เกษตรทฤษฎีใหม่ : new theory agriculture
กล่าวกันว่าไผ่ตงนำมาจากจีน บางครั้งมีรายงานว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากอินโดเนเซีย แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากที่ใด ในไทยนิยมปลูกทั่วทุกภาค ไม่พบในป่าธรรมชาติ บางครั้งอาจพบขึ้นเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ป่าที่เคยมีการทำสัมปทานไม้ในอดีต
ลำต้น เดี่ยว ขึ้นเป็นกอหลวมๆสูง 3-5 เมตร ปล้องยาว 20-30 ซม. เนื้อหนา 2-3 มม. ลำอ่อนสีเขียวแล้วเปลี่ยนเป็นสีม่วงหรือดำตลอดลำ เมื่อต้นแก่เต็มที่ แตกกิ่งต่ำ ใบรูปแถบสีเขียวสด กาบหุ้มข้อสีน้ำตาลแดง หน่ออ่อนมีขนละเอียดสีน้ำตาลแดง ออกดอกเป็นช่อตามปลายยอดบริเวณข้อปล้องเมื่อดอกแห้งก็จะตายไป
ลำต้นเป็นปล้องยาว ผิวเกลี้ยงสีเขียวอมม่วง เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีดำ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอก ปลายแหลม โคนสอบ ขอบใบเรียบ ผิวใบสาก สีเขียว ดอก ออกดอกเป็นช่อ กลีบดอกแข็งเรียงตัวแน่น
ลำต้นทรงกระบอกกลวง ตั้งตรง ผิวมีนวลเกาะ และลำตันหรือมีรูเล็กมาก ไม่มีหนาม สูงได้กว่า 10 เมตร ลำทรงกลมเมื่อโตเต็มที่เท่าข้อมือผู้ใหญ่ ลำช่วงล่างมีข้อปล้องสั้น เนื้อลำตัน หรือถ้ามีรูก็เล็กนิดเดียว เนื้อไม้หนา เสี้ยนใหญ่
พบในพื้นที่อุทยานแห่งชาติคลองพนม บริเวณป่าเขาพุชิง ในท้องที่หมู่บ้านสองพี่น้อง ตำบลคลองศก อำเภอคลองอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นไม้ไผ่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสำรวจพบในประเทศไทย
เป็นพืชกลุ่มไผ่ขนาดเล็ก ลำต้นต้นไผ่เงินมีลักษณะเป็นทรงกระบอก มีกาบห่อหุ้ม ลำต้นไม่มีหนาม เนื้อแข็ง ข้อปล้องเห็นได้ชัดเจน ลำต้นมีสีเขียว ใบมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว บริเวณปลายจะแหลม ขอบค่อนข้างเรียบ ผิวใบค่อนข้างสาก มีสีเขียวสลับกับแถบสีขาว
ลำต้นขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 7-15 เมตร ส่วนโคนมีเนื้อหนาเกือบตัน ที่ปลายลำมีเนื้อบาง ปลายใบเรียวแหลม โคนใบป้านหรือเกือบกลม ยาว 7-22 ซม. กว้าง 0.5-1.5 ซม. ท้องใบมีขน เส้นกลางใบข้างบนแบน เส้นลายใบ 4-6 เส้น ขอบใบสากและคม ก้านใบสั้น 0.5 ซม.
ขนาดเล็กลำตรง สีเขียวสวย มีขนาดความสูงไม่สูงมาก ใบเป็นใบเดี่ยวยาวแคบลักษณะคล้ายรูปหอกขอบใบเรียบผิวใบสีเขียวมีขนอ่อนๆคลุมบนผิวใบ ออกดอกเป็นช่อตามปลายยอดบริเวณข้อปล้องเมื่อดอกแห้งก็จะตายไป
ลำต้น เป็นไผ่ประเภทหนึ่งนิยมรับประทาน เป็นไม้ยืนต้นมีอายุยืนยาว มีเหง้าใต้ดิน แตกออกขึ้นเป็นกอ ออกหน่อเหนือดิน มีกาบหุ้มหน่อสีเหลืองอมเขียว มีลำต้นเป็นปล้องๆ แบ่งเป็นสองส่วน ลำต้นใต้ดินและลำต้นเหนือดิน มีหน่ออ่อนแตกเหง้าออกจากดิน
ลำต้นมีสีเขียวเป็นมัน เป็นไผ่ขนาดเล็ก สูงประมาณ 3-4 เมตร ปล้องยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ไม่มีหนาม ขึ้นเป็นกอเป็นพุ่ม แขนงสั้น ใบสีเขียว เรียวเล็ก หน่อเล็ก มีขนหน่อสีเทา มีกาบสีขาว
ลำต้นกลม ใหญ่ ตั้งตรง ไม่แตกกิ่งก้าน เปลือกต้นแข็ง สีเทา ขรุขระ มีรอยแผลใบ โคนต้นมีสะโพกใหญ่ โตเต็มที่สูงประมาณ 18 เมตร ทางใบใหญ่และยาว ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงเวียน รูปพัดจีบ โคนใบและปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบสีเขียวแก่เป็นมัน โคนก้านใบใหญ่แผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น
ลำต้นกลม ใหญ่ ตั้งตรง ไม่แตกกิ่งก้าน เปลือกต้นแข็ง สีเทา ขรุขระ มีรอยแผลใบ โคนต้นมีสะโพกใหญ่ โตเต็มที่สูงประมาณ 18 เมตร ทางใบใหญ่และยาว ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงเวียน รูปพัดจีบ โคนใบและปลายใบแหลม
เงาะพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดในตำบลนาสาร อำเภอบ้านนาสาร ประเทศไทย โดยในปี พ.ศ.2469 นายเค หว่อง ชาวจีนสัญชาติมาเลเซียได้ย้ายมาทำงานอยู่ที่นาสารและได้ปลูกบ้านอยู่อาศัย เขาได้นำเมล็ดเงาะพันธุ์หนึ่งเข้ามาปลูกในบริเวณบ้าน แต่เวลาผ่านไปหลายปีเขาก็ตัดสินใจขายที่ดินส่วนนั้นทั้งหมดให้กับกระทรวมธรรมมาการหรือกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน
ต้นแคนา จัดเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง โดยมีความสูงของต้นประมาณ 10-20 เมตร ลำต้นเปลาตรง แตกกิ่งก้านสาขาต่ำ เปลือกของลำต้นจะมีสีน้ำตาลอ่อนอมสีเทา บางครั้งอาจมีจุดดำปะปน ผิวของลำต้นเรียบหรือล่อนออกเป็นเกร็ดขนาดเล็ก
ใบต้นแคนา จะมีใบเป็นใบประกอบแบบขนชั้นเดียว ใบมีรูปร่างคล้ายทรงรีหรือรูปไข่
แหล่งที่ขึ้นชื่อว่าปลูกส้มเขียวหวานกันมากและมีชื่อเสียงในประเทศไทย คือ ตำบลบางมดในพื้นที่อำเภอราษฎร์บูรณะและอำเภอบางขุนเทียนของจังหวัดธนบุรี (ปัจจุบันคือแขวงบางมดในเขตทุ่งครุและแขวงบางมดในเขตจอมทองของกรุงเทพมหานคร) จนได้ชื่อว่า “ส้มบางมด”
ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ต้นทรงพุ่มกลม ขยายแตกกิ่งก้าน ลำต้นมีหนามแต่ไม่มากเท่ากับพันธุ์ของไทย ลำต้นมีลักษณะกลม เป็นไม้เนื้อแข็งเหนียว เปลือกต้นเรียบ มียางสีขาว มีสีน้ำตาลอมเทา ใบ เป็นใบเดี่ยว ใบมีลักษณะรูปไข่ ทรงรีเล็ก โคนและปลายใบมน ใบเรียบเป็นมัน มีสีเขียว หนาและแข็ง
ลักษณะต้นเป็นทรงค่อนข้างทึบ ลำต้นมีสีน้ำตาลเทาสีจะอ่อนกว่าต้นมะม่วงพันธุ์อื่น ใบมีขนาดกลาง สีใบค่อนข้างอ่อน ขอบของใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ลักษณะการแตกใบคล้ายทรงฉัตรเป็นชั้นๆ ซึ่งมีลักษณะการแตกใบผิดกับมะม่วงพันธุ์อื่น ๆ
ลำต้น มีเนื้อไม้ ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางใส เมื่อแห้งเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลคล้ำ ใบเดี่ยว รูปใบหอกแกมรูปรี กว้าง 3 – 3.5 เซนติเมตร ยาว 15 – 25 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบแคบ แผ่นใบหนา สีเขียวเป็นมัน
เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาเยอะ เป็นไม้เนื้อแข็ง มีเปลือกแข็ง มียางสีขาวทั่วลำต้น เปลือกต้นมีสีน้ำตาล ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่บริเวณปลายกิ่ง รูปรีแกมรูปใบหอก ปลายแหลม โคนมน เนื้อใบค่อนข้างหนา สีเขียวเข้มเป็นมัน
เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร แตกกิ่งก้านหนาแน่นเป็นพุ่มกว้าง ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับจำนวนมากบริเวณปลายยอด ใบเป็นรูปใบหอก ปลายใบแหลมโคนใบมน ขอบใบเรียบ เนื้อใบค่อนข้างหนา ผิวใบเรียบเป็นมัน สีเขียวสด ใบดกให้ร่มเงาดี ดอก ออกเป็นช่อแบบแยกแขนงช่อที่ปลายยอด
ลำต้นอะโวคาโด เป็นไม้ยืนต้น ที่มีต้นโตเต็มที่จะใหญ่พอประมาณ จะมีความสูงประมาณ 18 เมตร เปลือกของต้นอะโวคาโด จะมีสีน้ำตาลอ่อน จะมีผิวขรุขระ ใบอะโวคาโด จะมีลักษณะใหญ่ยาวรี จับดูจะสากมือ ใบมีเส้นลายลึกชัดเจน จะมีใบสีเขียวสด ดอกอะโวคาโด จะมีสีเขียวอมเหลือง จะมีดอกขนาดเล็ก ดอกจะออกเป็นช่อๆ ที่ปลายกิ่ง
ลำต้นอะโวคาโด เป็นไม้ยืนต้น ที่มีต้นโตเต็มที่จะใหญ่พอประมาณ จะมีความสูงประมาณ 18 เมตร เปลือกของต้นอะโวคาโด จะมีสีน้ำตาลอ่อน จะมีผิวขรุขระ ใบอะโวคาโด จะมีลักษณะใหญ่ยาวรี จับดูจะสากมือ ใบมีเส้นลายลึกชัดเจน จะมีใบสีเขียวสด ดอกอะโวคาโด จะมีสีเขียวอมเหลือง จะมีดอกขนาดเล็ก ดอกจะออกเป็นช่อๆ ที่ปลายกิ่ง
ลำต้นอะโวคาโด เป็นไม้ยืนต้น ที่มีต้นโตเต็มที่จะใหญ่พอประมาณ จะมีความสูงประมาณ 18 เมตร เปลือกของต้นอะโวคาโด จะมีสีน้ำตาลอ่อน จะมีผิวขรุขระ ใบอะโวคาโด จะมีลักษณะใหญ่ยาวรี จับดูจะสากมือ ใบมีเส้นลายลึกชัดเจน จะมีใบสีเขียวสด ดอกอะโวคาโด จะมีสีเขียวอมเหลือง จะมีดอกขนาดเล็ก
มีต้นกำเนิดที่เกาะไหหลำ สาธารณรัฐจีน เป็นไม้จักรพรรดิ์ในอดีตของประวัติศาสตร์จีน ทางจีนเรียก ไม้ฮวงหัวลี่ เป็นไม้ที่ไม่ติดอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ หรือเรียกโดยย่อว่า ไซเตส (Cites) สามารถนำเข้าปลูกได้ในประเทศไทยและตัดส่งออกต่างประเทศได้ไม่ติดข้อกฎหมาย