ชื่อ – ชนิด พันธุ์
มะเดื่อ หรือ มะเดื่อฝรั่ง หรือ มะเดื่อญี่ปุ่น ( ลูกฟิก )
ชื่อวิทยาศาสตร์
Ficus Carica
ประวัติ
การปลูกมะเดื่อพบว่า มีมากว่า 2,000 ปีแล้ว ตำนานของยุโรป และ ตะวันออกยุคโบราณบันทึกไว้ว่า ชาวอียิปต์และชาวกรีกเชื่อว่ามะเดื่อเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นอาหารสำหรับนักกีฬาโอลิมปิกสมัยโบราณ มีปรากฏในไบเบิลของศาสนาคริสต์และอัลกุรอ่านของศาสนาอิสลาม
การปลูกเป็นการค้าเริ่มที่เอเชียตะวันตก แล้วจึงแพร่หลายสู่ซีเรีย ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ปัจจุบันปลูกมากในยุโรปใต้ สหรัฐ ตุรกี ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ มาดากัสการ์ ในอดีต ประเทศไทยจะนำเข้ามะเดื่อในรูปผลแห้ง เริ่มนำต้นเข้ามาปลูกครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2524 ที่ดอยอ่างขาง โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ มูลนิธิโครงการหลวง เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น เป็นผลไม้ต่างถิ่นชนิดหนึ่ง มีคุณค่าทางอาหารสูงอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลก
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ใบ ดอก ผล )
- มะเดื่อเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นเป็นปุ่มแตกกิ่งก้านออก ใบเดี่ยว ด้านหนึ่งหยาบ อีกด้านหนึ่งมีขนอ่อน ลำต้นมียางสีขาว ผลออกเป็นกระจุก กลมแป้นหรือรูปไข่ เปลือกบาง ผลอ่อนสีเขียว พอสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดงหรือชมพูแล้วแต่พันธุ์ เนื้อในสีแดงเข้ม สุกแล้วมีกลิ่นหอม
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
1.5 – 2 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
3 – 10 เมตร
ความต้องการแสง ( มาก 100%, ปานกลาง 50%, แสงรำไร 10-20% )
- ชอบแสงแดด 100%
ความต้องการน้ำ ( มาก, ปานกลาง, น้อย )
- ชอบน้ำมาก แต่ไม่ชอบขังและชื้นแฉะ หมักหมม
ชอบดินประเภท
- ชอบดินที่มีการระบายน้ำค่อนข้างดี
ประโยชน์การใช้สอย
- ในผลมะเดื่อมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็กในปริมาณสูงมาก โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี ไนอาซิน คาร์โบไฮเดรต ผลมะเดื่อ มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น กล้ามเนื้อแข็งแรง สร้างสมดุลสภาวะกรดในร่างกาย ลดรอยเหี่ยวย่น ป้องกันโรคนิ่วในไต ช่วยฟอกตับและม้าม ช่วยสมานแผลในปาก ช่วยย่อยอาหาร ป้องกันโรคมะเร็ง ( สารสกัดจากผลมะเดื่อสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งในการทดลองได้ ) ไม่มีไขมันหรือโคเลสเตอรอล
- มะเดื่อใช้กินเป็นผลไม้สด หรือใช้ทำขนม เช่น พาย พุดดิ้ง เค้ก ไอศกรีม แยม อบแห้ง ผสมในชาไข่มุก หรือใส่ขนมแทนลูกเกด ผลแห้งนำไปคั่วแล้วป่นใช้แทนกาแฟ เป็นผลไม้ที่มีใยอาหารสูง เป็นยาระบาย
การเก็บเกี่ยว
- หลังปลูกเพียง 4 เดือนจะเริ่มออกผล อีก 2 เดือนผลจะทยอยสุก เก็บเกี่ยวผลผลิตได้
การขยายพันธุ์
- ตอนกิ่ง, ปักชำ, เปลี่ยนยอดโดยการเสียบข้าง, เสียบตรง, ติดตา, เพาะเมล็ด, เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ขั้นตอนการปักชำกิ่งมะเดื่อฝรั่ง
- ใช้กรรไกรริดก้านใบออกให้หมดป้องกันการคลายน้ำ
- การตัดกิ่งออกเป็นท่อนๆ ยาว 6-10 นิ้ว ยอดหนึ่งตัดเป็นกิ่งได้ประมาณ 3 ท่อน
- ปักชำในวัสดุชำเฉียง 60 องศา กดบริเวณโคลนกิ่งให้แน่น รดน้ำครั้งแรงให้ชุ่ม
- หลังปักชำ 1 สัปดาห์จะเริ่มแตกตุ่มตาใบ ทิ้งไว้อีก 15 วัน รอรากแตกออกมา
![มะเดื่อ หรือ มะเดื่อฝรั่ง หรือ มะเดื่อญี่ปุ่น [ ลูกฟิก ] ( Ficus Carica )2 มะเดื่อ หรือ มะเดื่อฝรั่ง หรือ มะเดื่อญี่ปุ่น [ ลูกฟิก ] ( Ficus Carica )2](https://farm.vayo.co.th/blog/wp-content/uploads/2022/04/มะเดื่อ-หรือ-มะเดื่อฝรั่ง-หรือ-มะเดื่อญี่ปุ่น-ลูกฟิก-Ficus-Carica-2.jpeg)
ดูข้อมูลเพิ่มเติม