ชื่อ – ชนิด พันธุ์
ลิ้นจี่จักรพรรดิ์
ชื่อวิทยาศาสตร์
Litchi Chinensis Sonn.
ประวัติ
มีต้นกำเนิดในประเทศจีนตอนใต้ อีกทั้งปลูกได้ในไทย เวียตนาม ญี่ปุ่น บังคลาเทศ และอินเดียตอนเหนือ อเมริกาใต้และสหรัฐอเมริกา (ฮาวาย และฟลอลิดา)
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ราก ใบ ดอก ผล )
- ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีทรงพุ่มหนาทึบ ลำต้นมีลักษณะกลมๆ เนื้อไม้แข็ง เปลือกแข็งมีผิวขรุขระ มีสีน้ำตาลอมเทา
- ใบ เป็นใบประกอบ มีลักษณะทรงรูปรียาว โคนมนปลายเรียวรีแหลม ใบอ่อนมีสีแดง ใบด้านบนมีสีเขียวเข้ม พื้นผิวใบเป็นมัน ใบด้านล่างสีอ่อนกว่า มีก้านใบหลักยาว ก้านใบย่อยออกใบเรียงสลับตรงข้าม
- ดอก ออกเป็นช่อ จะมีดอกออกเป็นกระจุก กลีบดอกมีสีเหลืองอมขาว มีกลิ่นหอม มีก้านช่อดอกสั้น ดอกออกตามปลายกิ่ง หรือปลายยอด
- ลักษณะทรงผลเปลือกหนาสีแดงเข้ม ทรงผลรูปหัวใจกลม ผิวหยาบ หนามเรียบ เนื้อหนามีสีขาวขุ่น ฉ่ำน้ำ รสหวาน
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูงประมาณ 10-12 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ทรงพุ่มกว้าง 6-8 เมตร
ความต้องการแสง
- ชอบแสงแดด 100%
ความต้องการน้ำ
- ต้นลิ้นจี่ค่อนข้างชอบความชื้นในอากาศและดินที่ชุ่มชื้นในปีแรกและสองปีแรกควรให้น้ำประมาณ 20-60 ลิตรต่อระยะเวลา 4-5 วัน
ชอบดินประเภท
- ชอบดินร่วน
ประโยชน์การใช้สอย
- ผลรับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย
- เมล็ดช่วยให้พลังชี่ขับเคลื่อน
- สารสกัดจากเปลือกมีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระอย่างสูง
- ลิ้นจี่ต้านมะเร็ง ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม
- ราก, เปลือกลำต้นช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- ลิ้นจี่มีสรรพคุณช่วยแก้อาการไอเรื้อรัง
- เปลือกของผลใช้ทำเป็นชาชงดื่มแก้อาการหวัด
- ช่วยแก้อาการคัดจมูก
- ช่วยป้องกันการเกิดและช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยแก้การติดเชื้อในลำคอ
- ช่วยบำรุงระบบการย่อยอาหาร
- ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
- ช่วยบรรเทาอาการไม่ปกติของระบบทางเดินอาหาร
- ช่วยรักษาอาการท้องเดิน
- ช่วยแก้อาการท้องเสียชนิดไม่รุนแรง
การเก็บเกี่ยว
- ออกดอกประมาณเดือนมกราคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ผลแก่ปลายเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
การขยายพันธุ์
- การเพาะเมล็ด
- การตัดชำ
- การตอนกิ่ง
- การทาบกิ่ง
- การต่อกิ่ง
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ