Skip to content
- เช่น บวบ, ถั่วฝักยาว, ผักกาด, ผักคะน้า, ผักชี, ผักบุ้ง, กะเพรา, ข้าว
- กลุ่มนี้เราก็จะปล่อยให้ผลมันแห้งก่อนแล้วค่อยมาแกะเอาเมล็ดมัน
- เมื่อได้เมล็ดแล้วเราก็ตากในที่ร่ม 4-5 วันแล้วก็เก็บได้เลย
- การเก็บพันธุ์ขาวเราต้องเลือกทีละรวง แต่ละรวงเมล็ดเหมือนกันมั้ย? ถ้าไม่เหมือนให้เอาออก
- ให้เลือกเมล็ดพันธุ์จากรวงที่สมบูรณ์เท่ากัน แบบนี้จะได้พัฒนาพันธุข้าวที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้น
- เช่น พริก, มะเขือ, ฟักทอง, แตงโม
- ถ้าเป็นพริกเราจะใช้เมล็ดสดๆ แล้วนำมาหั่นให้มันแตกออก แล้วนำไปแช่น้ำอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- เมล็ดที่ดีๆ จะจมน้ำอยู่ข้างล่าง เลือกเมล็ดที่จมน้ำ
- นำเมล็ดที่ได้ไปตากในที่ร่ม 3-4 วัน พอแห้งเราก็จะได้เมล็ดที่สามารถนำไปเก็บไว้ปลูกได้
- เช่น มะละกอ, มะเขือเทศ, เสาวรส
- กลุ่มนี้มันจะมีเมือกหุ้มเมล็ดมันอยู่เมือกตัวนี้มันจะล้างยากมาก
- ถ้าเราเอาเมล็ดนี้ไปตากเลย เมือกตัวนี้เป็นตัวดูดความชื้นที่สูงมาก ทำให้เกิดแบคทีเรียเติบโตข้างใน ก็จะทำให้เมล็ดไม่งอก
- ฉะนั้นเมล็ดที่มีเมือกทั้งหลาย ต้องเอามาแช่น้ำเหมือนเมล็ดเปียก แต่แช่น้ำนานขึ้น หั่นแล้วแช่น้ำอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ขึ้นไป แล้วมันจะเน่า เราก็คนให้เมล็ดที่ดีร่วงจมลงสู่ข้างล่าง สิ่งที่เราไม่ต้องการจะลอยอยู่ข้างบน เราก็รินออก ล้างอย่างนี้ 4-5 ครั้งจนหายเหม็น ล้างให้สะอาดอย่าให้มีเมือกติดมาด้วย แล้วก็นำไปตากได้เลย
- นำเมล็ดที่ได้ไปตากในร่ม 3-4 วัน พอแห้งก็จะสามารถเก็บไว้ปลูกต่อไปได้
- เมล็ดทั้งหลาย เวลาตากไม่ควรตากในแดด
- การตากในที่ร่มจะทำให้อายุการงอกยาวนานขึ้น
- เมล็ดพืชสวนทั้งหลายจะมีอายุงอก 1 ปี
- ถ้าเราอยากจะเก็บนานกว่า 1 ปี ก็คือให้ใส่ตู้เย็นสามารถเก็บได้นานกว่า 10 ปี
- เมล็ดทั้งหลายควรปลูกให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะปลูกได้ เพื่อให้มันพัฒนาตัวเองให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลก
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
Go to Top