ชื่อ – ชนิด พันธุ์
ส้มโอเหลืองไต้หวัน หรือ ส้มโอไร้เมล็ด
ชื่อวิทยาศาสตร์
Citrus Maxima (Burm.)
ประวัติ
มีถิ่นกำเนิดจากประเทศไต้หวัน
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ราก ใบ ดอก ผล )
- ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เป็นเนื้อไม้แข็ง มีผิวเรียบ ลำต้นมีกิ่ง มีหนามยาวเล็กน้อย เปลือกมีสีน้ำตาล
- ใบ เป็นใบเลี้ยงคู่ มีลักษณะคล้ายกับใบไม้ 2 ใบ ต่อกันอยู่ คอดกิ่วที่กลางใบเป็นตอนๆ จะให้เห็นใบเป็น 2 ตอน แตกเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ใบมีสีเขียวแก่ พื้นผิวใบเรียบเกลี้ยง เป็นมัน ค่อนข้างหนา มีกลิ่นหอมมาก เพราะมีต่อมน้ำมันอยู่ ใบด้านบนมีสีเข้ม ใต้ใบมีสีอ่อนกว่า มีขนอ่อนๆอยู่
- กิ่ง มีลักษณะกลมๆ จะมีใบ มีขนและมีหนามแหลมคม อยู่ทั่วๆไป มีสีเขียวแก่
- ดอก ออกเป็นช่อ หรือออกเดี่ยว จะมีดอกออกเป็นกระจุก กลีบดอกมีสีขาว มีเกสรสีเหลือง และมีกลิ่นหอม ออกตามปลายกิ่งอ่อน ดอกมีขนาดใหญ่
- ผลคล้ายน้ำเต้า มีเนื้อกุ้งที่แน่นและแห้ง เรียงแถวกันเป็นระเบียบ ไม่แฉะน้ำ แต่รสชาติฉ่ำหวาน แอบออกรสเปรี้ยวปนมานิดๆ เนื้อกรอบไม่เเข็งกระด้างแกะกินไม่ติดมือ
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 5-10 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ทรงพุ่มขนาด 4-6 เมตร
ความต้องการแสง
- ชอบแสงแดด 100%
ความต้องการน้ำ
- ช่วงที่ส้มโออายุ 1-3 ปี จะให้น้ำในปริมาณค่อนข้างมากและสม่ำเสมอ หลังจากต้นส้มโอเริ่มอยู่ตัว อายุ 3 ปีขึ้นไป จึงเริ่มให้น้ำประมาณ 3 วัน/ครั้ง
ชอบดินประเภท
- ชอบดินร่วนปนทราย
ประโยชน์การใช้สอย
- ผลรับประทานส้มโอช่วยขับสารพิษในร่างกายได้
- ผลมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
- ช่วยให้เจริญอาหาร เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่เบื่ออาหาร ปากไม่รู้รสอาหาร
- ส้มโอมีวิตามินซีสูง จึงช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ใบช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ด้วยการนำใบมาตำแล้วพอกบริเวณศีรษะ
- ผลช่วยแก้อาการเมาสุรา
- ราก, เมล็ดช่วยแก้หวัด
- เปลือก, ราก, เมล็ดประโยชน์ของส้มโอช่วยแก้อาการไอ
- ดอก, เปลือกช่วยขับเสมหะ
- ดอกช่วยแก้อาการปวดกระบังลม
การเก็บเกี่ยว
- เริ่มออกดอกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม และออกดอกมากที่สุดในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์
การขยายพันธุ์
- การตอนกิ่ง
- การเสียบยอด
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ