ชื่อ – ชนิด พันธุ์
กระท่อม หรือ อีด่าง อีแดง กระอ่วม
ชื่อวิทยาศาสตร์
Mitragyna speciosa
ประวัติ
แหล่งที่พบ ในบางจังหวัดของภาคกลางเช่น ปทุมธานี แต่จะพบมากในป่าธรรมชาติบริเวณภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และตอนบนของประเทศมาเลเซีย
สำหรับถิ่นกำเนิดของต้นกระท่อมนั้นจะอยู่ในเขตร้อนชื้นทางฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบได้นอกจากประเทศไทย แล้วก็ยังมี เกาะนิวกินี มาลายู และประเทศเพื่อนบ้านแถบอาเซียน เพราะเป็นแหล่งที่ดินมีความชื้นสูง อุดมสมบูรณ์ เก็บความชุ่มชื้นได้ดี และชื่นชอบแสงแดดปานกลาง ซึ่งหากถามว่าในประเทศไทยเรามีกี่สายพันธุ์ อะไรบ้าง? ตอบเลยว่ามีด้วยกัน 3 สายพันธุ์ คือพันธุ์ยักษาใหญ่ พันธุ์แตงกวา และพันธุ์ก้านแดง
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ใบ ดอก ผล )
- กระท่อมเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ปานกลาง มีแก่นเป็นไม้เนื้อแข็ง 10-15 เมตร อยู่ในตระกูลสูง Mitragyna speciosa ใบคล้ายใบกระดังงา มีชนิดก้านใบแดงและใบเขียว ดอกกลมโตขนาดเท่า ผลพุทรา ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียวเรียงตัวเป็นคู่ตรงข้าม แผ่นใบขนาดกว้างประมาณ 5-10 ซม. ยาวประมาณ 8-14 ซม. ดอกมีสีขาวอมเหลืองออกเป็นช่อตุ้มกลมขนาด 3-5 ซม
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 10-15 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ทรงพุ่มกว้าง 4 เมตร
ความต้องการแสง
- ต้องการแดด 100 %
ความต้องการน้ำ
- ต้องการน้ำปานกลาง
ชอบดินประเภท
- ชอบดินร่วนซุย
ประโยชน์การใช้สอย
- ช่วยบำรุงกำลังเพิ่มพลังให้ทำงานได้นานขึ้น
สรรพคุณแรกที่อยากแนะนำ คือ ความสามารถในการช่วยบำรุงกำลังเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย จึงมีผลทำให้การทำงานยาวนานขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย ทนแดดทนลม กล้ามเนื้ออึดขึ้น ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อที่เป็นอยู่ได้ดี แต่กระนั้นต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกาย
- รักษาอาการลำไส้ติดเชื้อ
ลำไส้ติดเชื้อ หรือท้องเสีย ท้องร่วง ถ่ายเหลว เราสามารถนำต้นกระท่อมไปต้ม เพื่อดื่มกินได้ หรือจะเคี้ยวใบ ชงกับน้ำดื่มเพื่อรักษาอาการที่เป็นอยู่ก็ไม่มีปัญหา เมื่อดื่มไปแล้วตัวสรรพคุณที่มีในใบ หรือลำต้น ก็จะไปช่วยยับยั้งเชื้อในลำไส้ ไม่ทำให้เกิดอาการกำเริบอีก
- ช่วยลดอาการปวดที่มีผลดีกว่ามอร์ฟีน
กระท่อมมีสารชื่อว่า ไมทราไจนีน อันถือเป็นสารที่มีความสำคัญมาก ในไทยพบสูงถึง 66% มีส่วนช่วยกดประสาทส่วนกลาง เพราะมีสารจำนวนอัลคอลอยด์ผสมอยู่ด้วย จึงระงับอาการปวดต่าง ๆ โดยเฉพาะที่มีความรุนแรงได้ดี รู้สึกง่วงซึม กระตุ้นให้เกิดความเคลิ้มอย่างมีความสุข ผลจากการศึกษาสารนี้ ในใบกระท่อม พบว่ามีส่วนช่วยลดอาการเจ็บปวดที่รุนแรงมากกว่ามอร์ฟีน 13 เท่า ทั้งยังช่วยบำบัดผู้ที่เสพติดมอร์ฟีนในบางคนได้ดีอีกด้วย
- ลดอาการขาดยาจากสารเสพติด
สารเสพติดอย่าง เฮโรอีน ฝิ่น มอร์ฟีน เมื่อใครต้องการบำบัดให้หายขาดสามารถเลือกใช้ต้นกระท่อมช่วยได้ แต่ต้องมีการใช้ในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงระยะเวลาไม่นานมากเกินไป กระท่อม จะให้ผลข้างเคียงในการบำบัดที่น้อยกว่าสารตัวอื่น ๆ
- ช่วยแก้อาการปวดฟัน
โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถต้มน้ำกระท่อมโดยใช้ส่วนใบเด็ด ล้างให้สะอาดแล้วให้นำมาต้มดื่มกินเป็นน้ำสมุนไพรตามตำราแผนโบราณ ฤทธิ์ที่มี จะช่วยให้อาการปวดฟันต่าง ๆ ทุเลาลงได้ แต่ในปัจจุบัน ไม่ค่อยได้ทำกันแล้ว เพราะมีเป็นยาเม็ดแก้ปวดแทน
- ช่วยลดความดันโลหิตสูง
กระท่อมมีสารที่ชื่อ ไมทราไจนีน นอกจากจะช่วยระงับความเจ็บปวดของร่างกายได้ดีกว่ามอร์ฟีน ก็ยังมีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดได้ด้วย ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดความดันโลหิต ซึ่งตามตำรับยาแผนโบราณแล้ว มีผลวิจัยว่าช่วยปัญหาความดันเลือดสูงจริง
- ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
กระท่อมเป็นพืชที่สามารถช่วยรักษาโรคเบาหวานมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเอาใบมาเคี้ยวแล้วคายกากออก หรือต้มดื่มกินในชีวิตประจำวันก็ได้หมด ช่วยในการดูดกลับของน้ำตาลกลูโคส ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงโดยไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับอินซูลินในร่างกายของผู้ป่วยอีกต่างหาก
- ช่วยรักษาแผลในปาก แก้ไอ
สรรพคุณของต้นกระท่อม นอกจากเรื่องต่าง ๆ ข้างต้น ยังสามารถใช้รักษาอาการแผลในปาก ไม่ว่าจะเกิดจากการกัดปากตัวเอง ร้อนในที่เกิดขึ้น รวมถึงอาการไอ ก็แก้ได้เช่นกัน ซึ่งฤทธิ์ที่มี จะช่วยสมานแผล ห้ามเลือด ที่สำคัญช่วยถอนพิษจากสัตว์ร้ายได้ด้วย
การเก็บเกี่ยว
- ใบกระท่อมสามารถเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป โดยให้เก็บเฉพาะใบแก่ แต่ถ้าจะให้ผลผลิตเต็มที่ ต้นกระท่อมควรมีอายุ 5 ปี จึงจะสามารถเก็บเกี่ยวใบกระท่อมได้ต้นละ 1 กิโลกรัม และสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก 15 วัน
การขยายพันธุ์
- เพาะเมล็ด
- ปักชำ