ชื่อ – ชนิด พันธุ์
นนทรี หรือ สารเงิน,กระถินป่า,กระถินแดง,นนทรีบ้าน
ชื่อวิทยาศาสตร์
Peltophorum Pterocarpum
ประวัติ
ถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยในประเทศไทยนั้นสามารถพบได้ทั่วไปตามชายป่าเต็งรัง หรือป่าเบญจพรรณในภาคตะวันออก ภาคอีสาน และภาคเหนือ
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ใบ ดอก ผล )
- นนทรีเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นสูงประมาณ 15-30 เซนติเมตร แตกออกเป็นกิ่งก้านเป็นทรงพุ่มรูปทรงกลม โดยพุ่มจะดูหนาทึบ และแตกกิ่งก้านแขนงใหญ่ตั้งแต่ระดับล่างของลำต้น เปลือกต้นเป็นสีเทาอ่อนค่อนข้างเรียบหรือแตกออกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ตามกิ่งก้านอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง เปลือกลำต้นด้านในมีสีแดงเรื่อ โดยเปลือกนั้นจะมีความหนาและแข็ง
- ใบของนนทรีจะประกอบกันแบบชนนกสองชั้นเรียงเวียนสลับกัน ซึ่งใบจะมีรูปทรงเหมือนกับไข่แกมรูปขอบขนาน โดยมีความกว้าง 3-7 เซนติเมตร และมีความยาว 10-18 เซนติเมตร ช่อใบหลักจะมีความยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ส่วนช่อแขนงใบย่อยจะเรียงตรงข้าม 9-16 คู่ ปลายใบมนเว้าเข้าเล็กน้อย และโคนใบจะเบี้ยว
- ดอกของนนทรีจะมีสีเหลือง โดยจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ดอกจะออกเป็นช่อในลักษณะช่อกระจะตรงซอกใบใกล้ปลายกิ่ง และช่อดอกจะมีความยาว 20-30 เซนติเมตร โดยมีกลีบเลี้ยงด้วยกัน 5 กลีบ และกลีบดอก 5 กลีบ ส่วนด้านนอกนั้นจะมีขน เมื่อดอกบานเต็มที่แล้วจะมีความกว้างประมาณ 1.6-1.8 เซนติเมตร
- ผลนนทรี เนื่องจากต้นนนทรีเป็นพืชในตระกูลถั่ว จึงออกผลเป็นฝัก ฝักมีลักษณะแบนเป็นรูปหอก ปลายฝักและโคนฝักเรียวแหลม มีขนาดกว้างประมาณ 2 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-12 เซนติเมตร ฝักสดเป็นสีเขียวพอแห้งแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ภายในฝักมีเมล็ดวางตัวเรียงขวางกับฝักประมาณ 1-4 เมล็ด เมล็ดมีความแข็งแรง มีรูปร่างและขนาดเท่าใบย่อย
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 15 – 30 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ขนาดทรงพุ่มกว้าง 5 – 10 เมตร
ความต้องการแสง
- ต้องการแสงแดด 100 %
ความต้องการน้ำ
- รดน้ำ 3 – 4 วัน/ครั้ง
ชอบดินประเภท
- สามารถปลูกได้ในดินทุกประเภท
ประโยชน์การใช้สอย
- เนื้อไม้นนทรีมีสีน้ำตาลอมสีชมพู เป็นมันเลื่อม เสี้ยนไม้ตรงหรือเป็นคลื่นบ้าง เนื้อไม้มีความหยาบปานกลาง เลื่อยผ่าไสกบตบแต่งได้ง่าย มอดปลวกไม่กิน ใช้ในการก่อสร้างบ้านเรือนได้เป็นอย่างดี เช่น ทำพื้น เพดาน ฝา รอด ตง อกไก่ หรือใช้ทำเครื่องเรือน เครื่องใช้ ทำหีบ พานท้ายปืน คันไถ ฯลฯ หรือใช้เผาทำถ่าน
- เปลือกต้นเมื่อนำไปต้มจะให้สีน้ำตาลอมเหลือง ซึ่งนำมาใช้ในการย้อมผ้าฝ้ายบาติกหรือใช้พิมพ์ผ้าปาเต๊ะ ใช้ย้อมแหและอวน
การเก็บเกี่ยว
- ออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม และออกดอกทั้งต้นในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม
- โดยฝักจะแก่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน
การขยายพันธุ์
- การเพาะเมล็ด
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ