ชื่อ – ชนิด พันธุ์
จิกน้ำ หรือ จิกอินเดีย,จิกนา,จิกมุจรินทร์
ชื่อวิทยาศาสตร์
Barringtonia Acutangula
ประวัติ
มีถิ่นกำเนิดตั้งแต่ประเทศอัฟกานิสถาน ไปทางตะวันออกจนถึงประเทศฟิลิปปินส์ และตอนเหนือของประเทศออสเตรเลีย แถบรัฐควีนส์แลนด์ โดยมักขึ้นใกล้ริมแหล่งน้ำ
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ราก ใบ ดอก ผล )
- ต้นจิกน้ำเป็นไม้ผลัดใบที่มีลำต้นแผ่ของด้านข้าง ลำต้นมีความโค้งงออย่างอิสระ เปลือกไม้เป็นสีน้ำตาลอ่อน ผิวสัมผัสเป็นปุ่มเล็กๆ กระจายตัวทั่ว และมีร่องแตกแทรกอยู่
- ใบจะเป็นทรงยาวขอบโค้งมน แต่เมื่อสัมผัสดูจะพบว่าขอบใบมีรอยหยักขนาดเล็กอยู่ ทำให้รู้สึกสากมือ ผิวใบเป็นมันเงาสีเขียวสด เส้นใบชัดเจน และใบเหล่านี้จะหลุดร่วงไปเมื่อต้นจิกน้ำออกดอก
- ดอกจะออกเป็นช่อยาว ห้อยระย้าลงมาด้านล่าง แต่ละดอกจะเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ มีกลีบสั้นๆ สีแดงอมชมพูเพียงแค่ 4 กลีบต่อดอก ยิ่งแก่มากเท่าไรสีก็ยิ่งเข้มขึ้นเท่านั้น
- ผลเป็นรูปทรงยาวรีและมีขอบยกขึ้นมาเป็น 4 มุม สันแต่ละมุมจะวางตัวตามแนวยาวของผลคล้ายกับผลมะเฟือง ลักษณะการออกผลจะเกาะกลุ่มกันเป็นพวงยาว ผิวนอกมีสีเขียวอ่อนจนถึงเขียวเข้ม
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 5 – 15 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ทรงพุ่มกว้าง 5 – 8 เมตร
ความต้องการแสง
- ต้องการแสงแดด 100%
ความต้องการน้ำ
- รดน้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง ให้ชุ่ม ควรปลูกในพื้นที่ใกล้น้ำเท่านั้น
ชอบดินประเภท
- ชอบดินทุกประเภท
ประโยชน์การใช้สอย
- ลำต้น ใช้ส่วนของเปลือกไม้และเนื้อไม้ เป็นยาบำรุงของสตรี ปรับสมดุลร่างกายเพื่อช่วยให้ประจำเดือนและการตกขาวเป็นปกติ ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการไอ มีเสมหะ และระคายคอได้
- ใบ ทานใบสดเพื่อบรรเทาอาการปวดท้องบิด หรือใช้ใบแก่จัดต้มน้ำดื่มลดอาการท้องร่วงได้ นอกจากนี้ก็ยังใช้ใบสดบดละเอียดมาช่วยสมานแผลได้ด้วย
- เมล็ด มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการร้อนใน ช่วยขับลม และลดอาการจุกเสียดแน่นท้องได้
- ราก นิยมใช้ทานเพื่อเป็นยาระบายอย่างอ่อน
การเก็บเกี่ยว
- ออกดอกเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม
การขยายพันธุ์
- การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ