ศัตรูพืช
- โรคพืช
- แมลงศัตรูพืช
- สัตว์ต่างๆ
แมลงศัตรูพืช – นักกีฏวิทยา
แมลงศัตรูพืช – ระยะเพาะปลูก จนถึงเก็บเกี่ยว
- แมลงศัตรูพืชกลุ่มที่เข้าทำลายทางใบด้วยการกัดกิน ได้แก่ กลุ่มของ ตั๊กแตน หนอนผีเสื้อ ด้วงปีกแข็ง เป็นต้น
- แมลงศัตรูพืชของกลุ่มที่เข้าทำลายในลักษณะของการดูดหรือเจาะกินน้ำเลี้ยงก็จะมีกลุ่มของ ไร เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยจักจั่นสีเขียว เพลี้ยจักจั่นฝ้าย เหล่านี้เป็นต้น
- แมลงศัตรูพืชที่เข้าทำลายโดยการกัดกินรากพืช ได้แก่ กลุ่มของด้วงงวง ด้วงดีด ด้วงดิน เหล่านี้เป็นต้น
- แมลงศัตรูพืชยังสามารถทำให้เกิดลักษณะอาการปุ่มปม ได้แก่ กลุ่มของต่อ แตน
แมลงศัตรูพืช – หลังการเก็บเกี่ยว
- แมลงศัตรูพืชในกลุ่มนี้ ตัวอย่างเช่น พวกมอด ปลวก ปลวกก็เป็นตัวที่เข้าทำลาย ในส่วนของรากพืชได้เช่นเดียวกัน
ในการจัดการ ควบคุมศัตรูพืช มีวิธีในการจัดการด้วยกันหลากหลายวิธี
- ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเขตกรรม
- การจัดการโดยวิธีกล
- การจัดการทางฟิสิกส์ ( กายภาพ ) หรือว่า Physical Method
- การจัดการโดยการใช้สารเคมี ซึ่งก็เป็นวิธีการที่นิยมปฏิบัติกัน แต่ก็อย่างที่เราทราบกันดีว่าการใช้สารเคมี มักจะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ใช้ รวมทั้งมีสารพิษตกค้าง ที่ตกค้างอยู่ในผลผลิตทางการเกษตรด้วย
นอกจากการควบคุมแมลงศัตรูพืชดังที่กล่าวไป ก็จะมีการควบคุมศัตรูพืชอีกวิธีการหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมและได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี นั่นก็คือ
การควบคุมศัตรูพืชด้วยชีววิธี หรือว่า Biocontrol การควบคุมศัตรูพืช
โดยชีววิธีก็เป็นการใช้ศัตรูตามธรรมชาติในการควบคุมศัตรูพืชพูดง่าย ๆ ก็คือเราใช้สิ่งที่มีชีวิตในการควบคุมศัตรูพืช ไม่ว่าจะเป็นแมลงศัตรูพืชหรือโรคพืช
- จุลินทรีย์ที่เราใช้ในการควบคุมแมลงศัตรูพืชมีด้วยกันหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของเชื้อราที่เรารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี เช่น เชื้อราขาวบิวเวอเรีย ( Beauveria spp. ), เชื้อราเขียวเมธาไรเซียม ( Metarhizium spp. )
- ในกลุ่มของในเชื้อแบคทีเรีย ก็มีกลุ่มของแบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงเยนซีส ( Bacillus Thuringiensis ) หรือที่เรารู้จักกันก็คือตัวของ BT ที่ใช้ในการควบคุมหนอนแมลงศัตรูพืช
- กลุ่มของจุลินทรีย์เป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยม แล้วก็นำมาใช้อย่างแพร่หลาย
- อีกกลุ่มคือแมลงที่เป็นศัตรูกันตามธรรมชาติ เช่นกัน ก็คือกลุ่มตัวห้ำ ตัวเบียน ซึ่งในกลุ่มตัวห้ำก็จะมี มวนพิฆาต มวนเพชฌฆาต แมลงหางหนีบ
- กลุ่มของตัวเบียน ก็จะมีแตนเบียน ทั้งเบียนระยะหนอน เบียนในระยะที่เป็นไข่
ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้นับว่า เป็นศัตรูธรรมชาติที่เรานำมาใช้ ในการควบคุมแมลงศัตรูพืช

วิธีการขยายเชื้อราควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืชบนข้าวสุก
- เริ่มต้นตั้งแต่การเลือกข้าว เราจะใช้ส่วนของข้าวเเข็งในการหุง
- หุงในอัตราส่วน 3 ต่อน้ำ 2 ส่วน
- หลังจากนั้นเมื่อข้าวสุก เราจะทำการคลุกเคล้าส่วนของข้าวให้เข้ากัน ทำให้ข้าวส่วนด้านล่างมาผสมกับส่วนของข้าวด้านบน
- ตักข้าวในตอนที่ข้าวยังร้อนอยู่ เพื่อลดโอกาสในการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ด้านนอก
- ตักข้าวประมาณ 2-3 ทัพพี ก็จะอยู่ประมาณ 200 กรัม ต่อถุง
- ในถุงร้อนขนาด 7 X 11 นิ้ว หลังจากนั้นเราจะพับปากถุง แล้วก็ผึ่งข้าวไว้ให้เย็น
- หลังจากที่ข้าวเย็นแล้ว ก็จะเป็นข้าวตรงนี้ที่เราตากไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
- เราจะทำการใส่หัวเชื้อลงไป ในถุงข้าวที่เย็นแล้ว เราต้องมั่นใจว่าข้าวที่เราจะทำการใส่หัวเชื้อลงไปนั้นเย็นแล้ว
- ถ้าหากข้าวยังร้อนอยู่ จะทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่เราจะเพิ่มปริมาณ มีโอกาสที่จะตายได้เราจะใส่ลงไปเล็กน้อยปริมาณเล็กน้อย เท่าหัวไม้ขีดไฟ
- แล้วก็ทำการมัดปากถุงด้วยหนังยาง เราจะมัดบริเวณด้านบน เพื่อเพิ่มอากาศในถุง ก็จะมัดบริเวณปลาย ๆ ถุง หลังจากที่เรามัดด้วยหนังยางแล้ว
- ทำการคลุกเคล้าหัวเชื้อที่ใส่เข้าไปให้เข้ากัน
- แล้วก็ใช้ปลายเข็มหมุดที่ฆ่าเชื้อด้วยเเอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ แล้วทิ่มลงไปบริเวณใต้หนังยาง ประมาณ 20-30 ครั้ง เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนอากาศภายนอกกับภายใน แล้วก็วางเชื้อจุลินทรีย์บ่มไว้ ไม่โดนแสงแดด ไม่โดนฝน
กลุ่มเชื้อรา มีวิธีการหมักขยายเชื้อ เหมือนกัน ต่างกันที่จำนวนวัน
- สำหรับเชื้อราเขียวไตรโคเดอร์มา ( Trichoderma ) ใช้เวลาในการบ่ม 5-7 วัน นำไปใช้ได้
- ตัวเชื้อราไตรโคเดอร์มา (Trichoderma)ที่เจริญเต็มที่แล้ว มีลักษณะเป็นสีเขียว อาจจะมีสีขาวขึ้นปนได้ นั่นก็คือเส้นใยของเชื้อราไตรโคเดอร์มา ( Trichoderma )
- ป้องกัน : โรคพืชโดยเฉพาะโรครากเน่า โคนเน่าในไม้ผล พืชผัก
- เชื้อราเขียวเมธาไรเซียม ( Metarhizium ) จะใช้เวลาบ่ม 5-7 วัน ( ออกสีเขียวขี้ม้า อาจจะมีส่วนสีของสีเหลืองปนได้ เป็นลักษณะปกติ )
- ป้องกัน : ควบคุมแมลงจำพวก ด้วง, หนอนด้วง, ปลวก, ตั๊กแตน, หนอนผีเสื้อ, มวน, และเพลี้ยต่างๆ
- เชื้อราขาวบิวเวอร์เรีย ( Beauveria ) จะใช้เวลาบ่มนานกว่าที่ประมาณ 14 วัน ( ตัวนี้จะมีลักษณะเป็นสีขาว ต้องไม่มีลักษณะหรือสีอย่างอื่นขึ้นปะปน )
- ป้องกัน : แมลงจำพวก แมลงหวี่ขาว, หนอนเจาะสมอฝ้าย, ไรแดง, เพลี้ยไฟ, เพลี้ยอ่อน, เพลี้ยไก่แจ้ส้ม, เพลี้ยจักจั่น, เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เป็นต้น
วิธีการนำเชื้อสด ไตรโคเดอร์มา ( Trichoderma ) ไปใช้
- ทำการเทเชื้อสด ไตรโคเดอร์มา ( Trichoderma ) ลงไปบนผ้าขาวบางสีขาว หลังจากนั้นเราจะทำการขัด บีบขยำนวดกับน้ำ ประมาณ 0.5 ลิตร ไปมา
- ขัด บีบ นวดจนกว่าสปอร์จะออกมาให้มากที่สุด และกรอง ด้วยผ้าขาวบาง เพื่อป้องกัน หัวฉีดอุดตัน ( กรณีคลุกเคล้าผสมวัสดุปลูกที่ไม่ต้องฉีด พ่นไม่จำเป็นต้องกรอง )
- อัตราส่วน 1 ถุง / น้ำ 20 ลิตร
- ใช้ราด รด หรือฉีดพ่นลงดิน เพื่อลดเชื้อก่อโรค ที่อาจจะมีอยู่ในดิน ลดโอกาสในการเกิดโรครากเน่า โคนเน่า
- หรือทำการใส่น้ำลงไปแล้ว ทำการคลุกเคล้ากับวัสดุปลูก ( กรณีนี้ไม่ต้องขัด และกรอง สามารถนำไปผสมวัสดุปลูกได้เลย )
- เราสามารถใส่ เพื่อเพิ่มปริมาณของเชื้อราไตรโคเดอร์มาลงไปเพื่อฆ่าเชื้อวัสดุปลูกที่เราได้มา มันอาจจะมีโอกาสที่มีเชื้อราสาเหตุโรคพืชที่ปนเปื้อนมากับวัสดุปลูก หรือว่าปนเปื้อนอยู่ในสภาพแวดล้อม
- การใส่เชื้อราไตรโคเดอร์มาคลุกเคล้าลงไปนี้ และถ้าบ่มไว้ได้ประมาณ 7-10 วันก่อนที่จะนำใช้จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ทำให้เชื้อราไตรโคเดอร์มาเพิ่มปริมาณ และฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในวัสดุปลูก
นอกจากใช้ในการคลุกวัสดุปลูกแล้วเรายังสามารถนำเชื้อราไตรโคเดอร์มา ที่อยู่ในรูปน้ำใส่อุปกรณ์ ถ้าเราฉีดพ่นตามบ้านเรือนก็สามารถฉีดพ่นไปที่บริเวณดินบริเวณโคนต้นพืชโดยไตรโคเดอร์มาเราจะเน้นฉีดลงไปในดิน เพราะว่าเป็นที่อยู่ของเชื้อตามธรรมชาติเชื้อราจะเพิ่มปริมาณ และก็ฆ่าเชื้อราอื่นที่เป็นสาเหตุโรคพืชในดิน

เชื้อรา บิวเวอร์เรีย ( Beauveria ) และเมธาไรเซียม ( Metarhizium )
- ใช้วิธีขัด และกรองเหมือนเชื้อราไตรโคเดอร์มา ( Trichoderma )
- อัตราส่วน 1 ถุง / น้ำ 4 ลิตร
วิธีใช้
- ฉีดพ่นบนใบและใต้ใบ เพื่อให้สัมผัสกับแมลงศัตรูพืช พอแมลงศัตรูพืชสัมผัสกับสปอร์และเส้นใยของเชื้อราทั้ง 2 ชนิดนี้ จะทำให้แมลงศัตรูพืชป่วยแล้วก็เป็นโรคตาย
- การตายขึ้นอยู่กับว่าเป็นแมลงศัตรูชนิดใด อัตราส่วนหรือว่าความเข้มข้นที่รับเชื้อจุลินทรีย์เหล่านี้เข้าไป อาจจะตั้งแต่ 2 วัน 3 วัน 5 วัน แล้วแต่ชนิดของแมลง
- ยกตัวอย่างกลุ่มแมลงมีขนาดตัวเล็ก ๆ เช่น พวกเพลี้ยไฟก็จะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน แมลงก็จะตายหลังจากที่รับบิวเวอร์เรียหรือเมธาไรเซียม
ซึ่งเราสามารถนำวิธีการเหล่านี้ ไปปฏิบัติใช้ได้เลยในการควบคุมโรคแมลงศัตรูพืช ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์ทั้ง 3 ตัวนี้ เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่เป็นอันตรายทั้งกับคน สัตว์ สิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถใช้แล้วไม่มีผลตกค้างหรือว่าสารพิษตกค้างกับผลผลิตเป็นการควบคุมศัตรูพืชโดยใช้ศัตรูตามธรรมชาติ
เคล็ดลับการเพิ่มประสิทธิภาพของจุลินทรีย์เชื้อราทั้ง 3 ชนิด
เชื้อราเขียวไตรโคเดอร์มา ( Trichoderma ), เชื้อราขาวบิวเวอร์เรีย ( Beauveria ) และเชื้อราเขียวเมธาไรเซียม ( Metarhizium ) คือเราเน้นฉีดในช่วงเย็น
ขอเเนะนำเลยว่าให้เน้นฉีดช่วงเย็น เนื่องจากช่วงเย็นไม่มีแสงแดดจัด ที่มีความเข้มแสงเยอะ และอุณหภูมิในช่วงกลางคืนหรือช่วงเย็น จะช่วยทำให้เชื้อราเหล่านี้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ก็คือสามารถงอกสปอร์แล้วแทงเข้าไปในตัวของแมลง ทำให้แมลงป่วยเป็นโรคตายได้ประสิทธิภาพจะดีมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก อ.อุษณีย์ แสนสบาย ศูนย์วิจัยควบคุมศัตรูพืชโดยชีวินทรีย์แห่งชาติ ภาคเหนือตอนบน ม.แม่ไจ้