ชื่อ – ชนิด พันธุ์
ลองกอง หรือ ดอกอง,ดูกู,ลูกู
ชื่อวิทยาศาสตร์
Lansium Domesticum
ประวัติ
มีถิ่นกำเนิดทางแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในหมู่เกาะชวา เกาะมลายู ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และทางภาคใต้ของประเทศไทย ในจังหวัดนราธิวาส และยังมีในประเทศทางแถบซูรินัม เปอร์โตริโก ออสเตรเลีย และฮาวาย
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ราก ใบ ดอก ผล )
- ลองกองเป็นไม้ใบเลี้ยงคู่ มีลำต้นขนาดกลาง ทรงพุ่มเป็นทรงกรวยแหลม ลำต้นเป็นไม้เนื้อแข็งปานกลาง มีลำต้นทรงกลม เปลือกสีเขียวอมน้ำตาล เมื่อต้นมีอายุมากเปลือกแตกเป็นสะเก็ด ลำต้นแตกกิ่งบริเวณค่อนข้างสูง แต่ต้นที่ปลูกจากกล้าตอนกิ่งหรือเสียบยอดจะแตกกิ่งเตี้ยเป็นทรงพุ่มกว้าง
- ใบลองกองเป็นใบประกอบที่มีก้านใบหลักแตกออกจากส่วนปลายของกิ่ง ยาว 25-50 เซนติเมตร แต่ละก้านใบหลักจะมีใบย่อยประมาณ 6-8 ใบ หรือมากกว่า เรียงสลับข้างกัน แต่ละใบจะมีลักษณะรูปไข่ค่อนข้างรียาว ปลายสุดของใบแหลม เป็นติ่ง ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายใบลางสาด แต่จะมีขนาดใหญ่กว่า และใบไม่มีรสขม ใบกว้าง 5-7 เซนติเมตร ยาว 12-20 เซนติเมตร ขอบใบเรียบ แผ่นใบมีสีเขียวเข้ม และเป็นมัน ไม่มีขน แผ่นใบมองเห็นเส้นแขนงใบเป็นร่องลึกชัดเจน ระหว่างเส้นแขนงใบจะโค้งนูนทำให้มองเห็นเป็นลูกคลื่น ส่วนเนื้อใบค่อนข้างหนา และเหนียว
- ดอกลองกองออกเป็นช่อ ทั้งบนลำต้น และกิ่ง โดยจะมีตาดอกแทงออกที่ผิวเปลือก ตาดอกนี้ในระยะแรกจะเป็นตุ่มแข็ง สีน้ำตาลอมเขียว ต่อมาค่อยๆแทงออกให้เห็นเป็นก้านช่อดอกยาวขึ้น โดยแต่ละตาดอกจะมีก้านช่อดอกแตกออกเป็นกระจุกจำนวนมาก บนก้านช่อดอกจะมีดอกเรียงสลับกันจำนวนมาก
- ผลลองกองเป็นผลเดี่ยว ผลมีลักษณะค่อนข้างกลม มีเปลือกค่อนข้างหนาเมื่อเทียบกับเปลือกลางสาด แต่เปลือกลองกองจะมียางน้อยกว่าหรือไม่มียางเมื่อสุกเต็มที่ โดยเปลือกผลอ่อนหรือผลดิบมีสีเขียวเข้ม และเมื่อแก่หรือสุกจะมีสีเหลืองอ่อนหรือสีครีม ถัดมาด้านในจะเป็นเนื้อผลแบ่งเป็นกลีบๆ 4-5 กลีบ เนื้อผลมีสีขาวใสหรือออกขาวขุ่น เนื้อมีลักษณะหนา และฉ่ำไปด้วยน้ำ ซึ่งให้รสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อยตามระยะการสุก
- เมล็ดลองกองจะถูกหุ้ม ด้วยเนื้อผล โดยในแต่ละกลีบจะมี 1 เมล็ด หรือบางกลีบอาจมีเมล็ดลีบหรือไม่มีเมล็ด โดยเมล็ดลองกองจะมีรูปร่างรี มีสีเหลืองอมน้ำตาล ทั้งเปลือก และเนื้อเมล็ดจะมีรสขม
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูงประมาณ 10-15 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ขนาดทรงพุ่ม 6-10 เมตร
ความต้องการแสง
- ชอบแสงแดด 100%
ความต้องการน้ำ
- รดน้ำทุกๆ 5 วัน ไม่ควรให้น้ำลองกองมากเกินไปเพราะจะทำให้รสชาติของลองกองจืด
ชอบดินประเภท
- ชอบดินร่วนปนทราย
ประโยชน์การใช้สอย
- เมล็ดลองกองมีสารสำคัญที่ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย
- เนื้อลองกองช่วยลดความร้อนในร่างกาย หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นไข้ตัวร้อน และยังช่วยลดอาการร้อนในช่องปากได้ด้วย
- เมล็ดรักษาอาการไข้
- มีการนำเปลือกต้นมาสกัดเพื่อใช้เป็นยารักษาโรคมาลาเรีย
- ใบลองกองมีฤทธิ์ต้านเชื้อมาลาเรียได้ถึง 50%
- เปลือกผลนำไปตากแห้งแล้วเผาให้เกิดควัน ใช้สูดดมเพื่อช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยที่เป็นวัณโรค
- น้ำจากผลมีการนำไปใช้หยอดตาเพื่อช่วยรักษาอาการตาอักเสบ
- เปลือกต้นลองกองสามารถนำมาใช้เป็นยาต้มกินเพื่อช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้ได้
- เปลือกผลแห้งนำมาเผาเพื่อให้ได้กลิ่นน้ำมันหอมระเหย มีประโยชน์ในการใช้ไล่ยุงได้
การเก็บเกี่ยว
- มักจะแทงตาดอกในช่วงเดือนเมษายน ระยะเวลาที่ก้านดอกเริ่มแทงออกจนถึงเวลาที่ดอกเริ่มบานจะใช้เวลาประมาณ 45 วัน และดอกจะบานนานประมาณ 10 วัน
- ระยะตั้งแต่หลังดอกบานจนถึงผลเริ่มสุกจะใช้เวลาประมาณ 13-15 สัปดาห์ และการสุกจะเริ่มสุกจากผลบริเวณโคนช่อผลก่อน
การขยายพันธุ์
- การเพาะเมล็ด
- การทาบกิ่ง
- การตอนกิ่ง
- การเสียบยอด
- การติดตา
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ