ชื่อ – ชนิด พันธุ์
สาธร หรือ กระเจาะ,ขะเจาะ,ขะแมบ,คำแมบ,กะเชาะ,กระพีเขาควาย
ชื่อวิทยาศาสตร์
Millettia leucantha Kurz
ประวัติ
ถิ่นกำเนิดพบในประเทศลาว พม่า และไทย ขึ้นในป่าเบญจพรรณใกล้แหล่งน้ำทั่ว ๆ ไป
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ใบ ดอก ผล )
- ลำต้น มีเรือนยอดกลมหรือทรงกระบอก เปลือกต้นสีเทาเรียบหรือแตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ตื้น ๆ เนื้อไม้สีขาวอมน้ำตาล แก่นสีน้ำตาลอมดำ เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ
- ใบ มีใบอ่อนและยอดอ่อนมีขนยาวอ่อนนิ่มคล้ายเส้นไหมปกคลุมอยู่ ใบเป็นใบประกอบรูปขนนกเรียงสลับ ใบย่อยติดเป็นคู่ตรงกันข้าม 3-5 คู่ ปลายสุดเป็นใบเดี่ยวแผ่นใบย่อย รูปรี กว้าง 3-5.5 เซนติเมตร ยาว 5-12 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนมน ด้านล่างใบสีอ่อนกว่าด้านบน ใบแก่เกลี้ยง
- ดอก จะออกเป็นช่อกระจายแตกแขนงสีขาว ยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ออกพร้อมใบอ่อน รูปดอกถั่ว กลีบดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยง 4 กลีบติดกันเป็นหลอดสั้น ออกรวมกันเป็นช่อตามง่ามใบและปลายกิ่ง ออกดอกช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม
- ผล มีลักษณะเป็นฝักแบน รูปขอบขนานคล้ายฝักมีด มีเปลือกแข็ง กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาว 4-10 เซนติเมตร ฝักแก่แตกเป็น 2 ซีก ฝักหนึ่ง ๆ มี 1-3 เมล็ด เมล็ดสีน้ำตาล รูปร่างแบนคล้ายโล่ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.3 เซนติเมตร
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 18-20 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
มีทรงพุ่มทึบเป็นทรงกระบอกหรือค่อนข้างกลม
ความต้องการแสง
- ต้องการแสงแดดจัดตลอดทั้งวัน
ความต้องการน้ำ
- ต้องการน้ำและความชื้นสูง ควรให้น้ำ 2-3 วัน / ครั้ง
ชอบดินประเภท
- ชอบดินร่วนซุย
ประโยชน์การใช้สอย
- ใช้เนื้อไม้มาแปรรูปทำเป็น เครื่องจักสานและเครื่องใช้สอยต่างๆ เช่น เสาเรือน ขื่อ รอด เพลา เกวียน เครื่องนอน ครก สาก เป็นต้น และ ใบของต้นสาธรสามารถใช้ในการหมักซีอิ๊วพื้นบ้านอีกด้วย
การเก็บเกี่ยว
- ออกดอก: มีนาคม – พฤษภาคม
- ฝักแก่ พฤษภาคม – สิงหาคม
การขยายพันธุ์
- เพาะเมล็ด
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ