ชื่อ – ชนิด พันธุ์
บาก หรือ กระบาก,ตะบาก,กระบากขาว,กระบากโคก,กระบากช่อ,กระบากด้าง,กระบากดำ,กระบากแดง,ชอวาตาผ่อ,ประดิก,พนอง,หมีดังว่า
ชื่อวิทยาศาสตร์
Anisoptera Costata
ประวัติ
ขึ้นอยู่ตามป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณชื้นที่มีการถ่ายเทน้ำได้ดีทั่วไป ที่สูงจากยกระดับน้ำทะเล 10 – 400 เมตร มีมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้
รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ราก ใบ ดอก ผล )
- ลำต้น ไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบระยะสั้น ลำต้นเปลาตรง มีพูพอนต่ำๆเปลือกสีน้ำตาลอมเทา แตกเป็นร่องเป็นสะเก็ดหนา
- ใบ เดี่ยวเรียงสลับ ใบรูปรี รูปไข่กลับถึงรูปขอบขนาน กว้าง 6-8 ซม. ยาว 6-16 ซม. ปลายใบมนหรือแหลมเป็นติ่งสั้นๆ โคนใบมนหรือเว้าเล็กน้อย ผิวใบด้านบนเกลี้ยง ด้านล่างมีขนสีน้ำตาลอมเหลือง แผ่นใบหนา เส้นแขนงใบข้างละ 12-19 เส้น ก้านใบยาว 1.3-1.6 ซม.
- ดอก ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะสั้นๆ ตามซอกใบและปลายกิ่งช่อยาว 10 ซม. สีขาวหรือเหลืองอ่อน กลีบเลี้ยง 5 กลีบ เรียงซ้อนเวียนกัน ก้านดอกและกลีบเลี้ยงมีขนนุ่ม มีกลิ่นหอม ดอกบานเต็มที่กว้าง 1-2.5 ซม.
- ผล แห้งแบบมีปีก รูปกลม เรียบ ขนาด 1 ซม. มีปีกยาว 2 ปีกและปีกสั้น 3 ปีก โคนปีกติดเป็นเนื้อเดียวกันกับตัวผล เมล็ด มี 1 เมล็ดต่อผล
ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่
สูง 20 – 30 เมตร
ความกว้างทรงพุ่มเมื่อโตเต็มที่
ทรงพุ่มทรงกระบอก
ความต้องการแสง
- ต้องการแดด 100 %
ความต้องการน้ำ
- ต้องการน้ำปานกลาง
ชอบดินประเภท
- ชอบดินร่วนปนทราย
ประโยชน์การใช้สอย
- เนื้อไม้สีน้ำตาลปนเหลือง เนื้อหยาบ ใช้ทำไม้แบบ ลังใส่ของ เสา ฝา พื้น ตง รอด ชันใช้ผสมน้ำมันทาไม้ น้ำมันชักเงา ยาแนวไม้และเรือ
การเก็บเกี่ยว
- เริ่มติดดอก ธันวาคม-กุมภาพันธ์
- เริ่มติดผล มีนาคม-เมษายน
การขยายพันธุ์
- การเพาะเมล็ด
คลิกเพิ่มเพื่อน! แจ้งเตือนบทความใหม่ก่อนใคร ฟรี!!
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
- สารบัญ