เตาเผาถ่านเพื่อบำรุงดิน เตาตายักษ์  ( Ta Ya Ki ) อาจารย์ กิตติ เลิศล้ำ

เจตนารมณ์ การสร้างเตา Ta Ya Ki ของเฒ่าเผาถ่าน

 

1.ใช้เผาพืช กิ่งไม้ ต้นไม้ ทุกชนิดให้เป็นถ่าน เพื่อตรึงหรือกักเก็บคาร์บอนไว้บนพื้นผิวโลก ไม่ให้พืชต้นไม้เน่าเปลื่อย ย่อยสลายกลายเป็นก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ที่พืชต้นไม้ดูดซับสะสมไว้ ลอยกลับคืนสู่ชั้นบรรยากาศอีกครั้งหนึ่ง ช่วยลดการสร้างภาวะเรือนกระจก ช่วยลดการก่อปัญหาโลกร้อน

 

2.ใช้เผาพืช กิ่งไม้ ต้นไม้ ให้เป็นถ่านเพื่อใช้ทำเป็นถ่านปรับปรุงบำรุงดิน ( ถ่าน Bio หรือ Biochar ) ช่วยบำรุงดินที่เสื่อมสภาพ ดินเลว ดินกรด ให้ฟื้นคืนกลับมาดีเหมือนเดิม เพราะถ่านจะทำหน้าที่เป็นเขื่อนแห้งคอยกักเก็นน้ำ ความชื้น ถ่านจะทำหน้าที่เป็นบ้านให้จุลินทรีย์อยู่อาศัยและเกิดใหม่ได้ดียิ่งขึ้นเพราะมีความชื้นที่เหมาะแก่การเกิดของจุลินทรีย์ ยิ่งไปกว่านั้นถ่านยังช่วยเพิ่มแร่ธาตุที่ละลายได้ในน้ำอีกมากมายหลายชนิด ซึ่งล้วนเป็นแร่ธาตุที่พืชต้องการทั้งสิ้น

 

3.ใช้เผาพืช กิ่งไม้ ต้นไม้ ให้เป็นถ่านหุงต้ม และพัฒนาเพิ่มอุณหภูมิที่เผาถ่านให้สูงขึ้นเพื่อทำเป็นถ่านปิ้ง ย่าง ที่ปลอดภัย

 

4.ใช้เผาพืช กิ่งไม้ ต้นไม้ ให้เป็นถ่านเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ดี กำจัดมลพิษที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อมทั่วไป ทั้งในน้ำและอากาศ ด้วยการพัฒนาเพิ่มอุณหภูมิที่เผาถ่านให้สูงขึ้น

 

5.ถ่านที่ได้จากเตา Ta Ya Ki ของเฒ่าเผาถ่าน ยังสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดค่าใช้จ่ายให้แก่เกษตรกร สามารถต่อยอดเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อีกด้วย

 

นี่คือ…เจตนารมณ์ การสร้างเตา Ta Ya Ki ของเฒ่าเผาถ่าน

เข้าใจให้ตรงกันตามนี้นะครับทุกท่าน

ข้อแตกต่างระหว่างเตาตายักษ์กับเตาแบบถังครึ่ง ( ถัง 200 ลิตร ต่อกันถังครึ่ง )

 

ตาแบบถังครึ่ง

เป็นการเผาถ่านในระบบปิด กึ่งอบกึ่งเผา มีการควบคุมอากาศในระหว่างการเผาไม้ให้กลายเป็ถ่าน 

จะได้ถ่านที่มีลักษณะคงรูปไม้ที่เผา ไม่แตก หักมาก เนื้อถ่านจะแน่น

 

เตาตายักษ์ 

เป็นการเผาถ่านในระบบเปิด เผาแบบเปิด ๆ ตะบี้ตะบันเผา โดยออกแบบเตาให้จำกัดการป้อนอากาศให้พอเหมาะกับการเผาไหม้ไม้ภายในเตาอย่างเหมาะเพื่อไม่ให้ไม้ถูกเผาไหม้จนกลายเป็นขี้เถ้ามากเกินไป

จะได้ถ่านที่มีลักษณะไม่คงรูปไม้ที่เผา ถ่านจะแตก หักมาก เนื้อถ่านจะหลวม ๆ บวม ๆ เบา ๆ

แต่สามารถทำอุณหภูมิสูงมากกกว่าเตาแบบถังครึงเกินเท่าตัว ในเวลาอันสั้น

คุณภาพของถ่านขึ้นกับอุณหภูมิ และ การนำถ่านไปทำการตุ้นให้เกิดการแตกตัวมากขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิว เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับ ด้วยกระบวนการ Activated เรียก Activated carbon ที่นักวิจัยไทยตั้งชื่อเรียกเป็นภาษาไทยว่า ถ่านกัมมันต์

การเผาถ่านด้วยเตาตายักษ์ และดับด้วยน้ำ ช่วยให้ถ่านดับทันที

• ทำให้ได้ถ่านมาก
• ทำให้ถ่านแตกตัวเพิ่มขึ้น
• ทำให้พื้นที่ผิวมากขึ้น

จึงเหมาะสำหรับทำเป็นถ่านบำรุงดิน เพราะ

• เก็บน้ำได้มากขึ้น
• ดูดความชื้นได้ดีขึ้น
• เป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ได้มากขึ้น
• เก็บรักษาปุ๋ยที่เราใส่ลงไปได้มากและนานขึ้น

อนุโลมให้ใช้การดับด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากถ่านด้านอื่นที่จำเป็นต่อชีวิตและครัวเรือน 

ถ้าเรามีฝาเตาแบบปิดสนิท น่าจะดีกว่ามั้ยจะได้ไม่ต้องใช้น้ำดับ

การดับโดยปิดฝา : คือการปิดไม่ให้อากาศเข้าไปในเตา เมื่อขาดอากาศไฟก็จะดับ แต่จะไม่ดับทันที ไฟจะค่อย ๆ ดับ นั่นคือ ไฟจะเผาไหม้ต่อไปจนกว่าจะดับสนิท ถ่านกลายเป็นขี้เถ้ามากขึ้น เกิดความสูญเสียมากขึ้น และคลายก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาในขณะที่ถ่านถูกเผาไหม้

 

เหตุที่เตาไม่มีฝาปิดก้น เหตุผล … เพราะ ในขณะที่ไม้ในเตากำลังติดไฟและเกิดการไหม้อย่างรุนแรง จะมีน้ำออกมาจากเนื้อไม้ ถึงแม้จะเป็นไม้แห้งก็ตาม ก็ยังมีความชื้นหลงเหลืออยู่

 

น้ำที่กลั่นตัวออกมาจากไม้ฟืน ถ้าไหลซึมลงพื้นดินไม่ได้ ( เพราะเราใส่ฝนปิดก้นเตา ) เมื่อถูกความร้อนก็จะกลายเป็นไอ ลอยขึ้นมารบกวนกระบวนการเผาไหม้ อุณหภูมิต่ำและขึ้นช้า ทำให้การเผาไหม้ภายในเตาต้องใช้เวลานานมากขึ้น ความสูญเสียของถ่านที่ควรจะได้เพิ่มมากขึ้น

 

จะสังเกตุว่าเตาตายักษ์ เมื่อไฟเริ่มติดไฟจะเพิ่มความรุนแรงอย่างรวดเร็วและร้อนมาก ความร้อนขึ้นสูงถึง 800 – 900 °C  ในเวลาอันสั้น

 

 ไม้กลายเป็นถ่านเร็ว ถ่านสุกเร็ว และสุกดีอย่างทั่วถึง ได้ถ่านคุณภาพดี คุณภาพสูง สังเกตได้จากน้ำด่างที่ได้จากการดับถ่านในเตา เกิดจากขี้เถ้าที่ถูกเผาด้วยความร้อนสูงนั่นเอง

 

การดับด้วยน้ำ : ถ่านจะดับในทันทีที่ราดด้วยน้ำ จะไม่เกิดความสูญเสียมาก จะคลายคาร์บอนไดออกไซด์น้อย และ……… ถ่านจะเกิดการแตกตัวเพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าตัด ( ผิวหน้า ) เพิ่มช่องทางการดูดซับของถ่านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

“การดับด้วยน้ำจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการทำถ่านบำรุงดิน“

 

กรณีของการเป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ … ทั้งพื้นที่ผิวและรูพรุนของถ่านนั้นเล็กมาก เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้กล้องความละเอียดสูงส่องเท่านั้นเราจึงจะเห็นได้ จุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็กมากๆ จนสามารถเข้าไปอยู่อาศัยในรูพรุน หรือรอยแตก รอยแยก ของถ่าน ที่เล็ก ๆ ได้ครับ

 

พื้นล่างสุด อุณหภูมิจะขึ้นไปที่ 500 °C เพื่อเผาไม้ให้เป็นถ่าน หลังจากนั้นจะลดลงมาที่ 300 °C และคงอยู่อย่างนั้น เพื่อไม่ให้ถ่านถูกเผาไหม้จนกลายเป็นขี้เถ้า อุณภูมิจะสูงขึ้นไปด้านบนตามลำดับ ไม้กลายเป็นถ่านขึ้นมาตามลำดับและอบถ่านให้สุกมากขึ้นตามลำดับ ( pyrolysis ) จนกระทั้งถ่านเกือบเต็มเตา อุณหภูมิขึ้นสูงสุดมากกว่า 980 °C หยุดใส่ฟืน อุณหภูมิจึงจะค่อย ๆ ลดลงมาที่มากกว่า 750 °C เราจึงดับด้วยน้ำ

ขั้นตอนการเผาถ่านด้วยเตา Ta Ya Ki

ขั้นตอนที่ 1. ปรับพื้นที่ ๆ จะตั้งเตาให้เรียบ เก็บกวาดบริเวณรอบ ๆ เตา ให้ปลอดภัยจากไฟที่อาจกระเด็นออกมาจากเตาในขณะที่กำลังเผาถ่าน

 

ขั้นตอนที่ 2. เตรียมบัวรดน้ำหรือสายยางที่พร้อมจะใช้น้ำดับไฟได้ทันทีตลอดเวลา

 

ขั้นตอนที่ 3.ตั้งเตาบริเวณตรงกลางที่ ๆ เตรียมไว้อย่างปลอดภัยดีแล้ว เกลี่ยดินบริเวณขอบก้นเตาให้ปิดขอบก้นเตากับพื้นดินที่ตั้งเตาให้สนิท อย่าให้มีอากาศรั่วเข้าโดยรอบขอบก้นเตาอย่างเด็ดขาด

 

ขั้นตอนที่ 4.จุดไฟที่พื้นเตาให้ติด ค่อย ๆ ทยอยใส่ฟืนที่จะเผาเอาถ่าน วางฟืนลงในเตาไขว้กันไปมา โดยให้มีช่องว่างระหว่างท่อนฟืนพอสมควร ไฟจะดิดดีและเร็วขึ้นโดยอัตโนมัติ 

 

ขั้นตอนที่ 5. ทยอยใส่ฟืนต่อไปเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ครั้งที่ฟืนในเตาถูกเผากลายเป็นถ่านสูงขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกว่าถ่านจะเต็มเตา หรือต้องการจะหยุดเผาก็หยุดใส่ฟืน

 

ขั้นตอนที่ 6. รอดูเปลวไฟสีส้มข้างบนสุดของกองฟืนในเตาจนกว่าเปลวไฟสีส้มจะหมด 100 % เห็นแต่ขี้เถ้าหรือหัวหงอกขาวทั่วทั้งด้านบนของฟืนที่เผา เห็นแต่ไฟที่ติดถ่านแดง ๆ ใต้หัวหงอกขาว

 

ขั้นตอนที่ 7.ราดน้ำด้วยบัวหรือสายนางที่เตรียมพร้อมไส้แล้วทันที ราดน้ำจนมั่นใจว่าไฟในเตาดับสนิท 1,000,000 %

 

ขั้นตอนที่ 8.ยกเตาออก ย้ายเตาไปตั้งที่ใหม่ที่เตรียมไว้แล้ว เพื่อเผาเตาต่อไปได้ทันที

 

ขั้นตอนที่ 9 .เก็บที่แห้งดีแล้วนำไปใช้งานตามวัตถุประสงค์ต่อไป

 

• ถ้ามีอากาศรั่วเข้าข้างล่าง จะเป็นขี้เถ้ามากครับ
•  สิ่งที่เผา ชื้น หรือ เปียก จะมีควันมาก
• ใส่ไม้น้อย ไม่ค่อย ๆ เพิ่มไม้ให้ถ่านเต็มเตา จะได้ถ่านน้อย

ความปลอดภัยระหว่างเผาถ่าน

ความปลอดภัย ( Safety First ) สำคัญมาก ผมใช้แว่นตา ใส่หมวก ใส่รองเท้าบูท และถุงมือก่อนปฏิบัติงานทุกครั้ง ทำมาเกิน100 เตา มีครั้งหนึ่ง สะเก็ดไฟกระเด็นไปเหนือราวนมซ้าย ทะลุเสื้อ เป็นแผลพอง 

ถามว่าถ้าไม่โดนราวนม แต่กระเด็นเข้าตา อะไรจะเกิดขึ้น…จงคิดเถิด….

การเผาถ่านสำหรับการนำไปใช้งานแต่ละวัตถุประสงค์

ถ่านหุงต้ม

เมื่อไม้มีการเผาไหม้พอสมควรแล้ว เริ่มเป็นตัวนำไฟฟ้าได้บ้างแล้ว จึงเรียกว่าไม้กลายเป็น “ ถ่าน “ แล้ว

ถ่านทุกชนิดจึงนำมาทำถ่านหุงต้มได้ทั้งสิ้น

ย้ำ…ถ่านทุกชนิดจึงนำมาทำถ่านหุงต้มได้ทั้งสิ้น

 

ถ่านที่เผาจากเตาตายักษ์ในทุกอุณหภูมิ จึงสามารถนำมาทำถ่านหุงต้มได้ทันที ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของเตาตายักษ์ 

อนุโลมให้ ในกรณีการพึ่งพาตนเองด้านเชื้อเพลิง และเพื่อปากท้อง ( ซึ่งต้องมาก่อน )

 

แต่ถ่านที่ได้จากเตาตายักษ์ มีชิ้นไม่สวย และอาจติดไฟหมดเร็วกว่าถ่านที่เผาด้วยกรรมวิธีการอบ เพราะถ่านที่เผาด้วยเตาตายักษ์จะมีลักษณะแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ เนื้อบวมและน้ำหนักเบา 

 

ถ่านปิ้งย่าง

ถ่านที่เผาด้วยอุณหภูมิสูงมาก ๆ มากกว่า 800 °C เท่านั้นจึงสามารถนำมาทำเป็นถ่านปิ้งย่างได้

 

ถ่านเพื่อสุขภาพ

ถ่านที่เผาด้วยอุณหภูมิสูงมาก ๆ ตั้งแต่ 800 °C  ถึงมากกว่า 1,000 °C เท่านั้นจึงสามารถนำมาทำเป็นถ่านเพื่อสุขภาพ เพื่อผสมอาหาร เพื่อผสมขนม เพื่อทำเครื่องสำอาง และ เพื่อกิน ได้

คุณสมบัติและประสิทธิภาพของถ่านเพื่อสุขภาพ ขึ้นกับชนิดของไม้ที่มีผลต่อเนื้อถ่าน และ ปริมาณพื้นผิวของถ่าน แม้จะเผาด้วนอุณหภูมิเท่า ๆ กัน

 

หมายเหตุ : 

• ถ่านที่เลวที่สุด ถึงถ่านที่ดีที่สุด ภาษาไทย เรียก “ ถ่าน “ เหมือนกันหมด แต่คุณภาพ คุณสมบัติ และ ประสิทธิภาพของถ่าน การใช้งาน แตกต่างกันไปตามอุณหภูมิที่เผา
• ถ่านที่เลวที่สุด ถึงถ่านที่ดีที่สุด ภาษาอังกฤษ เรียก “ Charcoal “ เหมือนกันหมด แต่คุณภาพ คุณสมบัติ และ ประสิทธิภาพ การใช้งาน แตกต่างกันไปตามอุณหภูมิที่เผา

เตาเผาถ่านบำรุงดิน Ta Ya Ki หรือเตาตายักษ์

 

มีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถทำถ่านคุณภาพสูงได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ท่านจุดไฟให้ติดเป็นเท่านั้น

แม้ว่าถ่านที่ได้จะมีลักษณะแตกหัก บวม เบา ไม่งดงาม เหมือนถ่านไม้ไผ่บันตันก็ตามที

 

ทั้งนี้ก็เพื่อใช้ประโยชน์ในด่านการบำรุงดิน การกักเก็บ ( ตรึง ) คาร์บอนไว้บนพื้นโลกเป็นสำคัญ

การออกแบบและการสร้างเตาเผาถ่านบำรุงดิน Ta Ya Ki หรือเตาตายักษ์ ไม่ได้มุ่งไปเพื่อการใช้เพื่อด้านอื่น

 

ถ่านที่ได้จากเตาตายักษ์จึงเป็นถ่านที่เหมาะกับการบำรุงดินและการดูดกลิ่นดูดความชื้นเท่านั้น

ถาม…ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าไม้ที่ท่านเผากลายเป็นถ่านแล้ว …???

เปลวไฟที่เราเห็นนั้นคือแก๊สไวไฟกำลังติดไฟครับ

 

การทำงานของเตาตายักษ์ทำให้เกิดอุณหภูมิภายในเตาสูงมากกว่า 100 °C อย่างรวดเร็ว ทำให้ความชื้นและน้ำในเนื้อไม้กลายเป็นไอร้อนอย่างรวดเร็ว จึงไม่มีควัน

 

ความชื้นและน้ำในเนื้อไม้ เมื่อเจอความร้อนอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เกิดการแตกตัวกลายเป็นออกซิเจน ช่วยให้ไฟติดดี และไม่มีควัน ฝรั่งจึงเรียกกระบวนการนี้ว่า เป็นเหมือนพลังงานใต้พิภพ

 

 

สังเกตดูแสงไฟให้ดี

สำหรับท่านที่เริ่มเผาถ่านด้วยเตาตายักษ์

อย่าตกใจหรือวิตกกังวลว่า สีขาว ๆ ที่อยู่ส่วนบนของถ่านในเตาที่ท่านเผา เพราะนั่นเป็นเพียงหัวหงอกของขี้เถ้าบางๆ เท่านั้น

 

อย่ากังวลและตกใจ กลัวว่าถ่านจะเป็นขี้เถ้าเสียหมด จึงรีบดับถ่านในเตา

ท่านยังไม่ต้องรีบดับ หรือไม่ต้องเขี่ยช่วยให้ไฟติดดี ปล่อยให้เตาทำหน้าของเขาไปจนกว่าเปลวไฟจะหมด 1,000,000 % จริง ๆ

 

เพราะตราบใดที่ยังมีเปลวไฟอยู่เหนือกองถ่านในเตาอยู่ เปลวไฟจะดักเอาอากาศไปใช้เกือบทั้งหมด จะเหลือลงไปทำให้ถ่านติดไฟน้อยมาก และหัวหงอกสีขาวหรือขี้เถ้าที่คลุมอยู่ด้านบนของกองถ่าน ยังช่วยป้องกันอากาศไม่ให้ลงไปที่กองถ่านด้านล่างอีกด้วย

 

เพราะการพลิก หรือ เขี่ยถ่าน เป็นการเปิดช่องให้อากาศเข้าไปทำให้ถ่านติดไฟมากขึ้น ถ่านก็จะเป็นขี้เถ้ามากขึ้น กรณีการฝังถ่านไว้ในดิน เฒ่าเผาถ่านไม่ได้เน้นว่าต้องบดให้ละเอียด ให้สับหรือทุบ ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้น

 

การทำความสะอาดเตา

• ทุกๆ ครั้ง ที่เผาเสร็จต้องล้างแล้วเช็ดให้สะอาดแล้วนำน้ำมันกันสนิมทาหรือพ่นให้ทั่วๆ เตา จะอยู่กับเราไปอีดนาน
• พ่นด้วย Sonax ก่อนเก็บ จะช่วยถนอมเตา

 

ถ่านแช่จุลินทรีย์ต้องแช่นานมั้ยครับ

• แช่แค่พอให้น้ำไปแทนที่อากาศหมดก็พอ
• เท่าที่ทดสอบ 30 นาทีก็เรียบร้อย นานก็ไม่เป็นไร

 

ถ้าต้องการเผาเป็นถ่านหุงต้ม ใช้วิธีการใดได้ผลดีที่สุด

• มั่นใจว่าถ่านภายในเตาถูกอบ ถูกเผา ด้วยอุณหภูมิสูงมากกว่า 900 °C

  เป็นถ่านที่คุณภาพดี ใช้ปิ้งย่างได้

• ให้ขี้เถ้าขาวคลุมเต็มหน้าเตา

• หน่วงเวลาดับออกไปอย่างน้อย 30 นาที จึงใช้น้ำรดดับไฟ

• เดิมทีโบราณใช้ไม้ฟืนทำเชื้อเพลิงในการหุงต้ม ทำอาหาร แต่มีปัญหาเรื่องกลิ่น ควัน เขม่าควัน ( ฝุ่น ) และให้ความร้อนน้อย การจัดเก็บรักษายุ่งยาก

• ต่อมาจึงมีการนำถ่านที่ไม้ถูกเผาตามป่ามาใช้และได้ผลดี ไม่มีควัน ไม่มีกลิ่น ไม่มีเขม่าควัน จึงมีการนำไม้มาเผาให้เป็นถ่าน เพื่อช่วยลดกลิ่น ลดควัน ลดเขม่าควันลง อีกทั้งยังให้ความร้อนมากกว่า จัดเก็บรักษาง่ายกว่า

ถ่านที่เผาด้วยเตา Ta ya ki ได้ค่าความเป็นด่างไม่เท่ากัน แล้วแต่ชนิดของไม้ที่เผาส่วนใหญ่ PH.9-11 เมื่อผสมรวมกับปุ๋ยหมักหรือดินรวมค่าอยู่ที่ PH.6-7 ถ้าจะให้ดีที่สุดควรได้ PH.6.3-6.5 ครับ พืชงดงามมาก 

 

ทดลอง : ตากถ่านที่เผาจากเตาตายักษ์ ให้แห้งสนิทด้วยแดดที่ร้อนจัด 5 วัน ชั่งน้ำหนักได้ 3 กก. นำถ่านทั้งหมดแช่น้ำหมักจุลินทรีย์ทิ้งไว้ 1 คืน หลังจากนั้น นำถ่านที่ดูดซับ ( อม ) น้ำหมักจุลินทรีย์มา 1 คืน ชั่งน้ำหนักรวมได้ 8 กก.

แสดงว่าถ่านที่เผาจากเตาตายักษ์  ดูดซับ( อม ) น้ำหมักจุลินทรีย์ ไว้ได้มากกว่า 2 เท่าตัว

เก็บน้ำด่างจากการดับถ่าน

• ขุดร่องฝั่งท่อเหล็กปะปาไว้ใต้ดินต่อด้วย ท่อ PE
• ให้พื้นที่ใส่ภาชนะรองท่อ PE ต่ำกว่าตัวเตาเผาถ่าน
• ขณะเผารัดท่อ PE ไม่ให้อากาศเข้าได้ ตอนรดน้ำดับจึงเปิดปากต่อ PE เพื่อให้น้ำด่างไหลมาสู่ภาชนะที่เตรียมไว้

อุปกรณ์ส่วนเสริมของเตาเผาถ่าน TaYaKi หรือ เตาตายักษ์ สำหรับเผาแกลบดิบ ทำแกลบดำ หรือถ่านแกลบ

 

เฒ่าเผาถ่าน ออกแบบและประดิษฐ์ ปล่องเผาแกลบ TaYaKi เพื่อเป็นอุปกรณ์ส่วนเสริมของเตาเผาถ่าน TaYaKi หรือ เตาตายักษ์ สำหรับเผาแกลบโดยเฉพาะ

ชิ้นแรก ประเดิมสร้างมอบให้ อ.ปัญญา นายปัญญา ปุลิเวคินทร์ ผอ.ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จ.นครนายก เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์การเรียนการสอน ๆ การเผาแกลบ ( แกลบดำ ) ในฐานถ่านบำรุงดินต่อไปของศูนย์ภูมิรักษ์ต่อไป

ผลการทดลองเผาครั้งแรก แกลบ 2 ถุงปุ๋ย สามารถแกลบให้เป็นถ่านได้ทั้งหมดภายในเวลา 1 ชม.

ในขณะที่เผาด้วยปล่องที่ใช้เดิม ใช้เวลา 3 ชม.

 

เทคนิคการเผาแกลบไม่ให้มีควันเยอะ

ให้หาท่อเหล็ก หรือสแตนเลสมาทำเป็นท่ออากาศ จะทำให้ไฟลุกและควันน้อยลง

 

เตาต้นแบบเตาตายักษ์ ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อเผาแกลบให้เป็นถ่านด้วยอุณหภูมิสูง และเผาแกลบให้เป็นขี้เถ้าต่ออีกทีหนึ่ง เพื่อนำไปสกัดเอาซิลิก้า 

การใช้เครื่องบดถ่าน…!!!

ถ้าต้องการมีชีวิตในการเผาถ่าน และอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านอย่างมีความสุข ห้ามใช้เครื่องบดถ่านที่ปั่นโดยรอบของมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด

 

ย้ำ…ห้ามใช้เครื่องบดถ่านที่ปั่นโดยรอบของมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด

เพราะฝุ่นของถ่านจากเครื่องบดจะฟุ้งกระจายไปทั่วเป็นบริเวณกว้างมาก 1-2 กม. จะก่อปัญหาแก่ตัวท่านเองและเพื่อนบ้าน ท่านจะหมดความสุขจากการเผาถ่านไปในทันที

2 in One สามารถเผาและอบไม้พร้อมกัน

• หาถังเหล็ก มีฝากปิด ( ปิดปกติหลวมๆ ไม่ต้องแน่นมาก )
• นำพังเหล็กใส่ไม้วางใส่ไว้ตรงกลางเตา
• เตาตายักษ์เผาด้วยอุณหภูมิสูงเกิน 900 องศา
• จึงเพียงพอที่จะทำให้ไม้ที่อยู่ในพังเหล็ก กลายเป็นถ่านได้

คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

• แกลบดิบ แกลบดำ ขี้เถ้าแกลบ ( ถ่านแกลบ )