ชื่อ – ชนิด พันธุ์
กล้วยหอมทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์
Musa acuminata
ประวัติ
กล้วยหอมทอง เป็นสายพันธุ์ที่มาจากกล้วยป่า ความสูงของล าต้นมีประมาณ 2.5-3.5 เมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของลำต้นจะมีมากกว่า 15 ซม. ขึ้นไป ล าต้นภายนอกจะมีกาบเป็นรอยประสีด า เล็กน้อย ส่วนภายในจะเป็นสีเขียว ลักษณะใบยาว มีเส้นกลางใบเป็นสีเขียว มีร่องก้านใบกว้าง มีก้านช่อดอกที่ยาว และมีขนอ่อนๆ ปกคลุมอยู่ มีใบประดับรูปไข่ค่อนข้างยาว ด้านบนเป็นสีม่วงอมเทา บริเวณโคนมีสีซีดลง ส่วน ปลายเป็นสีแดงอมส้ม ใบประดับส่วนปลายจะมีลักษณะแหลมและม้วนขึ้น มีลักษณะเป็นเครือยาวแยกออกเป็น หวีๆ ในเครือหนึ่งจะมีอยู่ประมาณ 4-6 หวี และในหวีหนึ่งๆ จะมีผลอยู่ประมาณ 12-16 ผล เปลือกผลหนา เมื่อ ยังอ่อนอยู่จะมีเปลือกสีเขียว และจะกลายเป็นสีเหลืองทองเมื่อสุก ภายในผลจะมีเนื้อที่ละเอียดเป็นสีครีม สีเหลือง หรือสีส้มอ่อนๆ มีกลิ่นหอม รสหวาน ไม่มีเมล็ด ความกว้างของผลมีประมาณ 3-4 ซม. ยาวประมาณ 18-25 ซม.
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ใบ ดอก ผล )
- ลำต้น ลำต้นเทียมสูง 2.5-3.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กกลางลำต้นเทียมมากกว่า 15 เซนติเมตร สีของกาบลำต้นเทียม มีประดำเล็กน้อย ด้านในสีเขียวอ่อน และมีเส้นสีชมพู
- ใบ ก้านใบมีร่องค่อนข้างกว้างและมีปีก เส้นกลางใบสีเขียว
- ปลี หรือดอก ก้านช่อดอกมีขนอ่อนๆ ลักษณะของใบประดับ รูปไข่ค่อนข้างยาว สีด้านบนม่วงอมเทา มีนวล สีด้านล่างตรงโคนซีดส่วนปลายสีแดงอมส้ม ปลายใบประดับปลายแหลมม้วนขึ้น การเรียงของใบประดับไม่ค่อยซ้อนกันมากนัก ดอกมีก้านยาว ผลใหญ่และยาว มีความกว้างประมาณ 3-4 เซนติเมตร ยาว 18-25 เซนติเมตร
- ผล ผลรูปร่างยาว ปลายผลมีจุก หวีหนึ่งมี 12-16 ผล เครือหนึ่งมี 4-6 หวี เมื่อสุกเปลือกจะเปลี่ยนสีเหลืองทอง เนื้อมีสีครีม-ส้มอ่อนๆ รสหวาน และมีกลิ่นหอม ไม่มีเมล็ด
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
- 5 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
- 2-3 เมตร
ความต้องการแสง
- ชอบแสงแดดจัด
ความต้องการน้ำ
การให้น้ำกล้วยหอมทองจะให้แค่พอชุ่ม ในช่วงที่ปลูกใหม่ ๆ และขณะที่กล้วยหอมตั้งตัวและกำลังติดปลี ติดผลดีแล้วไม่จำเป็นต้องให้น้ำเป็นประจำทุกวันเหมือนพืชอื่น
ชอบดินประเภท
การเตรียมดินให้ขุดไถพรวนดินให้ละเอียดแล้วตากทิ้งไว้ ประมาณ 7-10 วัน เพื่อก าจัดวัชพืชและศัตรูพืช ปรับพื้นที่ปลูกให้เสมอกัน หากมีวัชพืชขึ้นมาอีกก็ให้ไถพรวนซ้ า อีกครั้ง ควรปลูกกล้วยหอมทองในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน หรือถ้ามีแหล่งน้ าเพียงพอก็สามารถปลูกได้ ตลอดทั้งปี
ควรเป็นดินที่มีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) อยู่ระหว่าง 4.5-7 ที่เหมาะสมที่สุดคือ (pH) = 6 เป็นดินร่วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์สูง ระบายน้ำดี ความชื้น พื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกกล้วย ควรมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย ระหว่าง 50-100 นิ้ว ต่อปี จำนวนวันที่ฝนตกควรยาวนาน หากมีฝนตกในช่วงสั้น การปลูกกล้วยจะต้องให้น้ำชลประทานช่วยเพิ่มรักษาความชุ่มชื้นของดินเพิ่มขึ้น แต่ในพื้นที่มีฝนตกชุก ควรระบายน้ำให้แก่กล้วย
ประโยชน์การใช้สอย
- ผลสุกใช้รับประทานเป็นผลไม้ มีรสหวาน หอม อร่อย มีวิตามินและสารอาหารที่เป็น
- ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากมาย อาจน าไปแปรรูป ใช้ประกอบในการปรุงอาหารต่างๆ หรือปลูกขายเป็นอาชีพ
- เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวได้
การขยายพันธุ์
- สามารถท าได้ด้วยวิธีการแยกหน่อ ควรเลือกหน่อ
- พันธุ์ที่อ่อน ใบแคบหรือหน่อดาบ มีใบติดอยู่ประมาณ 3-4 ใบ หน่อมักเกิดขึ้นที่โคนต้นเดิมและมีความสมบูรณ์
- จากนั้นให้ตัดรากหน่อพันธุ์กล้วยที่ได้ให้เหลือแค่ 1 นิ้ว
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ