ชื่อ – ชนิด พันธุ์
ทองกวาว หรือ กวาว,ก๋าว,จอมทอง,จ้า,จาน,ทองธรรมชาติ,ทองต้น
ชื่อวิทยาศาสตร์
Butea Monosperma
ประวัติ
ถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียใต้ จากประเทศไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย ศรีลังกา เนปาล บังกลาเทศ ปากีสถาน อินเดีย และในแถบทางภาคตะวันตกของอินโดนีเซีย
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ใบ ดอก ผล )
- ลักษณะของลำต้นทองกวาวเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8–15 เมตร เป็นไม้ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ ลำต้นแตกกิ่งต่ำคดงอซึ่งเป็นไปโดยตามธรรมชาติของเขา เปลือกนอกสีเทาถึงสีเทาคล้ำค่อนข้างเรียบหรือแตกเป็นร่องตื้น ๆ เปลือกในสีแดง สับเปลือกทิ้งไว้จะมีน้ำยางใส ๆ ไหลออกมาทิ้งไว้สักพักจะกลายเป็นสีแดง สามารถนำไปใช้ย้อมผ้าได้
- ใบเป็นประกอบแบบขนนก ปลายคี่ เรียงเวียนสลับ ใบย่อยมี 3 ใบ เรียงตรงข้าม ใบย่อยที่ปลายเป็นรูปมนเกือบกลม ใบย่อยด้านข้างรูปไข่เบี้ยว กว้าง 8–15 ซม. ยาว 9–17 ซม. ปลายใบมน โคนใบสอบ แผ่นใบหนา หลังใบเกลี้ยง ท้องใบมีขนสาก เส้นแขนงใบข้างละ 5–7 เส้น ก้านใบย่อยยาว 3–5 มม.
- ดอกทองกวาวจะออกดอกเป็นช่อแบบไม่แตกแขนง ตามกิ่งก้านและปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 2–15 ซม. ก้านช่อดอกมีขนสีน้ำตาล ก้านช่อดอกยาว 3–4 ซม. กลีบรองกลีบดอกเชื่อมกันเป็นรูปบาตรยาว 1.3 ซม. ส่วนบนแยกออกเป็นกลีบสั้น ๆ 5 กลีบ มีขนสีน้ำตาลดำปกคลุมตลอดกลีบดอกยาว 7 ซม. มี 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากันคล้ายดอกถั่ว กลีบด้านล่างรูปเรือแยกเป็นอิสระดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 6 ซม. ดอกมีทั้งสีแสดและสีเหลืองสด ดอกสีเหลืองพบที่เชียงราย เชียงใหม่ อุบลราชธานี สุรินทร์
- ผลทองกวาว ลักษณะของผลเป็นฝักแบน ฝักมีสีเขียวอ่อนและจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมเหลืองเมื่อแก่เต็มที่ ที่ฝักมีขนอ่อนนุ่มสีขาวเป็นมัน ฝักโค้งงอเล็กน้อย ไม่แตก ส่วนด้านบนหนาแตกเป็น 2 ซีก ในฝักมีเมล็ดขนาดเล็กอยู่ภายใน 1 เมล็ด ฝักมีความยาวประมาณ 10-14 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 2-3.5 เซนติเมตร
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 8-15 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ขนาดทรงพุ่มทึบปานกลางกว้างประมาณ 3-5 เมตร
ความต้องการแสง
- ต้องการแสงแดด 100 %
ความต้องการน้ำ
- รดน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าถ้าอากาศว่าถ้าร้อนจัดก็ต้องรดให้บ่อยขึ้นเป็น 3-4 วัน/ครั้ง
ชอบดินประเภท
- ต้นทองกวาวเป็นไม้ป่าเบญจพรรณจึงสามารถปลูกได้ในดินทุกชนิดแต่จะไม่ชอบดินเหนียวหรือแฉะน้ำจนเกินไป
ประโยชน์การใช้สอย
- ดอกใช้ย้อมสีผ้า โดยจะให้สีแดง
- รากทองกวาวมีสรรพคุณช่วยบำรุงธาตุ
- แก่นสามารถใช้ทาแก้อาการปวดฟันได้
- ยางช่วยแก้อาการท้องร่วง
- ฝัก ใบ หรือเมล็ด นำมาต้มเอาแต่น้ำใช้เป็นยาขับพยาธิหรือพยาธิตัวกลม
การเก็บเกี่ยว
- ออกดอกมากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
การขยายพันธุ์
- การเพาะเมล็ด
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ