ชื่อ – ชนิด พันธุ์
ทุเรียนกระดุมทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์
Durio Zibthinus Murray
ประวัติ
แหล่งที่ค้นพบบางกอกน้อยตลิ่งชัน จ. นนทบุรี จ.จันทบุรี
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ราก ใบ ดอก ผล )
- ต้น ทรงต้นดี ปลูกง่ายและโตเร็วกว่าพันธุ์อื่นทั้งหมด แผ่กิ่งก้านสาขากว้าง เมื่อปลูกกลางแจ้งไม่ค่อยทิ้งกิ่ง รูปทรงคล้ายรูปสามเหลี่ยม การแตกกิ่งไม่ค่อยเป็นระเบียบนัก
- ใบ มีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก รูปร่างยาวรี มีส่วนยาวค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับส่วนกว้าง โคนใบมนเกือบเป็นครึ่งวงกลมริมใบทั้งสองเหมือน จะขนานกัน แต่ส่วนใบมีความกว้างกว่าทางโคนใบ ปลายใบสุดไม่เรียวแหลม มีลักษณะสั้นฐานกว้าง แผ่นใบ สองข้างค่อนข้างห่อเข้าหากัน แผ่นใบเป็นคลื่นเล็กน้อย สีใบเขียวแก่เป็นมัน
- ดอก ช่อหนึ่ง 5-30 ดอก ก้านดอกกลม โคนโต ใบเรียวเล็ก ดอกตูม รูปทรงกลม ดอกบานเป็นดอกสมบูรณ์เพศ คือ มีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอก เดียวกัน
- ผลมีลักษณะกลม ขนาดผลค่อนข้างเล็ก หนามนูนปลายแหลม หนามถี่กว่ากระดุมเขียว ปลายผลเว้า ออกผลดก สีเนื้อเหลืองเข้ม เนื้อละเอียด กลิ่นอ่อน รสชาติหวานมัน ลักษณะของพูเต็มสมบูรณ์ร่องพูตื้น
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูงประมาณ 20 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ทรงพุ่มแผ่กว้าง 8 -10 เมตร
ความต้องการแสง
- ชอบแสงแดด 100%
ความต้องการน้ำ
- หลังการปลูกควรรดน้ำพอชุ่มทันที และให้น้ำเช้าเย็นในวันต่อๆ ไปอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในปีแรกๆ ของการปลูก โดยให้ครั้งละประมาณ 5 ลิตร/ต้น และเพิ่มปริมาณขึ้นในปีต่อๆ ไป กิ่งทุเรียนมักจะเริ่มแตกใบอ่อนและตั้งตัวได้เมื่อปลูกไปประมาณ 15-30 วัน ควรให้น้ำน้อยลงก่อนระยะการติดดอก อีกประมาณ 3 สัปดาห์เมื่อดอกบานและแข็งแรงดีแล้วจึงค่อยให้น้ำเพิ่มขึ้นอีก
ชอบดินประเภท
- ชอบดินร่วนปนทราย
ประโยชน์การใช้สอย
- เนื้อทุเรียนช่วยทำให้ฝีแห้ง
- เนื้อทุเรียนช่วยแก้โรคผิวหนัง
- สารสกัดจากใบและรากทุเรียนใช้เป็นยาแก้ไข้ได้ ด้วยการใช้น้ำจากใบวางบนศีรษะของผู้ป่วยจะช่วยลดไข้ได้
- รากทุเรียนมีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องร่วง
- ใบ, เนื้อทุเรียนช่วยขับพยาธิ
- ใบทุเรียนมีสรรพคุณทางยาช่วยแก้ดีซ่าน
- ใบช่วยทำให้หนองแห้ง
- เปลือกช่วยแก้ตานซาง
- เปลือกช่วยรักษาโรคคางทูม
- เปลือกช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย
- เปลือกช่วยแก้ฝี
- เปลือกช่วยรักษาแผลพุพอง
- เปลือกใช้สมานแผล
- เปลือกทุเรียนใช้ไล่ยุงและแมลง
- เนื่องจากทุเรียนมีสารต่อต้านอนุมูลอิสร การบริโภคทุเรียนในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการเกิดโรคในมนุษย์ได้ เช่น โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง เป็นต้น
การเก็บเกี่ยว
- ช่วงระยะเวลาการเก็บเกี่ยวจะอยู่ประมาณเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน
การขยายพันธุ์
- การเพาะเมล็ด
- การตอนกิ่ง
- การเสียบยอด
- การทาบกิ่ง
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ