisture. 6.0 % ( ความชื้น, ร้อยละ 6.0 )
- Volatile. 8.2 % ( สารระเหย, ร้อยละ 8.2 )
- Ash ต่ำกว่า 3.0 % ( เถ้า, ร้อยละ 3.0 )
- Fixed carbon สูงกว่า 88.8 % ( คาร์บอนคงตัว, ร้อยละ 88.8 )
- ( สารระเหย + เถ้า + คาร์บอนคงตัว เท่ากับ 100 )
- Heating value สูงกว่า 7300 Caloric /g. ( ค่าความร้อน, แคลอรี่/กรัม. 7,300 )
- Iodine absorbed สูงกว่า 300 mg/g ( ค่าไอโอดีน, มิลลิกรัม/กรัม. 300 )
- pH. สูงกว่า 10.1 ( ค่าความเป็นกรด เบส 10.1 )
ผลวิเคราะห์
ผลสรุป จากการทดสอบ การเผาถ่านที่ใช้บำรุงดิน จึงควรเป็นถ่านที่เผามาจากไม้ไผ่
เมื่อนำถ่านไปวิเคราะห์ ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ จะพบว่าในถ่านหนึ่งก้อน ประกอบด้วย
- ความชื้น
- สารระเหย
- เถ้า
- คาร์บอนคงตัว
นั่นคือ…ในถ่าน 1 ก้อน จะมีขี้เถ้าเป็นส่วนประกอบหนึ่งเสมอนั่นเอง ( ความชื้น + สารระเหย + เถ้า + คาร์บอนคงตัว = 100 )
คุณสมบัติจำเพาะของถ่าน คือ
- การให้ความร้อน
- การดูดซับ
- ความเป็นด่าง
วิธีการวัดค่าโอห์ม ( ค่าความต้านทานไฟฟ้า )
- ชิ้นถ่านยาวแค่ไหน จี้วัดที่หัว ท้าย ทุกชิ้น ตามความยาวของถ่านแต่ละชิ้น
- ถ่านที่จะทำไปทำผลิตภัณฑ์ใช้กับร่างกายโดยตรง ค่าความต้านทานไฟฟ้าต้องให้ต่ำกว่า 100 Ω นะครับ จึงจะใช้ได้

ข้อควรคำนึงการใช้ “ถ่านบำรุงดิน”
- ถ่าน ที่เผาด้วยอุณหภูมิต่ำ อย่าคาดหวังว่าจะเก็บน้ำได้ดีเท่าถ่านที่เผาด้วยอุณหภูมิสูง
- ถ่านที่เผาด้วยอุณหภูมิต่ำ อย่าคาดหวังว่าจะดูดซับความชื้น ( น้ำ ) ได้ดีเท่าถ่านที่เผาด้วยอุณหภูมิสูง
- ถ่านที่เผาด้วยอุณหภูมิต่ำ อย่าคาดหวังว่าจะเป็นที่อยู่ให้จุลินทรีย์ ช่วยให้จุลินทรีย์เกิดขึ้นมาใหม่ได้ดีเท่าถ่านที่เผาด้วยอุณหภูมิสูง
- ถ่านที่เผาด้วยอุณหภูมิต่ำ อย่าคาดหวังว่าจะแก้ปัญหาดินกรดได้ดีเท่าถ่านที่เผาด้วยอุณหภูมิสูง
ถาม… ทำไมพืชที่ตายทับถมกองทิ้งไว้ จึงไม่ย่อยสลาย หรือย่อยสลายช้ามาก
ตอบ…อ๋ออออ ก็เพราะจุลินทรีย์ดี ๆ ที่ทำหน้าที่ย่อยสลายพืช ตายเพราะถูกฆ่าด้วยสารเคมี ที่เราราดฉีดพ่น ลงไปในดินและสะสมหมักหมมไว้มากมาย จนจุลินทรีย์ไม่เหลือพอที่จะย่อยสลายพืชที่ตายและกองทับถมกันอยู่
ถาม…ทำไมเราจึงต้องเลี้ยงจุลินทรีย์ และ ทำน้ำหมักจุลินทรีย์
ตอบ…อ๋ออออ เพราะจุลินทรีย์ดี ๆ ที่เคยมีตามธรรมชาติมากมาย ตายหมด เพราะถูกฆ่าโดยสารเคมี ที่เราราด ฉีดพ่น ลงในดิน มานานติดต่อหลายสิบปี จนไม่มีจุลินทรีย์ดี ๆ เหลืออยู่ตามธรรมชาติ จึงต้องพากันมาเลี้ยงจุนทรีย์ พากันมาทำน้ำหมักจุลินทรีย์อยู่ทุกวันนี้
การฝังถ่านไว้ในดิน จะช่วยให้จุลินทรีย์ดี ๆ กลับมามีชีวิตตามธรรมชาติอีกครั้ง
วงจรธรรมชาติที่ขาดช่วงไปจะกลับคืนมา มีพืช มีรากพืช มีจุลินทรีย์คอยย่อยสลายรากพืชให้กลับไปเป็นอาหารของพืช
ถ่านบำรุงดิน
- ต้องจดและจำไว้เลยนะว่า…ถ่านไม่ใช่ปุ๋ย ถ่านไม่ใช่ปุ๋ย ถ่านไม่ใช่ปุ๋ย
แต่…ถ่านทำหน้าที่ :
- เก็บน้ำ
- ดูดซับความชื้น
- เป็นที่อยู่ที่อาศัย และเป็นที่เกิด ที่ขยายพันธุ์ ของจุลินทรีย์
- แก้ปัญหาดินกรด เพราะถ่านมีค่าความเป็นด่าง pH สูงกว่า 9
- ให้แร่ธาตุ แคลเซียม , โพแทสเซียม , แมกนีเซียม
- และเก็บปุ๋ย เก็บอาหาร ไว้ให้พืชดูดกิน
การนำถ่านบำรุงดินไปใช้ในการปลูกพืช ผัก ผลไม้ ต้นไม้ จึงต้องผสมปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก หรือ น้ำหมักจุลินทรีย์ ก่อนนำไปใช้ในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับสภาพดินในที่นั้น ๆ
ข้อแนะนำการใช้ถ่านบำรุงดิน ( ข้อควรระวัง )
- เพิ่มหรือลดปริมาณที่ใช้ขึ้นอยู่กับความเป็นกรดของดินและชนิดของพืช
- ถ่านถูกระบุว่าเป็นวัสดุปรับปรุงดินเนื่องจากการซึมผ่านของน้ำสูง แต่เนื่องจากมีความสามารถในการกักเก็บน้ำสูงจึงสามารถใช้กับดินทรายได้
- เมื่อใช้ดินเหนียวหรือดินที่เป็นกรดอื่น ๆ ให้ใช้จำนวนมาก
- ใช้ถ่านในดินที่เป็นด่างให้น้อยลง
- หลังจากผสมถ่าน ดิน ปุ๋ย น้ำ แล้วปลูก
- โปรดปฏิบัติตามข้อควรระวังในระหว่างการใช้งานตามข้อกำหนดการปรับปรุงดินทางด้านธรณีวิทยา
- ควรใช้เป็นถ่านไม้ไผ่ แต่สามารถใช้กับถ่านไม้อื่น ๆ ได้ ทุบ หรือ บดแบบหยาบ ๆ
ส่วนผสมสำหรับการปลูกต้นไม้ ( อัตราส่วน 1:1:1:1:1 )
1 ดิน : 1
2 ปุ๋ยคอก : 1
3 แกลบดิบ : 1
4 แกลบดำ ถ่านแกลบ : 1
5 ปุ๋ยหมักแห้งชีวภาพ : 1
วิธีทำผสมดินปลูกต้นไม้
- บี้ดินที่เป็นก้อนๆให้ละเอียด
- ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
- ปลูกในกระถาง, ถุง หรือสำหรับเพาะชำได้
- ถ้าปลูกในดิน เตรียมถ่านผสมกับปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก หรือ น้ำหมักจุลินทรีย์ ในอัตราส่วน ถ่าน 2-3 ส่วน / ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก หรือ น้ำหมักจุลินทรีย์ 1 ส่วน คลุกผสมแช่ หมัก ให้เข้ากัน รวมเป็น 1 ส่วน
- ขุดหลุมลึกสัก 60 ซม. กว้าง 20 ซม. รอบ ๆ ต้นไม้ที่เราปลูกใส่ถ่านที่เราเผาเอง ผสมด้วยปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก หรือน้ำหมักจุลินทรีย์ สิ่งที่เป็นอาหารของต้นไม้ ฝังไว้ในหลุมที่ขุดไว้ให้เต็มทุกหลุม รอดูการเจริญเติบโต และแข็งแรงของต้นไม้ที่เราปลูก
- ถ้าไม่ต้องการปลูกพืช ผัก ผลไม้ ต้นไม้ เพียงแต่ต้องการพลิกฟื้นผืนดินที่เสื่อมสภาพ ดินเลว ดินกรด ดินขาดน้ำเพราะความแห้งแล้ง ให้ฟื้นคืนกลับมา เพื่อต้นไม้ต้นหญ้าพอได้อาศัยเกิดและมีชีวิตอยู่รอดได้บ้าง ฝังถ่านอย่างเดียวล้วน ๆ ฝังถ่านไว้ลึกลงไปในพื้นดิน 1 กก./ตร.ม. ปากหลุมมีดินกลบลึกสัก 10 ซม. ฝังทิ้งไว้ให้ถ่านดูดซับความชื้น มีความชื้นจุลินทรีย์ก็มาเกิด มาอาศัยเริ่มวงจรของสิ่งมีชีวิตอีกครั้ง เห็นผลใน 3 – 5 – 10 – 20 ปี
- ปุ๋ยหมัก : ถ่าน
- 1,000 : 500 กก./ ไร่
- 0.6 : 0.3 กก./ตรม.
- 6 : 3 ขีด/ ตรม.
- ถ้าดินเลวมากใส่ ถ่าน 20-25% ต่อพื้นที่ 1 ตรม ลึก 1 ฟุต ประมาณ 1 กก / ตรม
- ถ้าเสริมคุณภาพดิน 10% ประมาณ 1 ขีด / 1 ตรม ( ดิน 100 : ถ่าน 20 : ปุ๋ยคอก 10 )
ไม้ไผ่ที่เหมาะนำมาเผาทำถ่านไม้ไผ่บำรุงดิน
ไผ่เลี้ยง, ไผ่ตง เผาถ่านดีสุด ควรมีอายุ 3 ปีขึ้นไป
ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจาก ท่านผู้เฒ่าเผาถ่าน อ.กิตติ เลิศล้ำ