ชื่อ – ชนิด พันธุ์
หูกวาง
ชื่อวิทยาศาสตร์
Terminalia catappa; อังกฤษ: tropical almond)
ประวัติ
เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในเขตร้อนของอนุทวีปอินเดีย, เอเชียอาคเนย์ ไปจนถึงภูมิภาคโอเชียเนียและหมู่เกาะฮาวาย[5] โดยมักจะพบประจำที่บริเวณชายหาดหรือป่าชายหาดริมทะเล
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ใบ ดอก ผล )
- เป็นต้นไม้ยืนต้นอายุยาวนาน สูงได้ถึง 15–25 เมตร เปลือกสีน้ำตาลแกมดำ ลอกออกตามยาว กิ่งก้านแผ่ออกเป็นชั้น กิ่งสีน้ำตาลแกมน้ำตาลหนาแน่นใกล้ยอด[2]
- ใบออกสลับ อัดแน่นที่ปลายกิ่ง ก้านใบกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5–2 เซนติเมตร รูปไข่แกมขอบขนาน ปลายใบแคบ ยาวประมาณ 12–30 เซนติเมตร กว้าง 8–15 เซนติเมตร ผิวทั้งสองด้านเกลี้ยงเกลาหรือมีขนเบาบางตามแนวแกน เมื่อยังอ่อน ฐานใบแคบ ตัดปลายหรือปลายทู่ เส้นใบ 10–12 คู่[2]
- ช่อดอกออกตามซอกใบ เรียบง่าย ยาว แหลมเรียว 15–20 เซนติเมตร ออกดอกจำนวนมาก ดอกสีขาวในระยะเวลาสั้น ๆ มีกลิ่นหอม กลีบเลี้ยงกลีบเลี้ยงปลายกลีบดอก 0.7–0.8 เซนติเมตร รังไข่หนาแน่นมาก รูปถ้วยบาง กลีบดอก 5 กลีบ เกสรตัวผู้ 10 แฉก ยาว 0.2–0.3 เซนติเมตร[2]
- ผลไม่แตกลาย เมื่อสุกสีแดงหรือเขียวอมดำ ทรงรี แบนข้างเล็กน้อย มี 2 ปีก (ปีกกว้าง 3 มม.) ผลยาว 3–5.5 เซนติเมตร กว้าง 2–3.5 เซนติเมตร เกลี้ยงเกลา เมื่อแก่จัดเปลือกผลแบบเปลือกไม้ออกดอกช่วง มี.ค.–มิ.ย. ออกผลช่วง พฤษภาคม, ก.ค.–ก.ย.[2]
- หูกวางเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดตราด และเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยสยาม
- หูกวางยังมีชื่อเรียกต่างกันออกไปตามแต่ละจังหวัดหรือภูมิภาคด้วย เช่น โคน (นราธิวาส), ดัดมือ หรือ ตัดมือ (ตรัง), ตาปัง (พิษณุโลก, สตูล), ตาแปห์ (มลายู–นราธิวาส), หลุมปัง (สุราษฎร์ธานี) เป็นต้น
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 8–25 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ขนาดทรงพุ่ม 8–25 เมตร
ความต้องการแสง
- ต้องการแสงแดดสม่ำเสมอประมาณ 2,000 ชั่วโมงต่อปีหรือไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน หากได้รับแสงแดดน้อยมะพร้าวจะไม่ค่อยออกดอกติดผล หรือติดผลแต่เนื้อบาง อุณหภูมิมะพร้าวเจริญได้ดี ในอุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเซลเซียส จะสูงหรือต่้ากว่าก็ไม่ควรเกิน 7 – 8 องศา และอุณหภูมิไม่ควร เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน
ความต้องการน้ำ
- ควรมีฝนตกกระจายสม่ำเสมอไม่น้อยกว่า 1,500 มิลลิเมตรต่อปี และไม่ควรมีฝนตกน้อยกว่า 50 มิลลิเมตร เกิน 3 เดือน อุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเซลเซียส
- หรือต้องการน้ำประมาณ 14 ลิตรต่อต้น ต่อวัน
ชอบดินประเภท
ประโยชน์การใช้สอย
- มีประโยชน์โดยเปลือกและผลมีรสฝาดมาก ใช้แก้อาการท้องเสีย ย้อมหนังสัตว์ ทำหมึก
- เมล็ดในผลรับประทานได้ และให้น้ำมันคล้ายน้ำมันอัลมอนด์
- นอกจากนี้แล้วใบของหูกวางโดยเฉพาะใบแห้ง เป็นที่รู้จักดีของผู้นิยมเลี้ยงปลาสวยงามหรือปลากัด เนื่องจากใช้ใบแห้งหมักน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาได้ เพราะสารแทนนินในใบหูกวาง จะทำให้สภาพน้ำมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) สูงขึ้น เหมาะสำหรับใช้เลี้ยงปลาที่มาจากแหล่งน้ำที่มีค่าความเป็นกรดสูง ทั้งนี้ยังช่วยลดการสะท้อนแสงของน้ำ เพื่อให้ปลาสบายตา ไม่เสียสายตา รู้สึกปลอดภัย ไม่ใช้ปากคีดกระจก และใช้รักษาอาการบาดเจ็บของปลากัดได้เป็นอย่างดี เพราะมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี[
การเก็บเกี่ยว
เมล็ดที่จะนำมาขยายพันธุ์ควรเก็บในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม เนื่องจากเป็นช่วงที่เมล็ดแก่และเริ่มร่วงร่นตามพื้น หากต้องการให้งอกเร็วควรนำเมล็ดมาตากแห้ง และแช่น้ำก่อนปลูกประมาณ 3-5 วัน
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ