เกษตรทฤษฎีใหม่ : new theory agriculture
ต้นส้มจี๊ด จัดเป็นไม้พุ่ม มีความสูงของต้นประมาณ 1.5-3 เมตร ตามกิ่งมีหนามแหลมคม ยาวประมาณ 1-3 เซนติเมตร ใบส้มจี๊ด ใบเป็นใบประกอบชนิดแบบลดรูปที่มีใบย่อยใบเดียว ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบแหลม มีขนาดกว้างประมาณ 2-4 เซนติเมตร
มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปเอเชียบริเวณประเทศพม่าและไทย โดยมักจะพบขึ้นกระจัดกระจายทั่ว ๆ ไป ตามป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง จากนั้นจึงได้กระจายพันธุ์ไปยังบริเวณใกล้เคียงปัจจุบันสามารถพบได้ในหลายประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย บังคลาเทศ และอินเดีย
ลำต้นที่เป็นแกนหลักของมะขามป้อมจะไม่ใหญ่มากนัก มีผิวเปลือกไม้ค่อนข้างเรียบ และแตกกิ่งก้านจำนวนมาก หากไม่ตัดแต่งให้ดีก็อาจทำให้ดูรกได้เหมือนกัน ใบจะเหมือนกับใบมะขามทั่วไป คือมีใบขนาดเล็ก แล้วเรียงตัวกันบนกิ่งย่อยขนาดเล็กมาก ใบมีสีเขียวจัด และหลุดออกจากกิ่งย่อยได้ง่าย
ลำต้นที่เป็นแกนหลักของมะขามป้อมจะไม่ใหญ่มากนัก มีผิวเปลือกไม้ค่อนข้างเรียบ และแตกกิ่งก้านจำนวนมาก หากไม่ตัดแต่งให้ดีก็อาจทำให้ดูรกได้เหมือนกัน ใบจะเหมือนกับใบมะขามทั่วไป คือมีใบขนาดเล็ก แล้วเรียงตัวกันบนกิ่งย่อยขนาดเล็กมาก ใบมีสีเขียวจัด และหลุดออกจากกิ่งย่อยได้ง่าย
มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถgพบได้โดยทั่วไปในประเทศแถบนี้ ในประเทศไทย สามารถพบได้ทั่วไปตามป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก และทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100 – 400 เมตร ส่วนทางภาคใต้มักจะพบขึ้นตามป่าดงดิบ
ไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบ ทรงพุ่มกลมหรือทรงกระบอก แน่นทึบ กิ่งห้อยย้อย เปลือกต้นสีเทาเข้มเกือบดำ ผิวขรุขระ มีรอยแตกเป็นทางยาว ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่แกมรูปขอบขนาน กว้าง 6-10 ซม. ยาว 16-24 ซม. ปลายใบเรียวแหลมเป็นติ่งโคนใบมน แผ่นใบค่อนข้างหนา และเหนียว สีเขียวเข้ม
ลำต้น เป็นเปลาตรงเปลือกเรียบหรือแตกเป็นร่องเล็กๆ สีเทา โคนเป็นพูพอนต่ำๆ เปลือกหนาประมาณ 0.3-1.7 เซนติเมตร เนื้อไม้มีสีเหลืองทองถึงน้ำตาลแก่ เสี้ยนตรง เนื้อหยาบ ใบ เป็นใบเดี่ยวใหญ่มาก ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ปลายใบแหลมโคนมน ยาว 25-30 เซนติเมตร
ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรง เปลือกสีน้ำตาล เป็นไม้ลงราก รากกลมโตสีขาวยาว กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาล กิ่งก้านสั้นเป็นกระจุกที่ปลายยอดของลำต้น แตกกิ่งก้านน้อย ก้านใบออกจากลำต้นตรงส่วนปลาย เรียงหนาแน่นช่วงปลายกิ่ง
กระถินณรงค์เป็นไม้ขนาดกลาง มีลำต้นสูงประมาณ 10-20 เมตร ลำต้นทรงกลม ตั้งตรง แต่หากพื้นที่แห้งเลี้ยงมาก ลำต้นจะไม่สมมาตร เปลือกของต้นอายุน้อยมีสีเทา ผิวขรุขระ เมื่อต้นเจริญเต็มที่ เปลือกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ผิวเป็นร่องแตกสะเก็ด แตกกิ่งก้านมาก และหนาแน่นมากบริเวณเรือนยอด
ชะมวง จัดเป็นพันธุ์พืชท้องถิ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทย พม่า มาเลเซีย ลาว กัมพูชา เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยมักจะพบตามป่าดิบชื้นทั่วไป รวมถึงที่ราบลุ่มที่มีความชื้นพบสมควร ซึ่งมักจะพบตามป่าที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 600 เมตร ขึ้นไป
มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่หมู่เกาะซุนตา และหมู่เกาะโมลุกกะ และแพร่กระจายพันธุ์ไปสู่หมู่เกาะอินดีสตะวันตกราวพุทธศตวรรษที่ 24 แล้วจึงแพร่พันธุ์ไปสู่ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส ปานามา เอกวาดอร์ ไปจนถึงฮาวาย
มีถิ่นกำเนิดทางแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในหมู่เกาะชวา เกาะมลายู ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และทางภาคใต้ของประเทศไทย ในจังหวัดนราธิวาส และยังมีในประเทศทางแถบซูรินัม เปอร์โตริโก ออสเตรเลีย และฮาวาย
ถิ่นกำเนิดจากประเทศ บราซิล เป็นไม้พื้นเมืองในบริเวณสุรินัมในอเมริกาใต้ ไปจนถึงกายอานาและปารากวัย ปัจจุบันมีปลูกทั่วไป ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีปลูกที่เกาะชวา ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย แต่ไม่มากนัก ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ขายในประเทศไทยนานแล้ว
พบขึ้นอยู่ในประเทศพม่า, ลาว และไทยกระจายทั่วไปในป่าเบญจพรรณ ที่มีสภาพแห้งแล้ง มักพบเกิดอยู่ร่วมกับไม้สักและไม้ไผ่และบ่อยครั้งก็พบในป่าเต็งรังที่เป็นดินลูกรัง ที่พบในประเทศไทย มีขึ้นอยู่ทุกภาค ยกเว้นภาคใต้
ลำต้น เป็นเหง้ามีทรงพุ่มต้นเตี้ย ลำต้นมีลักษณะเป็นแกนกลม มีเนื้อไม้นุ่มยุ่น มีก้านใบปกคลุมลำต้น เปลือกมีสีน้ำตาล ราก เป็นระบบรากแขนง มีลักษณะกลมเล็กๆ แทงลึกลงในดิน มีรากแขนงและรากฝอยเล็กๆ แทงออกจากเหง้า มีสีน้ำตาล
มีแหล่งกำเนิดในประเทศอินเดีย พม่า ศรีลังกา และอินโดจีน ปลูกทั่วไปในบริเวณหมู่บ้านและสวน แล้วแพร่กระจายไปตามธรรมชาติ ในประเทศมาเลเซียและเกาะชวากับเกาะบาลี อินโดนีเซีย และมีการนำไปปลูกในแคลิฟอร์เนียและฟลอริดาเพื่อใช้ในการศึกษา
ต้นมะกอกฝรั่ง จัดเป็นไม้ยืนต้น มีความสูงของต้นประมาณ 7-12 เมตร เปลือกต้นเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาลแดง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ก้านใบยาว ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปไข่ค่อนข้างเรียวแหลม ปลายใบแหลม โคนใบแหลม ขอบใบหยักเล็กน้อย ออกดอกเป็นช่อแบบพานิเคิล (ช่อดอกที่มีช่อดอกแตกออกมาจากช่อดอกใหญ่อีกทีหนึ่ง)
มีถิ่นกำเนิดมาจากหมู่เกาะมาลูกู ในประเทศอินโดนีเซีย ปัจจุบันกลายเป็นพืชประจำถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เอเชียใต้, ทวีปอเมริกากลาง, ทวีปอเมริกาใต้, ประเทศแทนซาเนีย, ประเทศออสเตรเลีย และประเทศจาเมกา
ลำต้นเป็นเหง้าใต้ดินหรือโผล่เหนือดิน มักเรียกว่า หินจาก ต้นเกิดติดกันเป็นกลุ่มกอ มีลักษณะอ้วนสั้น และแบน แตกออกเป็น 2 ง่าม โดยเยื่อของส่วนลำต้น และโคนก้านใบมีโพรงอากาศ ลำต้นใหม่อาจเกิดจากการแตกกอใหม่หรือเกิดจากเมล็ดใหม่ที่เกิดใกล้กับต้นเก่าเรียงซ้อนกันแน่น
ต้น: เป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุยืน ลำต้น เดี่ยวไม่แตกกิ่งก้านสาขา ลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้ม – ดำ ซึ่งจะมีกาบขอบใบติดอยู่ประมาณ 5 เมตร ลักษณะของเนื้อไม้เป็นไม้เนื้อแข็ง มีเสี้ยนสีดำอัดกันแน่นด้านในสูงประมาณ 15 เมตรและจะมีใบออกที่ยอด ใบ: คล้ายพัดปลายใบแหลมสีเขียว ระหว่างใบจะมีก้านใบแข็งและเชื่อมติดกันคล้ายรูปตัววี ลักษณะก้านใบสีเขียว
ถิ่นกำเนิดในเอเชียตั้งแต่อินเดีย มาเลเซียจนถึงอินโดนีเซีย ในลุ่มของป่าฝนเมืองร้อนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถวแถบคาบสมุทรมลายูขึ้นมาถึงภาคเหนือตอนล่างของไทย มะกอกน้ำขึ้นได้ดีตั้งแต่มาเลเซียจนถึงจังหวัดเหนือสุดของไทย
ไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบ ทึบ เปลือกนอกสีน้ำตาลอมเทา เรียบ หรือแตกเป็นสะเก็ดสี่เหลี่ยม มีช่องอากาศกระจายอยู่ทั่วไป เปลือกในสีชมพู กระพี้สีขาว เปลือกและใบมีกลิ่นหอมแบบอบเชย ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม หรือเกือบตรงข้าม รูปขอบขนาน กว้าง 2.5 – 7.5 เซนติเมตร ยาว 7.5 – 25 เซนติเมตร โคนใบมน ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม
ลำพูเป็นไม้ที่หิ่งห้อยชอบมาเกาะ ทำให้เกิดความสวยงามโดยเฉพาะในยามค่ำคืน ในอดีต ในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยเฉพาะในเขตพระนครมีต้นลำพูอยู่มาก เป็นที่มาของชื่อ “บางลำพู” ซึ่งเป็นชื่อย่านแห่งหนึ่งในเขต แต่ต่อมาต้นลำพูได้ถูกตัดทิ้งลงเป็นจำนวนมาก
มะหวดเป็นไม้ยืนต้นชนิดผลัดใบ ลำต้นแตกกิ่งไม่มากทำให้มีทรงพุ่มแลดูค่อนข้างโปร่ง เปลือกลำต้นสีน้ำตาล ผิวเปลือกแตกเป็นร่อง กิ่งมักแตกออกตั้งแต่ระดับล่างของลำต้น กิ่งแขนงมักแตกออกบริเวณส่วนปลายของกิ่งหลัก ปลายกิ่งแขนงมีขนปกคลุม ส่วนเนื้อไม้แข็งปานกลาง มีสีเหลืองอมน้ำตาล