ชื่อ – ชนิด พันธุ์
ชงโค หรือ เสี้ยวดอกแดง, กะเฮอ, สะเปซี, เสี้ยวหวาน
ชื่อวิทยาศาสตร์
Bauhinia Qurpurea L.
ประวัติ
ถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของประเทศจีน รวมไปถึงฮ่องกง และทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ใบ ดอก ผล )
- ต้น เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 5-15 เมตร กิ่งอ่อนมีขนปกคลุม
- ใบ มีลักษณะเป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจ ปลายใบเว้าลึกมาก ปลายใบทั้งสองด้านกลมมน มองดูคล้ายใบ แฝดติดกัน ใบทั้งสองด้านมักพันเข้าหากันเหมือนปีกผีเสื้อ
- ดอก ชงโคจะเริ่มผลัดใบในช่วงฤดูหนาวปลายปี แล้วจะผลิใบในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม หลังจากนั้นก็จะเริ่มทยอยออกดอกมาเรื่อยๆ เมื่อดอกบาน ดอกจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกสามารถออกได้ตลอดทั้งปี โดยจะออกดอกเป็นช่อสะพรั่งตามปลายกิ่งสวยงาม มีม่วงอมสีชมพูถึงสีม่วงแดง รูปทรงคล้ายดอกกล้วยไม้ แต่ละช่อมีดอกย่อยราว 6-10 ดอก แต่ละดอก มีกลีบย่อย 5 กลีบ ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้เป็นเส้นยาว 5 เส้น ยื่นไปที่ปลาย
- ผลหรือฝักชงโคมีลักษณะเป็นฝักคล้ายฝักถั่ว มีรูปร่างแบน ฝักมีขนปกคลุม ฝักมีขนาดกว้าง 1-2 ซม. ยาว 20-25 ซม. ฝักจะเริ่มทยอยติดตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม จนแก่ในช่วงเดือนกันยายน ฝักแก่จะมีสีน้ำตาล และเมื่อแก่จัดจะมีสีดำ
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 5-15 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ขนาดทรงพุ่ม 3-5 เมตร
ความต้องการแสง
- ต้องการแสงแดด 100 %
ความต้องการน้ำ
- รดน้ำ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
ชอบดินประเภท
- ชอบดินร่วน ดินร่วนปนทราย
ประโยชน์การใช้สอย
- ใบนำมาตากแดด ใช้ชงเป็นชาดื่ม ใบนำมาขยี้ และผสมน้ำเล็กน้อยใช้ประคบรักษาแผล และช่วยในการห้ามเลือด ใบอ่อนใช้เคี้ยวเพื่อลดกลิ่นปาก
- ดอกนำมาต้มน้ำดื่ม ช่วยลดอาการไอ ทำให้ชุ่มคอ
- เปลือกลำต้นนำมาต้มน้ำดื่ม ใช้รักษาอาการท้องเสีย และอาหารเป็นพิษน้ำต้มจากเปลือกใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
- ราก นำมาต้มน้ำดื่ม ใช้เป็นยาขับลมน้ำต้มจากรากใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
การเก็บเกี่ยว
- เริ่มผลัดใบในช่วงฤดูหนาวปลายปี แล้วจะผลิใบในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม หลังจากนั้นก็จะเริ่มทยอยออกดอกมาเรื่อยๆ เมื่อดอกบาน ดอกจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกสามารถออกได้ตลอดทั้งปี
- ฝักเริ่มทยอยติดตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม จนแก่ในช่วงเดือนกันยายน
การขยายพันธุ์
- เพาะเมล็ด การตอนกิ่ง และปักชำ
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ