เกษตรทฤษฎีใหม่ : new theory agriculture
ถิ่นฐานเดิมซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ ประเทศแถบบอลข่าน แถบที่ราบสูงอิหร่าน ปาเลสไตน์ จนถึงแถบชายฝั่งของซีเรีย ต่อมาได้กระจายมาถึง Chipre ต่อไปทาง Anatolio ผ่าน Crete (ชื่อเกาะที่อยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน) ไปจนถึงอียิปต์ จนกระทั่งกระจายไปทั่วบริเวณลุ่มแม่น้ำติดกับชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ไม้ต้น สูง 5-10 เมตร เปลือกต้นแตกเป็นร่องลึกตามยาว ใบประกอบแบบขนนก ปลายคี่ ใบย่อย รูปไข่แกมรูปรี ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบ ขอบใบหยักฟันเลื่อย ยอดอ่อนสีแดงเรื่อ ดอกออกเป็นช่อแยกแขนงที่ซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกสีขาว กลีบดอก 5 กลีบ เกสรเพศผู้และเพศเมียสีเหลือง
ไม้ต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลม แผ่กว้างและแน่นทึบ เปลือกต้นสีนํ้าตาลอมเทาหรือดำ ค่อนข้างเรียบหรือมีรอยแตกตื้นๆ ตามแนวยาว ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ มีใบย่อย 1 – 7 คู่ รูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ออกตรงข้ามกัน ยอดอ่อนสีแดงเรื่อ
ถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยในประเทศไทยนั้นสามารถพบได้ทั่วไปตามชายป่าเต็งรัง หรือป่าเบญจพรรณในภาคตะวันออก ภาคอีสาน และภาคเหนือ
ถิ่นกำเนิดในอินโดแปซิฟิก มีการกระจายพันธุ์จากประเทศแทนซาเนียและประเทศมาดากัสการ์ไปทางตะวันออกผ่านประเทศอินเดียและรัฐควีนส์แลนด์, ประเทศออสเตรเลียถึงหมู่เกาะแปซิฟิกของประเทศซามัว
มะม่วงเขียวเสวย เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลาง ลำต้นสูงประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นแตกหลักกิ่ง และกิ่งแขนงน้อย จนแลดูเป็นทรงพุ่มโปร่ง เปลือกลำต้นแตกเป็นสะเก็ดขนาดเล็ก สีดำอมเทา ใบมะม่วงเขียวเสวย ออกเป็นใบเดี่ยวๆ เรียงสลับกันที่ปลายกิ่ง ใบค่อนข้างรียาว สีเขียวเข้ม และเป็นมัน ขนาดใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร
ต้นมีความสูงประมาณ 15 – 30 เมตร แตกแขนงบนเรือนยอด ทรงพุ่มเป็นรูประฆัง กิ่งแตกแขนงจำนวนปานกลาง โคนต้นเป็นพูพอนสูงและเป็นร่องลึกล้อมรอบลำต้น ยาวสูงจนถึงกลางลำต้น ลำต้นส่วนปลายไม่เกิดร่อง มีแผลเป็นหลุมตื้นตลอดลำต้นอันเกิดจากผิวด้านนอกแตกสะเก็ดหลุดออก
ต้นมีความสูงประมาณ 15-20 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางของลำต้นอาจยาวถึง 300 เซนติเมตร เปลือกต้นมีสีน้ำตาลหรือสีเทาเข้ม แตกเป็นร่องตามยาวและเป็นสะเก็ดหนา ส่วนเนื้อไม้มีสีเหลืองถึงสีน้ำตาล ลักษณะของต้นเป็นทรงพุ่มกลมสวยงามมาก แตกกิ่งก้านจำนวนมาก ถ้าหากปลูกในที่โล่งแจ้งและไม่มีพรรณไม้ใหญ่ชนิดอื่นอยู่ใกล้ ๆ
ต้นเป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปี สูงประมาณ 0.5 – 1 เมตร ลำต้นเป็นข้อปล้องสั้น เนื้ออ่อน อวบน้ำ ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบต้น ใบหนาและรูปร่างยาว โคนใบใหญ่ ปลายใบแหลม ริมใบหยักและมีหนาม ขอบใบเป็นหนามแหลมห่างกัน แผ่นใบสีเขียวใสและมีรอยกระสีขาว ใบจะอุ้มน้ำได้ดี ภายในมีวุ้นและเมือกใสสีเขียวอ่อนๆ
ถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปเอเชีย และในปัจจุบันก็ยังสามารถพบได้ในเขตร้อนหลายประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงบางส่วนของทวีปแอฟริกา เช่นประเทศอินเดีย ศรีลังกา พม่า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย
ต้นมีรากแก้วใหญ่ มีรากแขนงเล็กๆ ยึดดินไว้มั่น เพื่อยึดแขนงที่แตกยอดรอบลำต้น ทั้งใบทั้งดอก ซึ่งงามเป็นพุ่มมากมาย เมื่อถอน 1 ต้น จะได้มาทั้งพุ่ม คล้ายผักชีแต่ใหญ่กว่ามาก ใบเป็นรูปรีขอบเป็นแฉกๆ 5 แฉกสีเขียว เนื้อใบหนา คล้ายต้นขึ้นฉ่าย
ต้นแมคคาเดเมีย ต้นไม้ที่มีลักษณะสูงและตั้งตรง เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่แล้วสามารถมีความสูงได้ถึง 20 เมตร และแผ่กิ่งก้านสาขาออกได้กว้างถึง 20 เมตร เป็นไม้ยืนต้นที่มีรูปทรงคล้ายพีรามิดสวยงามโดยจะมีความเขียวชอุ่มอยู่ตลอดทั้งปี ใบจะมีลักษณะเป็นรูปทรงรี ในส่วนบริเวณขอบของใบจะมีหนามเล็กๆขึ้นอยู่บางๆประปรายรอบใบ ใบจะมีสีเขียว-เขียวเข้ม ผิวของใบมีลักษณะเรียบและมันเงา
ต้นเมส็ด คือ ต้นไม้ที่มีขนาดของลำต้นค่อนข้างใหญ่และแข็งแรง เปลือกไม้จะมีสีขาวนวลทั้งหมด แล้วเรียงตัวกันเป็นชั้นๆ แต่พอแกะดูเปลือกด้านใน กลับกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน ใบมีความเรียวยาว ปลายใบโค้งมน และมีเส้นใบวางตัวตามแนวยาว ผิวสัมผัสที่หน้าใบเรียบลื่น มีสีเขียวเข้มเสมอกันทั้งใบ จะมีสีอื่นแซมเข้ามาเล็กน้อยบริเวณก้านใบและปลายใบ
ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบรูปทรงแคบสูง รูปพีระมิด กิ่งก้านลู่ลง เปลือกต้นสีน้ำตาล มีขีดแคบยาวและรอยด่างสีขาวทั่วทั้งลำต้น ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอกแคบ กว้าง 3-5 ซม. ยาว 15-25ซม. ปลายใบแหลม โคนใบสอบขอบใบเป็นคลื่นแผ่นใบบางแต่ค่อนข้างเหนียว สีเขียวเข้มเรียบเป็นมัน ก้านใบยาว 0.5-1 ซม.
ถิ่นที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมของทวีปเอเชีย ซึ่งพบในอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นครั้งแรก ในปัจจุบันสามารพบได้หลายประเทศ เช่น อินเดีย พม่า ไทย ลาว กัมพูชา มาเลเซีย รวมถึง จีนตอนใต้ด้วย
ถิ่นกำเนิดอยู่ที่บริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างบ้านเรานี่เอง สามารถพบได้ทั้งในประเทศไทย พม่า มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย และได้มีการแพร่พันธุ์กระจายไปยังประเทศอินเดีย แถบอเมริกากลาง อเมริกาใต้และฮาวาย
ต้น เป็นพรรณไม้ปีเดียวตาย ลำต้นมีความสูง 1-2 เมตร เนื้อไม้ตรงโคนต้นจะแข็ง และจะแตกกิ่งก้านสาขามาก ใบ จะออกสลับกัน ส่วนก้านใบนั้นเป็นใบร่วมยาวประมาณ 3-5 ซม. ตรงโคนใบจะมีตุ่มนูนออกมา 1 ตุ่ม ใบย่อยมีราว 3-5 คู่ คู่ปลายนั้นจะมีขนาดใหญ่ คู่ถัดไปจะมีขนาดเล็กลงนาตามลำดับ ลักษณะปลายย่อยนั้นจะรีปลายของมันจะแหลมยาวประมาณ 3-6 ซม.
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 10-30 เมตร มีเรือนยอดเป็นพุ่ม ลำต้นเปลา ที่โคนต้นมักขึ้นเป็นพูพอน ที่ผิวเปลือกเป็นรอยแตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ตามยาว สีดำ เปลือกด้านในมีสีเหลือง ส่วนกระพี้มีสีขาว แก่นมีสีดำสนิท เนื้อมีความละเอียดเป็นมันสวยงาม ที่กิ่งอ่อนมีขนนุ่มขึ้นอยู่ประปราย โดยทุกส่วนของมะเกลือเมื่อแห้งแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีดำ
ต้น เป็นไม้พุ่ม สูงได้ถึง 4 เมตร กิ่งก้านสีเทาหรือมีเปลือกสีดำ มีขนยาว ขนกระจุก และขนต่อมทั่วไป หูใบรูปใบหอก ยาว 1–1.5 ซม. ร่วงเร็ว ใบรูปหัวใจ ขอบใบหยักลึกเป็น 3 แฉก มีขนอ่อน ๆ ปกคลุม ดอก ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนงคล้ายช่อเชิงหลั่น ก้านช่อยาวเท่า ๆ ก้านใบ ก้านดอกยาวได้ถึง 3 ซม. ใบประดับยาวประมาณ 1 ซม. ร่วงเร็ว กลีบเลี้ยง 5 กลีบ
ลำต้น เป็นไม้ยืนต้น มีทรงพุ่มขนาดกลาง ลำต้นมีลักษณะกลมๆ เป็นเนื้อไม้แข็ง เปลือกมีผิวเรียบ มีสีน้ำตาล ใบ เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว มีลักษณะทรงรี โคนมนปลายรี พื้นผิวใบหนาสากมือ ใบมีสีเขียวแก่ ใบด้านบนมีสีเข้ม ใต้ใบมีสีอ่อนกว่า มีขนอ่อนๆอยู่ มีต่อมน้ำมันอยู่ ดอก ออกเป็นช่อ จะมีดอกอยู่เป็นกระจุก กลีบดอกมีสีขาว มีเกสรฝอยเล็กๆสีเหลือง กลีบเลี้ยงแข็งสีเขียว มีกลิ่นหอม มีก้านดอกยาว ออกตามปลายกิ่ง
ต้นจำปาเป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดสูง โดยมีความสูงประมาณ 15-30 เมตร ลำต้นตั้งตรง เปลา มีลักษณะเป็นทรงพุ่ม เรือนยอดทรงปิรามิด ขนาดพุ่มประมาณ 4-5 เมตร สูงโปร่งคล้ายรูปกรวยคว่ำ สำหรับในประเทศไทยของเรามักพบได้ทั่วไป ในป่าดงดิบ โดยเฉพาะทางภาคใต้และภาคเหนือ
ต้นเหมือนกับฝรั่งทั่วไป แต่เป็นสีแดงทับทิม ไม่ใช่สีเหมือนฝรั่งทั่วไปด้านหลังใบหรือใต้ใบมีสีแดงน้ำตาลดอก ดอกเป็นช่อออกตามซอกใบ ช่อหนึ่งมีดอกย่อย 3-5 ดอก สีชมพูแดง กลีบเลี้ยงแข็ง ผลอ่อนสีจะเข้มเหมือนสีมังคุด แต่พอผลเริ่มโตสีจะค่อยๆจางลงกลายเป็นสีทับทิมแดง ผิวขุระเล็กน้อย ทรงผลกลมรี ผลไม่ใหญ่มาก เนื้อกรอบ รสหวานอมเปรี้ยว
ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 2-3 เมตร เปลือกเรียบเป็นมัน สีเขียวปนน้ำตาล กิ่งอ่อนเป็นสี่เหลี่ยม ใบเลี้ยงเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรีแกมรูปขอบขนาน ใบหนา หยาบ ใต้ท้องใบเป็นริ้ว เห็นเส้นใบชัดเจน ขนขึ้นนวลบาง ใบยาวประมาณ 10 ซม. กว้างประมาณ 6 ซม. ดอก ดอกเป็นช่อออกตามซอกใบ ช่อหนึ่งมีดอกย่อย 3-5 ดอก สีขาวอมเขียวอ่อน กลีบเลี้ยงแข็ง
ลำต้น เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีอายุปีเดียว ต้นทรงพุ่ม กิ่งก้านแตกขยายมาก ลำต้นมีลักษณะกลม ต้นอวบน้ำ โคนต้นมีสีม่วง กิ่งอ่อนเหลี่ยม มีขนตามข้อเล็กน้อย เปลือกต้นเกลี้ยงเรียบ มีสีเขียว ราก เป็นระบบรากแก้ว มีลักษณะกลมๆ แทงลึกลงในดิน มีรากแขนงและรากฝอยเล็กๆ ออกตามแนวราบ มีสีน้ำตาล