ชื่อ – ชนิด พันธุ์
ส้มเขียวหวาน หรือ มะเขียว,มะบาง,ส้มขี้ม้า,ส้มแก้วเกลี้ยง,ส้มแก้วโบราณ,ส้มจันทบูร,ส้มตรังกานู,ส้มแป้นกระดาน,ส้มแป้นขี้ม้า,ส้มแสงทอง,ส้มจุก,ส้มแป้นเกลี้ยง,ส้มแป้นหัวจุก,มะขุน,มะแง,มะจุก,ส้มจุก,ส้มเชียงตุง,ส้มเหม็น,ซาโบโค,ซ่าซุยโบโข่,ลีมากุเละนีปี้ห์,ลีมากุเละลอเก๊าะ,ลีมาจีนา,ลีมายือโบ,จวี๋,ชิงผี เฉินผีจวี๋,จวี๋เหอ,เปลือกส้มเขียวหวาน, ส้มจีนเปลือกล่อน
ชื่อวิทยาศาสตร์
Citrus Reticulata Blanco
ประวัติ
ถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ราก ใบ ดอก ผล )
- ต้นส้มเขียวหวาน มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดเป็นพรรณไม้พุ่มขนาดย่อม มีความสูงของต้นได้ประมาณ 3-5 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านมาก กิ่งอ่อนมีหนาม
- ใบส้มเขียวหวาน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่มนรี ปลายใบแหลม ส่วนขอบใบเรียบหรือมีฟันเลื่อยเล็กน้อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-4 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5.5-8 เซนติเมตร แผ่นใบเป็นสีเขียวเรียบเป็นมัน เนื้อใบแข็ง มีต่อมน้ำมันอยู่ตามแผ่นใบ
- ดอกส้มเขียวหวาน ออกดอกเดี่ยวหรือออกเป็นช่อบริเวณง่ามใบและปลายยอดกิ่ง มีกาบใบ 5 ใบ มี 5 กลีบ ดอกมีขนาดเล็กเป็นสีขาวอมเหลือง ดอกมีเกสรเพศผู้ประมาณ 18-24 อัน ส่วนเกสรเพศเมียมีประมาณ 3-5 อัน มีรังไข่ 9-15 อัน
- ผลส้มเขียวหวาน ผลมีลักษณะค่อนข้างกลม เนื้อนิ่ม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-7 เซนติเมตร เปลือกนอกเป็นสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมเหลืองหรือสีเหลืองแดง ผิวผลเรียบเกลี้ยงและเป็นมัน เปลือกอ่อน ผิวหนา และมีน้ำมันที่เปลือก ภายในมีเนื้อลักษณะฉ่ำน้ำ แบ่งออกเป็นกลีบ ๆ มีสีส้ม แต่ละกลีบจะมีเมล็ดสีขาวอยู่ภายใน เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายแหลม สีขาวนวล (เปลือกสีเขียวนิยมนำมาตากแห้งใช้เป็นยา มีรสปร่าหอมร้อน)
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 3 – 5 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ทรงพุ่มกว้าง 2 – 4 เมตร
ความต้องการแสง
- ต้องการแสงแดด 100%
ความต้องการน้ำ
- รดน้ำวันละ 1 ครั้ง ให้ชุ่ม
ชอบดินประเภท
- ชอบดินร่วน ดินร่วนปนทราย ดินเหนียว
ประโยชน์การใช้สอย
- ผลใช้รับประทานสดเป็นผลไม้ ใช้ทำน้ำส้ม ผลไม้กระป๋อง ฯลฯ ส่วนเปลือกผลสามารถนำมาใช้ทำน้ำมันสลัด สกัดเพกทิน[4]
- ส่วนประโยชน์ในด้านสุขภาพของการรับประทานส้มเขียวหวานก็เหมือนกับส้มทั่วไป เช่น ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน รักษาโรคเหงือก ช่วยทำให้เจริญอาหาร ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ช่วยขจัดความหมองคล้ำ ชะลอการเกิดริ้วรอย มีบ้างที่นำมาใช้รักษาสิว เป็นต้น
การเก็บเกี่ยว
- ออกดอกในเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม
- ผลแก่สามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม
การขยายพันธุ์
- การเพาะเมล็ด การติดตา การเสียบกิ่ง และการตอนกิ่ง
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ