ชื่อ – ชนิด พันธุ์
ฝรั่งไส้ชมพู
ชื่อวิทยาศาสตร์
Psidium Guajava (L.)
ประวัติ
มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมจากประเทศไต้หวัน ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ในบ้านเรา
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ใบ ดอก ผล )
- ลำต้น เป็นไม้ยืนต้น มีทรงพุ่มขนาดกลาง ลำต้นมีลักษณะกลมๆ เป็นเนื้อไม้แข็ง เปลือกมีผิวเรียบ มีสีน้ำตาล
- ใบ เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว มีลักษณะทรงรี โคนมนปลายรี พื้นผิวใบหนาสากมือ ใบมีสีเขียวแก่ ใบด้านบนมีสีเข้ม ใต้ใบมีสีอ่อนกว่า มีขนอ่อนๆอยู่ มีต่อมน้ำมันอยู่
- ดอก ออกเป็นช่อ จะมีดอกอยู่เป็นกระจุก กลีบดอกมีสีขาว มีเกสรฝอยเล็กๆสีเหลือง กลีบเลี้ยงแข็งสีเขียว มีกลิ่นหอม มีก้านดอกยาว ออกตามปลายกิ่ง
- ผล มีลักษณะทรงกลม ทรงไข่ หรือทรงรี ตามสายพันธุ์ มีเปลือกบางผิวเรียบเกลี้ยง ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อผลสุกจะเปลี่ยนเป็น สีเขียวอมเหลือง ภายในผลข้างในจะมีเนื้อสีขาว มีไส้ตรงกลางมีสีชมพู หรือสีแดง มีเมล็ดเกาะติดอยู่มากมาย มีรสชาติหวานกรอบ มีกลิ่นหอม
- เมล็ด จะเกาะอยู่กับไส้ตรงกลาง มีลักษณะทรงกลมเล็กๆ แข็งมาก มีสีน้ำตาล
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 3-5 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ทรงพุ่มกว้าง 2-3 เมตร
ความต้องการแสง
- ต้องการแสงแดด 100 %
ความต้องการน้ำ
- ต้องให้น้ำเพียงพอ ไม่แฉะเกินไป ต้องรดน้ำเช้าเย็น เมื่อฝรั่งเติบโตขึ้นก็เว้นการให้น้ำได้4-5 วัน/ครั้ง
ชอบดินประเภท
- ชอบดินร่วนซุย
ประโยชน์การใช้สอย
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ฝรั่งสีชมพูปริมาณ 100 กรัม มีไลโคปีนเป็นจำนวนถึง 5,204 ไมโครกรัม ซึ่งมากกว่ามะเขือเทศถึง 2 เท่า สารไลโคปีนจะช่วยต้านอนุมูลอิสระจึงลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปอด
- ป้องกันหวัด ปริมาณฝรั่งสีชมพู 100 กรัม มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 3 เท่า จึงช่วยป้องกันหวัด เสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
- แก้อาการท้องผูก ฝรั่งสีชมพูเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักเพราะมีไฟเบอร์สูงจึงช่วยทำให้อิ่มท้องนานแล้วยังช่วยในการกระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้อุจจาระนิ่ม ป้องกันอาการท้องผูก ป้องกันโรคริดสีดวงทวารและมะเร็งลำไส้ใหญ่
- บำรุงดวงตา ฝรั่งสีชมพูนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ซึ่งจะช่วยในการมองเห็นทำให้ดวงตามีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา
- ปกป้องผิวหมองคล้ำจากแสงแดด ฝรั่งสีชมพูมีปริมาณไลโคปีนสูงมาก ซึ่งไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำลายจากรังสี UVA และ UVB ในแสงแดด จึงช่วยให้ผิวไม่คล้ำเสียง่าย
การเก็บเกี่ยว
- ออกดอกติดผลได้ตลอดปี
- นับจากดอกบานจนถีงผลแก่พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวได้ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน
- การปลูกด้วยตอนกิ่งทาบกิ่ง จะให้ผลผลิตเร็วกว่า ใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี หลังปลูกลงแปลง จะออกผลได้ ผลสุกจะมีสีเขียวอมเหลือง ใช้กรรไกรตัดขั้ว แล้วต้องระวังทำหล่น อาจทำให้เสียหายได้
การขยายพันธุ์
- เพาะเมล็ด
- ตอนกิ่ง
- ทาบกิ่ง
- ติดตา
- เสียบกิ่ง
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ