ชื่อ – ชนิด พันธุ์
คูณ หรือ ราชพฤกษ์,กุเพยะ,ปือยู,ปูโย,เปอโซ,แมะหล่าหยู่,ลมแล้ง
ชื่อวิทยาศาสตร์
Cassia Fistula
ประวัติ
ถิ่นกำเนิดตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถาน ไปจนถึงอินเดีย ศรีลังกา พม่า และไทย
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ใบ ดอก ผล )
- ต้นคูน จัดเป็นพรรณไม้ขนาดกลาง มีลักษณะลำต้นสีน้ำตาลแกมเทา เกิดขึ้นทั่วไปในดินที่มีการถ่ายเทน้ำได้ดี นอกจากจะพบในประเทศไทยของเราแล้ว ยังสามารถพบเจอได้ทั่วไปในประเทศศรีลังกา อินเดีย และพม่า ไปจนถึงตอนใต้ของปากีสถาน ซึ่งเป็นพืชเมืองในแถบเอเชียทางตอนใต้
- ใบของต้นคูน มีลักษณะใบออกเป็นช่อ สีเขียวมัน โดยใน 1 ช่อ จะมีความยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร ใบย่อยมีรูปทรงไข่ ลักษณะเป็นป้อม มีประมาณ 3-6 คู่ กว้างประมาณ 5-7 เซนติเมตร และยาวประมาณ 9-15 เซนติเมตร โคนใบมนสอบไปทางส่วนปลายของใบ เนื้อใบเกลี้ยง มีเส้นแขนงถี่และโค้งตามรูปของใบ
- ดอกต้นคูนถือเป็นไฮไลท์สำคัญ เนื่องจากมีสีเหลืองสวยงาม ช่อดอกยาวประมาณ 20-45 เซนติเมตร กลีบดอกรูปขอบขนาน มี 5 กลีบ โดยกลีบดอกจะยาวปว่ากลีบรองประมาณ 2-3 เท่า ก้านเกสรตัวผู้มี 10 ก้าน อับเรณูโค้งงอขึ้น ดอกต้นคูณจะบานสะพรั่งช่วงเดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคม แต่ในบางกรณีอาจออกดอกนอกฤดูกาล เช่นเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม
- ผลของต้นคูนมีลักษณะเป็นฝัก ฝักยาวรูปทรงกระบอกเกลี้ยง โดยมีความยาวประมาณ 20-60 เซนติเมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางคือ 2-2.5 เซนติเมตร หากเป็นฝักอ่อนจะมีสีเขียว ส่วนฝักแก่จะมีสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ ภายในฝักจะมีเยื่อบางๆ ติดกับเป็นช่อ และมีเมล็ดสีน้ำตาลแบนอยู่จำนวนมาก เมล็ดมีขนาด 0.8-0.9 เซนติเมตร
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 9-15 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ขนาดทรงพุ่ม 4-6 เมตร
ความต้องการแสง
- ต้องการแสงแดด 100 %
ความต้องการน้ำ
- ควรรดน้ำ 7-10 วันต่อ 1 ครั้ง เมื่อมีอายุ 4 ปี ขึ้นไปสามารถทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี
ชอบดินประเภท
- ชอบดินร่วนซุย
ประโยชน์การใช้สอย
- เนื้อไม้แปรรูปเป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เครื่องมือช่าง เครื่องมือเกษตร ตลอดจนใช้ในการสร้างบ้าน ทำเสาบ้าน เสาสะพาน ล้อเกวียน คันไถ
- ฝักแก่สามารถนำมาใช้ทำเชื้อเพลิงในการก่อไฟ หุงต้ม
- เปลือกของต้นคูนเป็นยาบำรุงโลหิต
- ลำต้นและใบ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ฝัก ช่วยแก้ไข้มาลาเรีย
- ราก มีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้
- เมล็ด มีสรรพคุณเป็นยาถอนพิษทำให้อาเจียน
- เนื้อในฝักบรรเทาอาการแน่นหน้าอก
- ดอก เป็นยาแก้ไข้ ช่วยบำรุงหัวใจ
การเก็บเกี่ยว
- ออกดอกพร้อมกันทั้งต้นพร้อมกับการผลัดใบ คือ ระหว่างปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
- การออกผล เริ่มเดือนพฤษภาคม และจะผลแก่เดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายน ผลแก่จะห้อยติดอยู่กับต้นช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นจะเริ่มร่วงราวเดือนเมษายน ไปเรื่อยๆจนหมดต้น ซึ่งเป็นเวลาพอดีกับฤดูกาลออกดอกรุ่นใหม่
การขยายพันธุ์
- การเพาะเมล็ด
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ