การปลูกไผ่ การขยายพันธุ์ การดูแลบำรุงรักษาไม้ไผ่
การปลูกไผ่
- ไผ่ชอบแสงแดดต้อง 100%
- หลุมปลูก ใช้รถไถดอกเจาะขนาด 50 cm
- ปุ๋ย 5 กก. / หลุม
- ถ่านไบโอชาร์ 0.5 กก / หลุม
- กล้วย 1 ต้น / หลุม ใส่ในหลุมเดียวกันเลย หันแผลเข้าหาต้นไผ่ ให้ออกเครือกล้วยมาทางนอกกอไผ่
- จะได้กล้วยออกเครือ 5 รอบ หลังจากนั้นตัดต้นกล้วยเป็นแว่นๆๆ แล้วเรียงรอบๆ ต้นกล้วย
- ปลูกกะถินเทพแซม เช่นปลูกไผ่ 4×4 ก่อนถึงไผ่อีกต้น ใส่กระถินยักษ์ได้ 2 ต้น 2 เมตร / ต้น ( ใช้เลี้ยงแพะได้ )
- โรยปุ๋ยคอกปากหลุมแล้วเอาผสมกับดินลงหลุม
- พ.ค. ขุดหลุม ใส่ขี้วัว ผสมถ่านทุบทิ้งไว้ แล้วพอฝนตกติดต่อกันหลายวันปลูกเลย
- ความสูงจากน้ำทะเลมีผลกับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
- ซางหม่นชอบน้ำผ่านไม่ชอบน้ำขังกับดินลูกรัง
- ให้ปุ๋ยปีละ 2 หน โรยรอบกอ
- ไผ่ควรตัดเดือนตุลา แป้งจะน้อย
- ไผ่ให้ออกซิเจนมากกว่าพืชชนิดอื่น 30%
- ขุยมะพร้าว แช่น้ำยิ่งนานยิ่งดีอย่างน้อย 1 วันเพื่อให้สารแทนนินสีแดงออกไปให้มากที่สุด
- หลังปลูกไผ่จะแตกหน่อใหม่ ไม่ควรเกิน 3 เดือน
- ดินปลูก ขุยมะพร้าว แกลบดำ ใบก้ามปู ดินบริเวณไผ่
- หาวัตถุอินทรีย์ในพื้นที่คลุมดินที่ปลูก
- ใส่ถุงใหญ่เบอร์5-6 ระยะเวลา 1 ปี ดูทรง ฟอร์ม
- ใช้แกลบดำ ผสมขี้วัว
- ไผ่ถ้าขุดเหง้าให้ปลูกเอียง 45c ถ้าต้นไม้จะล้มจะสร้างรากมาพยุง ปลูกเอียงจึงออกรากเยอะกว่า
- ตาต้องออกด้านข้างทั้งสองฝั่ง ห้ามคว่ำตา
- ตาลูกหันไปทางไหน ลำแม่จะหันไปทางเดียวกัน
- ปลูกใหม่จนกว่าจะมีหน่อ ค่อยใส่ปุ๋ย
ฤดูกาลที่เหมาะสมในการขยายพันธุ์ไผ่ในแต่ละวิธี
- เพาะเมล็ด ทุกฤดู
- ขุดเหง้า ฤดูแล้ง ก.พ. – เม.ย.
- ตอนกิ่ง, ชำลำ ฤดูฝน พ.ค.-ก.ย.
- การชำกิ่ง ชำปล้อง ฤดูแล้ง ก.พ.- เม.ย.

การขยายพันธุ์ไผ่ เมืองไทยสามารถจำแนกออกได้เป็นสองวิธีใหญ่ๆ คือ
1. ขยายพันธุ์ไผ่ แบบอาศัยเพศ จะมีเพียงวิธีเดียวคือ
1.1 การเพาะเมล็ด
- ไผ่เพาะเมล็ด กลายเลว 96% กลายดี 4%
วัฎจักรของไผ่ นับตั้งแต่งอกจากเมล็ดออกมาไผ่แต่ละชนิดจะมีอายุขัย จะสั้นจะยาวก็แตกต่างกันไปในแต่ละชนิด อย่างเช่นบางชนิดมีอายุ 40 ปี บางชนิดอายุเกินกว่า 100 ปี แต่ก่อนที่เค้าจะหมดอายุขัยสิ่งสุดท้ายที่เค้าจะแสดงให้เห็นคือ “ออกดอก” และแน่นอนเมื่อมีดอก ก็ต้องมีเมล็ด หากไผ่กอนั้นๆ มีสภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี เมล็ดที่ได้ก็จะมีความสมบูรณ์ มีเปอเซ็นต์การงอกที่สูงเช่นกัน เมล็ดไผ่จะแก่จัดในช่วงฤดูแล้งและร่วงหล่นลงเองตามธรรมชาติ หล่นลงใต้กอแม่ พอถึงฤดูฝนชุกหากกไม่มีนกหนู หรือสัตว์ต่างๆ มากจิกกิน เมล็ดไผ่เหล่านั้นก็จะเจริญเติบโตขึ้นมา
ซึ่งการสืบพันธุ์แบบนี้เราจะเรียกกันว่า การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่เราเคยได้เล่าเรียนมา การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศนี้ ลูกๆที่เกิดขึ้นมาจากเมล็ดจะมีลักษณะแตกต่าง หรือผิดเพี้ยนไปจากแม่ผู้ให้กำเนิด บางต้นเหมือนแม่ บางต้นสวยมีลักษณะเด่นกว่าแม่ บางต้นมีลักษณะด้อยไปกว่าพ่อแม่เช่นกัน อนึ่งหลังจากที่ไผ่ออกดอกแล้ว ไผ่กอนั้นจะค่อยๆแห้งตายและสิ้นอายุขัยไปในที่สุด เป็นวัฎจักรเวียนว่ายตายเกิดแบบนี้ แต่มีไผ่บางชนิดที่ออกดอกแล้วก็ยังไม่ตายแต่จะมีจำนวนที่น้อยมาก

วิธีการเพาะเมล็ดไผ่
- นำวัสดุเพาะเช่น ขุยมะพร้าว หรือพีชมอส ใส่ลงในภาชนะตื้นๆ เช่นถาดเพาะ หรือกะบะพรมน้ำให้ชุ่มพอประมาณ
- นำเมล็ดไผ่มาโรยลงบนวัสดุเพาะ เกลี่ยให้เสมอกัน และโรยทับด้วยวัสดุเพาะบางๆ
- นำผ้าชื้นๆ มาคลุมทับด้านบนอีกชั้นหนึ่ง หมั่นสเปรย์น้ำให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ตั้งไว้ในที่ร่ม
- หลังจากผ่านไป 2 คืน จะเริ่มมีรากโผล่ออกมาจากเมล็ด ให้เปิดผ้าที่คลุมออก และย้ายถาดเพาะไปวางไว้ในบริเวณที่ได้รับแสงแดดอ่อนๆ เมื่อผ่านไป 15-20 วัน จึงทำการย้ายกล้าลงถุงดำ หรือกระถางต่อไป

2.2 การขยายพันธุไผ่ แบบไม่อาศัยเพศ
2.2.1 การขุดเหง้า
เป็นวิธีที่ดีที่สุด ไผ่ตั้งกอได้ไวที่สุด และก็เหนื่อยที่สุด วิธีนี้ควรทำในช่วงฤดูแล้ง เหตุผลก็คือในฤดูฝนจะไม่มีหน่ออ่อนๆ ขึ้นมามากมาย หากว่าเราไปขุดเหง้าในช่วงฤดูฝนนั้น จะทำความเสียหายให้กับหน่อเล็กๆ ที่จะเติบโตขึ้นเป็นลำไผ่ต่อไป
ในส่วนการเลือกเหง้าที่จะขุดไปขยายพันธุ์ต่อนั้นให้พิจารณาเหง้าที่มีอายุหน่ออยู่ในช่วงระหว่าง 6 เดือน – 1 ปี เพราะตาหน่อยังมีความสมบูรณ์ พร้อมที่จะเจริญเป็นหน่อใหม่ได้ทันที เมื่อได้รับความชื้นที่เหมาะสม ข้อควรระวังคือระหว่างที่ขุดห้ามให้คมเสียมไปโดนตาหน่อโดยเด็ดขาด
วิธีขุดเหง้าและการปลูก
- เลือกเหง้าที่มีอายุระหว่าง 6 เดือน ถึง 1 ปี
- ใช้มีดหรือเลื่อยตัดลำช่วงบนออก โดยให้เหลือข้อไผ่นับจากด้านล่างสุดไว้อย่างน้อย 2-3 ช้อ
- ใช้เสียมสับลงรอบๆ เหง้า ถึงช่วงนี้ให้ใช้ความรู้สึกสักเกตส่วนแข็งๆ เมื่อเสียมไปกระทบเข้ากับส่วนนั้น หมายความว่าตรงนั้นคือรอยต่อระหว่างลำแม่ ซึ่งเราจะต้องสับให้ขาด ตรงนี้ก็สำคัญ เพราะถ้าเราสับไม่ขาดจริงๆ เราอาจจะไปโยกหรือพยายามโหนเพื่อให้เหง้าหลุดออกมา อันจะเป็นเหตุให้ส่วนโคนฉีกหรือแตก เมื่อนำไปชำหรือไปปลูกไผ่เหง้านั้นจะค่อยๆ แห้งตายไปในที่สุด
- เมื่อได้เหง้าไผ่ตามต้องการแล้วก็สามารถนำไปปลูกลงดินได้เลยหรือถ้ายังไม่พร้อมปลูกก็ต้องทำการรักษาความชื้น โดยการห่อหุ้มไม่ให้เหง้าไม้ไผ่โดนลมและแสงแดด เช่นจุ่มน้ำแล้วใส่ในพลาสติกมัดปากหรือหมกขุยมะพร้าวไว้ สามารถอยู่ได้ 4-5 วันหรือมากกว่านั้นนิดหน่อย
- การปลูกไผ่เราจะขุดหลุมไผ่ประมาณ 50 ซม. รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ปลูกต้นไผ่เอียง 45 องศา แล้วกลบดินแค่ให้เสมอตาหน่อตาบนสุดเท่านั้นพอ
เครื่องมือที่ใช้ในการขุดเหง้าไผ่
- เสียมที่ตีมาจากเหล็กแหนบรถสิบล้อ ใบเสียมกว้าง 2.5-3 นิ้ว ยาวประมาณ 6-8 นิ้ว ด้ามเสียมทำมาจากเหล็กเพลาตันขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ความยาวด้ามขึ้นอยู่กับความสูงของผู้ใช้งาน โดยเมื่อตั้งเสียมขึ้นแล้วส่วนปลายควรอยู่ระดับไหล่ของผู้ใช้งาน
- เลื่อยมือเดียว เพื่อที่จะได้ไม่เกะกะเวลาเลื่อยในที่แคบ
- มีดพร้าหรือมีดที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก เอาไว้ตัดลำในกรณีที่ไม่มีเลื่อยและเอาไว้แต่งเหง้าตัดรากส่วนเกินออก
- กรรไกรตัดกิ่ง ไม่มีไม่เป็นไร แต่ถ้ามีก็จะดีเพราะสะดวกกว่ามีดเวลาที่เราจะตัดกิ่งแขนงเล็กๆ ที่เกะกะกีดขวางการทำงาน

2.2.2 การตอนกิ่ง
- การขยายพันธุ์ไผ่โดยการตอนกิ่งแบบใช้ขวดน้ำที่ใช้แล้วมาเป็นภาชนะสำหรับตอน ข้อดีคือช่วยลดปริมาณขยะ ทำในปริมาณมากๆ ได้ อัตราการติดรากสูงและสามารถตอนทิ้งไว้ข้ามปีได้เลย ขวดไม่เปื่อยยุ่ยเหมือนถุงพลาสติก
- การตอนระบบเปิดนี้ให้น้ำได้ง่ายหรือเมื่อถึงเวลาที่ฝนตก น้ำจะไหลลงสู่ขวดตอนกิ่งได้อย่างสะดวก เติมปุ๋ย เติมฮอร์โมนได้โดยง่าย ด้าวยความที่มีพื้นที่ใส่วัสดุตอนได้เยอะจึงทำให้มีกิ่งแตกเพิ่มออกมาในขวดได้อีกหลายกิ่งเปรียบเสมือนว่าเป็นกอไผ่กอน้อยๆ ที่พร้อมจะเจริญเติบโตได้ทันทีและรวดเร็ว
วิธีการตอนกิ่งแบบขวดน้ำ
- กิ่งที่สมบูรณ์ อวบอ้วนมีลักษณะของกิ่งที่ขึ้นด้านบนคือตัวเลือกอันดับต้นๆ การที่เราจะทำให้กิ่งไผ่มีลักษณะดังกล่าวนั้นจะต้องมีเทคนิคการตัดลำไผ่ออกโดยให้คงเหลือความสูงจากพื้นดินให้เรายืนทำงานได้โดยไม่ต้องใช้บันไดปีนป่ายขึ้นไปให้เกิดอันตราย แต่ถ้าอยากได้ปริมาณกิ่งเยอะๆ ก็ให้ตัดสูงกว่านั้นก็ได้
- เมื่อตัดลำออกแล้ว ประมาณ 15 วันจะเห็นกิ่งเริ่มแทงออกมาจากตาไผ่ พอเราเห็นว่ากิ่งมีความยาวประมาณ 1 คืบ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีใบก็ตาม เราสามารถทำการตอนได้เลย หรือถ้าเราตอนไม่ทันในช่วงนั้นก็ปล่อยให้กิ่งยาวออกไปตามธรรมชาติแล้วจึงตอนก็ได้ แต่ไม่ควรให้อายุกิ่งเกิน 1 ปี เพราะจะออกรากช้า โดยที่ไม่ต้องเลื่อยไม่ต้องผ่ากิ่งใดๆ ทั้งสิ้น
- นำขวดตอนกิ่งที่ใส่ขุยมะพร้าวแช่น้ำผสมจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงในอัตราส่วนจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ส่วนต่อน้ำ 20 ส่วน เป็นเวลา 1 คืน มายึดติดกับลำไผ่ การยึดขวดติดกับลำไผ่นั้นพยายามดันให้ส่วนล่างของรูด้านข้างขวดที่เจาะไว้ให้กิ่งไผ่โผล่ออกมาสัมผัสแนบชิดกับใต้กิ่งที่เราตอนโดยใช้ปืนยิ่งลูกแมกซ์ยิงให้แน่นอย่าให้ขวดคลอน
- หลังจากตอนกิ่งได้ 10-15 วัน จะเริ่มเห็นรากเดินภายในขวด และเมื่อเห็นว่ารากไผ่แข็งแรงก็ตัดไปปลูกลงดินได้เลย
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการตอนกิ่ง
- กรรไกรตัดกิ่ง สำหรับตัดแต่งกิ่งไผ่ส่วนเกินที่เราไม่ต้องการ
- ปืนยิงลูกแมกซ์ สำหรับยึดขวดตอนกิ่งให้ติดกับลำไผ่อย่างแน่นหนาไม่หลวมคลอน
- ขวดน้ำพลาสติก
- ขุยมะพร้าว
- จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ( ถ้ามี )
- เลื่อยมือเดียวสำหรับตัดลำไผ่

2.2.3 การชำปล้อง ชำกิ่ง
การชำปล้องและชำกิ่ง เป็นวิธีการขยายพันธุ์ไผ่ที่สะดวกและไม่มีขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อน เราจะใช้วิธีนี้ในกรณีที่เราตัดลำไผ่เพ่อไปใช้งานและยังเหลือส่วนปลายลำที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ซึ่งส่วนใหญ่กิ่งและปล้องที่เหมาะสมที่จะนำมาชำ มักจะอยู่ในส่วนปลายๆลำอยู่แล้ว และในอีกกรณีคือเราไปเจอไผ่ที่ชอบและต้องการจะนำมาปลูก แต่มีเลื่อยหรือมีดติดตัวไปเท่านั้น ก็เพียงแค่เลื่อยหรือตัดเอาเฉพาะปล้องไผ่ติดกิ่งมาเท่านั้นก็สามารถนำกลับมา “ชำปล้อง” ที่บ้านเราได้
ข้อควรระวังคือขณะเดินทางเราต้องรักษาความชื้นให้ปล้องไม้ไผ่ของเราอย่างดี เช่นใส่ถุงพลาสติกมัดปิดปากและเอาไว้ในที่ร่ม
วิธีการชำปล้องไม้ไผ่
- เลือกิ่งที่สมบูรณ์ ตัดปลายกิ่งออกให้เหลือไว้ประมาณ 2-3 ข้อเท่านั้นพอ
- นำกิ่งไผ่ที่เราเตรียมไว้ ไปแช่ในจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงประมาณ 3-8 ชม.
- นำไปปักชำในกระถางหรือถุงดำ โดยใช้แกลบดำหรือขุยมะพร้าว ฯลฯ เป็นวัสดุปักชำ
- รำน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่ร่มรำไร รดน้ำเช้าเย็นเป็นเวลาประมาณ 10-15 วันจะเริ่มเห็นตาเปิด เลี้ยงต่อไปจนรากเดินเต็มกระถางจึงนำไปปลูกลงดินต่อไป
- ในกรณีที่ไม่มีเวลารดน้ำหลังจากที่ปักชำและรดน้ำในครั้งแรก เราสามารถใช้วิธีการควบแน่นไว้ในถุงพลาสติกก็ได้ใช้เวลาในการเปิดตาและเกิดรากพอๆกัน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการชำปล้อง ชำกิ่ง
- กรรไกรตัดกิ่ง สำหรับแต่งกิ่งไผ่ส่วนเกินที่เราไม่ต้องการ
- เลื่อยสำหรับตัดปล้องไผ่
- ขุยมะพร้าวหรือแกลบดำ
- จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
- กระถางหรือถุงดำ

2.2.4 การชำลำ
การชำลำเป็นอีกหนึ่งวิธีการขยายพันธุ์ไผ่ เหตุผลที่เราเลือกใช้วิธีนี้คือ บางกรณีนี่เราไปเที่ยวป่าหรือไปเจอกอไผ่และเราต้องการนำไปปลูกมีมีดเล่มเดียวก็พอ เลือกลไหนุ่มๆที่อายุไม่เกินปี แล้วตัดลงมา ตัดให้มีขนาดที่เราพอจะขนกลับได้ แต่อย่างน้อยในแต่ละท่อน ควรให้มีปล้องติดกันสัก 2-3 ปล้อง เพื่อที่จะมีปล้องสำหรับเติมน้ำ หรืออีกกรณีหนึ่งเราได้เฉพาะลำโล้นๆ มาอย่างเดียวไม่มีกิ่งให้ชำ แต่พิจารณาดูแล้วว่าลำไผ่นั้นๆ ยังมีสภาพสดและตากิ่งยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เราก็เลือกใช้วิธีการ “ชำลำ” มาใช้เพื่อการขยายพันธุ์ไผ่
การชำลำสิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาความชื้นให้อยู่ในลำไผ่ตลอดเวลา จัดอยู่ในวิธีการที่ทำได้ค่อนข้างยาก แต่ถ้ารู้เทคนิคแล้ว จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ
วิธีการชำลำไผ่
- เลือกตัดลำไผ่ที่ยังมีสภาพตาที่สมบูรณ์และยังอยู่ในสภาพเขียวสด หากต้องใช้เวลาในการขนย้ายเป็นเวลานานๆ ก็ควรจะต้องมีการรักษาความชื้นให้กับลำไผ่นั้นๆ ด้วย เช่นใส่ถุงพลาสติกมัดปาก ห่อหุ้มด้วยผ้าเปียกชื้นหรือหมกไว้ในขุยมะพร้าวที่เปียกชื้น
- ใช้เลื่อยหรือมีดทำการเลื่อยหรือฟันให้เป็นช่องสำหรับเติมน้ำลงในปล้องไม้ไผ่ โดยทำทุกปล้อง
- เตรียมพื้นที่สำหรับการทำการฝังลำไม้ไผ่ในที่ร่มรำไร โดยการขุดพื้นดินเป็นร่องกว้างและยาวตามขนาดของลำไผ่ที่เราเตรียมไว้จากนั้นจึงนำลำไผ่ลงไปวางในร่องโดยให้บริเวณตาไผ่หันออกด้านข้างทั้งสองข้าง และฝังให้ลึกเพียงครึ่งเดียวของขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางลำ
- รดน้ำให้ชุ่ม คลุมด้วยฟางให้มืดเพื่อรักษาความชื้น รดน้ำอีกครั้ง
- ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ไผ่จะเริ่มเปปิดตาและพัฒนาเป็นกิ่ง พอใบเริ่มเต็มรากก็จะเริ่มเดิน
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการชำลำไผ่
- กรรไกรตัดกิ่ง สำหรับตัดแต่งส่วนที่เราไม่ต้องการ
- จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
- เลื่อยมือเดียวสำหรับตัดลำไผ่
- เศษหญ้า เศษฟาง หรือวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่สำหรับคลุมดินบริเวณที่ชำลำเพื่อรักษาความชื้น
2.2.5 การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ปัจจุบันได้มีการนำเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในทางเกษตรและป่าไม้อย่างกว้างขวาง เพราะสามารถขยายพันธุ์ได้จำนวนมากในระยะเวลาสั้นสะดวกในการดูแลรักษากล้าไม้ รวมถึงมีประโยชน์ในด้านการเก็บรักษาพันธุ์ และการปรับปรุงพันธุ์ โดยเฉพาะในพืชที่ไม่สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่นได้หรือมีอัตราการขยายพันธุ์ตํ่า
แต่ข้อเสียของการขยายพันธุ์โดยวิธีนี้ คือ ต้นทุนในการขยายพันธุ์สูง และกล้าใช้เวลานานกว่าที่จะเติบโตให้ผลผลิตได้ (ภาพที่ 25) อย่างไรก็ตามการขยายพันธุ์ไผ่โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเหมาะสำหรับ การขยายพันธุ์ไผ่ที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ที่ขยายพันธุ์โดยวิธีอื่นไม่สำเร็จ

การบำรุงรักษาไผ่ ด้วยการแต่งกอไผ่
- เวลาตัดลำไผ่ ให้ตัดชิดดิน ไม่ให้เหลือไว้เลย
- ไผ่ที่ต้องเดินระบบน้ำ ไผ่ปลูกเก็บหน่อ, ไผ่ขยายพันธุ์ ต้องรดน้ำหลังหน้าฝน 2-3 วันครั้ง
- ไผ่ปีที่ 2-3 เริ่มแต่งกอ ลำแก่ตัดออกก่อน วนไปทุกปี
- ถ้าปลูกไผ่ดินเป็นแอ่งไผ่จะตายแน่นอน
- ไผ่จะเหลือ หน่อ 2 รุ่นไว้ ให้สางทุกปี เพื่อให้คายน้ำน้อย แต่รากดูดน้ำเยอะ จะแตกหน่อเร็วขึ้น
- ถ้าปลูกไผ่ดินเป็นแอ่งไผ่จะตายแน่นอน
- ถ้าจะเอาเนื้อไม้ไม่ควรให้น้ำ ควรให้เฉพาะตอนแตกหน่อ
- ตัดลำหลักเลี่ยงหน้าฝน
- รากไผ่จะลงลึก 80-100 cm
กรณีแต่งกอทุกปี ไผ่ 1 ไร่ 1,600 ตรม
- 1- หน่อ 25%
- 2-อายุ 1 ปี 25%
- 3-อายุ 2 ปี 25%
- 4-อายุ 3 ปี 25% ตัดออก
การตัดลำไผ่ ใช้ลำ
- ถ้าตัดทุกปี ได้ปีละ 25% ของกอ
- ถ้าตัด 2 ปีครั้ง ตัดปีละ 50% ( ไผ่เลี้ยง, ไผ่ลวก ตัดแบบนี้ไม่ได้ )
- ถ้าไผ่เต็มกอไม่เคยตัดเลยตัดได้ 50%
ระยะปลูก
- ไผ่เลี้ยงขายหน่อ 3×3 เมตร
- ไผ่ซางหม่นขยายพันธุ์/ขายหน่อ 3×3 เมตร
- ซางหม่นขายลำ 3×5/3×6/4×4/4×6 เมตร
- ไผ่ซางหม่น ทำดินขุยไผ่/ขายลำ 4×6 เมตร
- ไผ่ลำเล็ก 1.5-2” 3×3, 4×4 เมตร
- ไผ่ลำกลาง 3-5” 4×4, 5×5 เมตร
- ไผ่ลำใหญ่ 5×5, 6×6 เมตร
ระยะปลูก แบบมีระบบจัดการโลจิสติก
- ระยะห่างระหว่างต้นในแถวเดียวกันห่างกัน 4 เมตร
- ระยะห่างระหว่างแถวคู่ที่ติดกัน 1-2 = 2 เมตร
- ระยะห่างระหว่างแถวที่ 2กับ 3 หกเมตร เพื่อให้รถวิ่งเข้าได้
- 1 ไร่ ได้ 100 ต้น ผลผลิตได้ 10 ตัน
- ไผ่ต้องตัดให้ติดดิน
- ปลูกไผ่กับไม้ยืนต้นสลับกันเพื่อให้ไผ่ยืดหาแสง เช่น ตะเคียนทอง มะค่าโมง พะยูง
- ปลูกไม้ป่าก่อน 2-3 ปี แล้วปลูกไผ่แซมไปเรื่อยๆ เว้นระยะ 4 เมตร
วิธีทำทำอุโมงไม้ไผ่
- อุโมงไผ่ 4-6 เมตร ทำโครงเหล็กโค้ง แล้วสานเหล็กเป็นตาข่าย
- หรือไม่ทำโครงเหล็กเพื่อให้รถวิ่งผ่าน
- ระวังไม้เถาขึ้นรัดไผ่จะตาย
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับไผ่
- เกิดหน่อแรก และแตกใบจริงแปลว่ารอด
- ปุ๋ยไผ่ เอาขี้เพาะอ้อย หรือเค้กอ้อย โรยกอไผ่ 1 ปีกลายเป็นปุ๋ย ต้องปลูก 4×6
- ในใบไผ่ มีจุลินทรีย์ย่อยดินลูกรังเป็นดินร่วนได้






