ชื่อ – ชนิด พันธุ์
ตะโกสวน พลับ มะพลับใหญ่
ชื่อวิทยาศาสตร์
Diospyros malabarica (Desv.) Kostel. var. siamensis (Hochr.) Phengklai.
ประวัติ
มะพร้าวไฟมีถิ่นกำเนิดในประเทศศรีลังกา
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ใบ ดอก ผล )
มะพลับเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นเปลาลง มีความสูงประมาณ 8-15 เมตร มีลักษณะเป็นทรงพุ่มกลมทึบ เปลือกต้นเรียบเป็นสีเทาปนดำ หรือบางทีแตกเป็นร่องเล็ก ๆ ตามยาว ส่วนเนื้อไม้นั้นเป็นสีขาว
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 4-5 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
กิ่งยาวขนาด4-5 เมตร
ความต้องการแสง
แสง มะพลับชอบแสงแดดจัดแบบครึ่งวันถึงตลอดวัน ดังนั้นหากจะปลูกต้นมะพลับก็ควรคำนึงถึงพื้นที่ที่จะปลูกด้วย ควรปลูกไว้ในพื้นที่ที่แสงแดดสามารถส่องถึง เพราะต้นมะพลับชอบแสงแดดและสามารถทนต่อความแห้งแล้งได้ดี
ความต้องการน้ำ
หมั่นรดน้ำเช้าเย็น และควรรดน้ำให้ต้นมะพลับในระดับปานกลาง ไม่ควรรดน้ำน้อยหรือมากเกินไป
ชอบดินประเภท
มะพลับเป็นไม้ที่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยหรือดินเหนียวที่ชุ่มชื้น มีน้ำและความชื้นปานกลาง ทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี ดังนั้นควรใช้ดินชนิดนี้ในการปลูก และถ้าจะให้ดีก็ควรนำต้นดาวเรืองและต้นกะเพรามาปลูกบริเวณโคนต้น ซึ่งจะช่วยไล่แมลงศัตรูพืชบางชนิดที่ชอบกินใบมะพลับได้
ประโยชน์การใช้สอย
เนื้อไม้สามารถนำมาใช้ทำเป็นเครื่องมือทางการเกษตร เครื่องกลึง และใช้ในงานแกะสลักได้
เปลือกต้นให้น้ำฝาดใช้สำหรับฟอกหนัง
ยางของลูกมะพลับให้สีน้ำตาล ซึ่งสามารถนำมาละลายน้ำใช้ย้อมผ้า แห และอวน เพื่อให้ทนทานเช่นเดียวกับตะโก แต่ยางของลูกมะพลับนั้นจะใช้ได้ดีกว่าค่อนข้างมาก เนื่องจากไม่ทำให้เส้นด้านแข็งกรอบเหมือนผลตะโก จึงทำให้ยางของมะพลับมีราคาดีกว่าตะโกมาก ด้วยเหตุนี้จึงมีพ่อค้าหัวใสนำยางของลูกตะโกมาปลอมขายเป็นยางมะพลับ จึงเกิดคำพังเพยที่ว่า “ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก”
สามารถปลูกต้นมะพลับได้ตามริมน้ำ ซึ่งจะให้ร่มเงาได้ดี เนื่องจากเป็นไม้ไม่ผลัดใบ
คนไทยเชื่อว่าต้นมะพลับเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง ซึ่งถ้าหากปลูกไว้ในบริเวณบ้านจะทำให้ร่ำรวยยิ่งขึ้น โดยกำหนดให้ปลูกไว้ทางทิศใต้
การเก็บเกี่ยว
ผลของมะพลับแก่สามารถนำมารับประทานได้ ซึ่งมีรสชาติอร่อย
การขยายพันธุ์
สามารถปลูกด้วยการเพาะเมล็ดหรือปลูกด้วยต้นกล้า หากปลูกด้วยเมล็ดให้นำผลมะพลับมาแกะเอาเมล็ดที่อยู่ด้านใน จากนั้นนำเมล็ดที่ได้ไปตากแดดจนแห้ง
นำเมล็ดที่ตากแดดจนแห้งแล้วมาเพาะปลูกในดิน
ขุดหลุมประมาณ 1 เมตร กว้าง 1 เมตร แยกดินชั้นล่างและบนออกเป็น 2 ส่วน ตากแดดประมาณ 5-7 วัน
รองก้นหลุมด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง หรือหากมีปุ๋ยใบไม้ก็จะดี นำดินปลูกที่มีส่วนผสมของดินปุ๋ยคอกใส่ก้นหลุมระดับ 15 เซนติเมตร จากนั้นทำการเพาะปลูกด้วยเมล็ดหรือต้นกล้าที่เตรียมไว้
เติมดินปลูกที่เป็นส่วนผสมของดินปลูกปุ๋ยคอก ประเภทมูลวัวกับดินก้นหลุมที่ขุดขึ้นมา เพื่อให้รากได้คุ้นเคยกับสภาพดินในพื้นที่
ปิดทับด้านบนด้วยดินชั้นบนของหลุมปลูกผสมกับดินปลูกปุ๋ยคอก จากนั้นคลุมทับด้วยฟางข้าวหรือเศษหญ้าแห้งเพื่อป้องกันการสูญเสียความชื้นบริเวณโคนต้น
รดน้ำให้ชุ่มเช้าเย็น หลังจากปลูกเสร็จแล้วให้หมั่นดูแลและสังเกตการเจริญเติบโต
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ