มะยมแดง หรือ มะยมฝรั่ง,เชอร์รี่สเปน,มะยมหวาน,หมักยม,หมากยม,ยม (Phyllanthus Acidus (L.) Skeels)

ถิ่นกำเนิดจากประเทศ บราซิล เป็นไม้พื้นเมืองในบริเวณสุรินัมในอเมริกาใต้ ไปจนถึงกายอานาและปารากวัย ปัจจุบันมีปลูกทั่วไป ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีปลูกที่เกาะชวา ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย แต่ไม่มากนัก ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ขายในประเทศไทยนานแล้ว

สละ (Salacca Zalacca)

ลำต้น เป็นเหง้ามีทรงพุ่มต้นเตี้ย ลำต้นมีลักษณะเป็นแกนกลม มีเนื้อไม้นุ่มยุ่น มีก้านใบปกคลุมลำต้น เปลือกมีสีน้ำตาล ราก เป็นระบบรากแขนง มีลักษณะกลมเล็กๆ แทงลึกลงในดิน มีรากแขนงและรากฝอยเล็กๆ แทงออกจากเหง้า มีสีน้ำตาล

มะขวิด หรือ มะฝิด,มะยม ( Limonia Acidissima L.)

มีแหล่งกำเนิดในประเทศอินเดีย พม่า ศรีลังกา และอินโดจีน ปลูกทั่วไปในบริเวณหมู่บ้านและสวน แล้วแพร่กระจายไปตามธรรมชาติ ในประเทศมาเลเซียและเกาะชวากับเกาะบาลี อินโดนีเซีย และมีการนำไปปลูกในแคลิฟอร์เนียและฟลอริดาเพื่อใช้ในการศึกษา

มะกอกฝรั่ง หรือ มะกอกหวาน,มะกอกดง,มะกอกเทศ (Spondias Dulcis)

ต้นมะกอกฝรั่ง จัดเป็นไม้ยืนต้น มีความสูงของต้นประมาณ 7-12 เมตร เปลือกต้นเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาลแดง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ก้านใบยาว ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปไข่ค่อนข้างเรียวแหลม ปลายใบแหลม โคนใบแหลม ขอบใบหยักเล็กน้อย ออกดอกเป็นช่อแบบพานิเคิล (ช่อดอกที่มีช่อดอกแตกออกมาจากช่อดอกใหญ่อีกทีหนึ่ง)

ตะลิงปลิง (Averrhoa Bilimbi L.)

มีถิ่นกำเนิดมาจากหมู่เกาะมาลูกู ในประเทศอินโดนีเซีย ปัจจุบันกลายเป็นพืชประจำถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เอเชียใต้, ทวีปอเมริกากลาง, ทวีปอเมริกาใต้, ประเทศแทนซาเนีย, ประเทศออสเตรเลีย และประเทศจาเมกา

จาก หรือ อัตต๊ะ (Nypa Fruticans)

ลำต้นเป็นเหง้าใต้ดินหรือโผล่เหนือดิน มักเรียกว่า หินจาก ต้นเกิดติดกันเป็นกลุ่มกอ มีลักษณะอ้วนสั้น และแบน แตกออกเป็น 2 ง่าม โดยเยื่อของส่วนลำต้น และโคนก้านใบมีโพรงอากาศ ลำต้นใหม่อาจเกิดจากการแตกกอใหม่หรือเกิดจากเมล็ดใหม่ที่เกิดใกล้กับต้นเก่าเรียงซ้อนกันแน่น

ตาล หรือ ตาลนา,ปลีตาล,ตาล,ตาลใหญ่,ตาลโตนด,โหนด,ลูกโนด,ถาล,ถาน,ทอถู,ท้าง,ตะนอด,ทะเนาด์ (Borassus labellifer L.)

ต้น: เป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุยืน ลำต้น เดี่ยวไม่แตกกิ่งก้านสาขา ลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้ม – ดำ ซึ่งจะมีกาบขอบใบติดอยู่ประมาณ 5 เมตร ลักษณะของเนื้อไม้เป็นไม้เนื้อแข็ง มีเสี้ยนสีดำอัดกันแน่นด้านในสูงประมาณ 15 เมตรและจะมีใบออกที่ยอด ใบ: คล้ายพัดปลายใบแหลมสีเขียว ระหว่างใบจะมีก้านใบแข็งและเชื่อมติดกันคล้ายรูปตัววี ลักษณะก้านใบสีเขียว

มะกอกน้ำ หรือ สมอพิพ่าย,สารภีน้ำ,สีชัง (Elaeocarpus Hygrophilus Kurz)

ถิ่นกำเนิดในเอเชียตั้งแต่อินเดีย มาเลเซียจนถึงอินโดนีเซีย ในลุ่มของป่าฝนเมืองร้อนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถวแถบคาบสมุทรมลายูขึ้นมาถึงภาคเหนือตอนล่างของไทย มะกอกน้ำขึ้นได้ดีตั้งแต่มาเลเซียจนถึงจังหวัดเหนือสุดของไทย

มะหวด หรือ กะซ่ำ,กำซำ,มะหวด,กำจำ,ชันรู,มะหวดบาท,มะหวดลิง,ซำ,นำซำ,มะจำ,มะหวดป่า,หวดคา,สีฮอกน้อย,หวดลาว,หวดฆ่า Lepisanthes Rubiginosa (Roxb.)

มะหวดเป็นไม้ยืนต้นชนิดผลัดใบ ลำต้นแตกกิ่งไม่มากทำให้มีทรงพุ่มแลดูค่อนข้างโปร่ง เปลือกลำต้นสีน้ำตาล ผิวเปลือกแตกเป็นร่อง กิ่งมักแตกออกตั้งแต่ระดับล่างของลำต้น กิ่งแขนงมักแตกออกบริเวณส่วนปลายของกิ่งหลัก ปลายกิ่งแขนงมีขนปกคลุม ส่วนเนื้อไม้แข็งปานกลาง มีสีเหลืองอมน้ำตาล

จำปาดะ หรือ จำปาเดาะ,จำดะ,จำปา (Artocarpus Integer)

ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลมแน่นทึบ คล้ายขนุน เปลือกต้นสีนํ้าตาลอมดำ เรียบ หรือแตกเป็นร่องตื้นๆ ตามแนวยาว ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 6-8 ซม. ยาว 15-18 ซม. โคนใบมน ปลายใบติ่งแหลม ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบเรียบ

พลับหวาน หรือ ลูกพลับ,พลับ,คาขิ (Diospyros Kaki L.f.)

เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีทรงพุ่มขนาดกลาง ลำต้นมีลักษณะกลมๆ เป็นเนื้อไม้แข็งและเหนียว เปลือกมีผิวหยาบขรุขระ มีสีน้ำตาล ใบ เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว มีลักษณะทรงรี คล้ายรูปหัวใจ โคนเรียวปลายรี เรียวแหลม ผิวใบบางเรียบมัน ใบมีสีเขียว ดอก ออกดอกเดี่ยว มีลักษณะคล้ายระฆัง กลีบดอกมีสีเหลือง

คอแลน หรือ คอลัง,กะเบน,สังเครียดขอน,มะแงว,มะแงะ,หมักงาน,บักแงว,หมักแวว,หมักแงว,หมากแงว, ลิ้นจี่ป่า (Nephelium Hypoleucum Kurz)

ต้นแลน เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ สูงประมาณ 10-20 เมตร เปลือกเรียบ มีสีน้ำตาลคล้ำ เรือนยอดเป็นพุ่มค่อนข้างทึบ ใบคอแลน เนื้อหนา ใบสีเขียว ออกเป็นช่อติดเรียงสลับยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร โดยใบย่อยเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับถึงรูปรี ติดตรงข้าม 1-3 คู่ โคนใบมนและเบี้ยว

ลำไยอีดอ หรือ มะลำไย (Dimocarpus Iongan)

ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่  ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลม แน่นทึบ เปลือกต้น สีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้ม แตกสะเก็ดและหลุดล่อนเป็นแผ่นบาง ดอก สีขาวอมเหลือง ออกเป็นช่อแยกแขนงที่ปลายกิ่ง ช่อดอก ตั้งยาว 10-40 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ ซ้อนกันและโคนเชื่อมติดกัน เป็นรูปถ้วย

ลางสาด หรือ รังสาด,ลังสาด,รางสาด,ลาซะ,ลานสาท,ลานเสท,ลานเซียม (Lansium Domesticum)

จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เป็นไม้ผลเมืองร้อน มีลำต้นตรง แตกกิ่งก้านเป็นมุมแหลมกระจายกึ่งกลางลำต้นขึ้นไป ลักษณะปลายกิ่งตั้ง ส่วนผิวของลำต้นชั้นนอกมีสีเทาและขรุขระ เปลือกไม่หลุดออก ใบเป็นใบประกอบ เกิดสลับซ้ายขวาอยู่ต่างระนาบกัน ก้านใบกลม ลักษณะใบเป็นรูปไข่รีโค้งมน ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเรียบ ที่ผิวใบมีไขนวลปกคลุมอยู่ ใบมีสีเขียวเข้ม ด้านล่างใบมีเส้นใบนูนเด่น

ละไม หรือ ระไม,รามา,รำเม,รามาตีกุ๊ (Baccaurea Motleyana)

ลำต้น เป็นผลไม้ยืนต้นขนาดกลาง ต้นใหญ่กว่ามะไฟ ต้นมีทรงพุ่ม ลำต้นมีลักษณะกลม เนื้อไม้แข็ง เปลือกแข็งเรียบ มีสีเทา ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกใบสลับตรงข้าม มีลักษณะทรงรูปหอก โคนมนปลายเรียวรีแหลม ใบด้านบนมีสีเขียว พื้นผิวเป็นมัน ใบด้านล่างมีสีอ่อนกว่า

มะยงชิด (Bouea Oppositifolia Roxb.)

ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เป็นทรงทึบ มีกิ่งก้านสูง ลำต้นมีลักษณะกลมๆ เป็นไม้เนื้อแข็ง เนื้อไม้มีสีเหลืองส้ม หรือสีเหลืองแดง มียางสีขาวทั่วลำต้น มีเปลือกต้นแข็งมีสีน้ำตาล ราก เป็นระบบแก้ว มีลักษณะกลม แทงลึกลงในดิน มีรากแขนงและรากฝอยขนาดเล็กๆ แทงกระจาย บริเวณรอบๆลำต้น มีสีน้ำตาล

มะดัน หรือ ส้มมะดัน, ส้มไม่รู้ถอย (Garcinia Schomburgkiana)

ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ต้นทรงพุ่ม ขยายแตกกิ่งก้าน ลำต้นมีลักษณะกลม เป็นไม้เนื้อแข็งเหนียว เปลือกต้นเรียบ มีสีน้ำตาลอมดำ ราก เป็นระบบรากแก้ว มีลักษณะกลม แทงลึกลงในดิน มีรากแขนงและรากฝอยเล็กๆ ออกตามแนวราบ มีสีน้ำตาล

กระท้อนปุยฝ้าย (Sandoricum Koetjape Burm.f. Mer.)

เป็นพันธุ์พื้นเมืองของ ต.ตะลุง และถือว่าเป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกและรับประทานกันมากที่สุดเพราะให้ผลที่มีรสหวาน เมื่อทานแล้วจะหมือนกับว่าปุยกระท้อนละลายในปากได้เลย เปลือกนิ่ม และเม็ดกระท้อนให้ปุยมาก ขนาดผลมีทั้งเล็กทั้งใหญ่ สีเหลืองนวลสวย ลูกกลมแป้น

สาลี่ (Pyrus Pyrifolia )

ต้นสาลี่ เป็นไม้ยืนต้นที่มีชนิดส่วนมากเป็นพืชแบบพลัดใบ มีลักษณะลำต้นสูงชลูด รูปทรงพุ่มคล้ายต้นสนหรือเป็นรูปปิรามิด ลำต้นอาจสูงได้มากกว่า 15 เมตร ใบสาลี่มีหลายแบบ ทั้งมีรูปร่างทรงกลม รูปไข่ และรูปใบโพธิ์ ใบมีลักษณะสีเขียวเข้ม ดอกสาลี่ ออกเป็นช่อสีขาว แทงออกบริเวณปลายกิ่ง

บ๊วย (Acacia Pennata L.)

ไม้ต้น ขนาดเล็ก ผลัดใบ ทรงต้นมีขนาดใหญ่ ลำต้นเป็นสีน้ำตาลเข้ม แตกกิ่งก้านสาขามากมาย ใบ มีขนาดเล็กรูปไข่ สีเขียวอมเทา ปลายใบแหลม โคนใบกลม ขอบใบจักฟันเลื่อย  ดอก สีขาวหรือสีชมพู มีกลิ่นหอม  ผล สดเมล็ดเดี่ยว กลมหรือรูปไข่ เมื่อผลแก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

มะปรางหวาน (Bouea Macrophylla Griffith)

ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีกิ่งก้านสูง ลำต้นมีลักษณะกลมๆ เป็นไม้เนื้อแข็ง เนื้อไม้มีสีเหลืองส้ม หรือสีเหลืองแดง มียางสีขาวทั่วลำต้น มีเปลือกต้นสีน้ำตาลแข็ง ใบ จะออกเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ใบมีลักษณะทรงรียาวแหลม ใบใหญ่ยาวรี ผิวใบเรียบเป็นมัน ใบอ่อนมีสีม่วงแดง ใบแก่มีสีเขียวเข้ม

มะกอกป่า หรือ กอก,กอกเขา,กูก ( Spondias pinnata L. f. )

ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ต้นทรงพุ่ม ขยายแตกกิ่งก้าน ลำต้นมีลักษณะกลม เป็นไม้เนื้อแข็งเหนียว เปลือกต้นมีร่องแตก มีสีน้ำตาลอมเทา ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเป็นคี่เวียนสลับกันบนก้านใบยาว มีลักษณะทรงรีเรียว โคนใบแหลม ปลายใบเรียวแหลม ใบเรียบลื่น จะมีใบอ่อนและยอดอ่อนสีน้ำตาลแดง ใบแก่มีสีเขียว

มะม่วงเขียวเสวย ( Mangifera Indica L. )

มะม่วงเขียวเสวย เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลาง ลำต้นสูงประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นแตกหลักกิ่ง และกิ่งแขนงน้อย จนแลดูเป็นทรงพุ่มโปร่ง เปลือกลำต้นแตกเป็นสะเก็ดขนาดเล็ก สีดำอมเทา ใบมะม่วงเขียวเสวย ออกเป็นใบเดี่ยวๆ เรียงสลับกันที่ปลายกิ่ง ใบค่อนข้างรียาว สีเขียวเข้ม และเป็นมัน ขนาดใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร

มะยม หรือ หมากยม,ยม ( Phyllanthus Acidus)

ถิ่นกำเนิดอยู่ที่บริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างบ้านเรานี่เอง สามารถพบได้ทั้งในประเทศไทย พม่า มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย และได้มีการแพร่พันธุ์กระจายไปยังประเทศอินเดีย แถบอเมริกากลาง อเมริกาใต้และฮาวาย