ชื่อ – ชนิด พันธุ์
ลางสาด หรือ รังสาด,ลังสาด,รางสาด,ลาซะ,ลานสาท,ลานเสท,ลานเซียม
ชื่อวิทยาศาสตร์
Lansium Domesticum
ประวัติ
มีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะมาลายู หมู่เกาะชวา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ราก ใบ ดอก ผล )
- จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เป็นไม้ผลเมืองร้อน มีลำต้นตรง แตกกิ่งก้านเป็นมุมแหลมกระจายกึ่งกลางลำต้นขึ้นไป ลักษณะปลายกิ่งตั้ง ส่วนผิวของลำต้นชั้นนอกมีสีเทาและขรุขระ เปลือกไม่หลุดออก
- ใบเป็นใบประกอบ เกิดสลับซ้ายขวาอยู่ต่างระนาบกัน ก้านใบกลม ลักษณะใบเป็นรูปไข่รีโค้งมน ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเรียบ ที่ผิวใบมีไขนวลปกคลุมอยู่ ใบมีสีเขียวเข้ม ด้านล่างใบมีเส้นใบนูนเด่น
- ออกดอกเป็นช่อสีขาว ดอกเกิดตามลำต้นและตามกิ่ง ลักษณะของดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศ
- ออกผลเป็นช่อ ๆ ผลสดมีสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลือง ผลมีลักษณะกลมรี เปลือกค่อนข้างบาง ผิวละเอียด ผลอ่อนนุ่ม มียางมากเป็นสีขาวขุ่น ๆ ส่วนเนื้อในนิ่ม ฉ่ำน้ำ มีรสหวานหอมอมเปรี้ยวเล็กน้อย ในผลมีเมล็ดมาก ประมาณ 5 เมล็ด และเมล็ดมีสีน้ำตาล ลักษณะกลมแบนรี มีเปลือกหุ้มบาง ๆ ผิวเมล็ดเรียบ มีเนื้อในสีขาว มีรสฝาดและขมจัด
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูงประมาณ 5-10 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
มีทรงพุ่มทึบ กว้าง 2-4 เมตร
ความต้องการแสง
- ชอบแสงแดด 100%
ความต้องการน้ำ
- ปลูกช่วงแรกต้องรดน้ำทุกวัน เมื่อลางสาดเติบโตขึ้นก็ให้รดน้ำ 2 – 3 วัน/ครั้ง
ชอบดินประเภท
- ชอบดินร่วนปนทราย
ประโยชน์การใช้สอย
- เมล็ดนำมาฝนกับน้ำฝนให้ข้น ใช้เป็นยาหยอดหู แก้อาการหูอักเสบหรือเป็นฝีในหูได้
- เปลือกต้นมีรสฝาด มีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้
- เปลือกต้นใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้
- เปลือกผลมีสารโอเลอเรซิน ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง
- เปลือกต้น, เมล็ดใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ
- เมล็ดช่วยรักษาโรคเริม
- เมล็ดช่วยรักษาโรคงูสวัด
- เมล็ดของลางสาดมีสารอัลคาลอยด์ (Acid Alkaloid) ซึ่งเป็นพิษกับหนอนและแมลง สามารถนำมาใช้ทำเป็นยาฉีดพ่นกำจัดแมลงได้
- เปลือกผลแห้ง เมื่อนำมาเผาจะมีกลิ่นเหม็นสามารถนำมาใช้ไล่ยุงได้
การเก็บเกี่ยว
- ติดผลเดือน พฤษภาคม
การขยายพันธุ์
- การเพาะเมล็ด
- การตอนกิ่ง
- ก่รทาบกิ่ง
- การติดตา
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ