เกษตรทฤษฎีใหม่ : new theory agriculture
ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 3-6 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นสีน้ำตาลปนเทา ขรุขระ แตกเป็นสะเก็ด ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ ใบย่อยรูปรีขอบขนาน กว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 3-4 ซม. ปลายใบและโคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ สีเขียว
ดอกจะออกเป็นช่ออยู่ตามบริเวณซอกใบประมาณ 2 – 4 ดอก มีสีแดง ซึ่งมีกลิ่นหอม
ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 3-6 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นสีน้ำตาลปนเทา ขรุขระ แตกเป็นสะเก็ด ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ ใบย่อยรูปรีขอบขนาน กว้าง 1-1.5 ซม. ยาว 3-4 ซม. ปลายใบและโคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ สีเขียว ดอกจะออกเป็นช่ออยู่ตามบริเวณซอกใบประมาณ 2 – 4 ดอก มีสีแดง ซึ่งมีกลิ่นหอม
ต้นเป็นไม้ล้มลุก สูง 10–50 ซม. มีขนสั้นนุ่มตามลำต้นและใบ ใบเรียงเวียน ยาว 2.5–8 ซม. ขอบจักซี่ฟันสองชั้น เส้นแขนงใบข้างละ 5–8 เส้น ก้านใบยาว 0.5–1 ซม. มีครีบ ดอก: ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่นออกเดี่ยว ๆ ที่ปลายกิ่ง เส้นผ่านศูนย์กลาง 2–8 ซม. ก้านช่อยาว 5–8 ซม. วงใบประดับชั้นนอกคล้ายใบ ไม่มีดอกย่อย ชั้นในสีเขียวมีแต้มสีม่วงแดง
ไม้พุ่มเล็ก ลำต้นมีขน ใบเดี่ยวเรียงเวียน รูปไข่ถึงรูปหัวใจ ปลายเรียวแหลม ขอบหยักซี่ฟันหรือจักฟันเลื่อย มีขนประปรายทั้ง 2 ด้าน ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบดอกสีชมพูอมส้มคล้ายสีอิฐ มี 5 กลีบ เกสรเพศผู้จำนวนมาก ชูอับเรณูเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาวประมาณ 1 ซม. อับเรณูติดเป็นกระจุก ๆ ทั่วหลอด ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่มกลมมีขน
กิ่งตอนหรือกิ่งปักชำ ขึ้นลำต้นได้สวย มีลำต้นสูง มักเจริญเติบโตในแนวสูงมากกว่าการขยายในด้านข้าง สูงประมาณ 3-5 เมตร ต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ด โขดกลมสวย แตกกิ่งจากโขดมาก มีสีผิวเนียนเขียว มีลักษณะที่ดี มีลำต้นสูง ขยายด้านข้างน้อย และมักเจริญเติบโตในแนวสูง มีดอกดก ดอกออกเป็นพวง ดอกมีขนาดเล็ก สีชมพูอ่อน
ต้นต้อยติ่ง จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก มีลำต้นสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตรตามลำต้นจะมีขนอ่อน ๆ ขึ้นปกคลุมอยู่เล็กน้อย ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงกันเป็นคู่ ๆ ไปตามข้อของลำต้น แผ่นใบมีสีเขียว ลักษณะใบเป็นรูปมนรี ปลายใบมน โคนใบแหลม ส่วนขอบใบเรียบไม่มีจักและอาจมีคลื่นเล็กน้อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-1.5 นิ้ว และยาวประมาณ 2.5-3 นิ้ว
มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ได้ชื่อว่า Hibiscus of China เชื่อว่าถูกนำเข้ามาปลูกในเมืองไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 ถึงรัชกาลที่ 3 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีการนำพันธุ์พืชมากมายหลายชนิดมาจากประเทศจีน
มีถิ่นกำเนิดในอินเดียทางตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาหิมาลัย เป็นต้นไม้ผลัดใบสูง 7-15 เมตร กิ่งก้านคดงอ ใบรูปหัวใจ แผ่นใบเป็นแฉกลึก 5 แฉก ขอบใบเป็นคลื่น ดอกย่อยเป็นดอกสมบูรณ์ มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ ร่วงยาก กลีบดอก 5 กลีบ สีเหลืองสด ร่วงง่าย เกสรเพศผู้จำนวนมาก รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ
ไม้ล้มลุก ลักษณะเตี้ย ข้อถี่ ลำต้นตั้งตรงมักไม่แตกกิ่ง ไม่มีแก่น ต้นอวบน้ำ มีรอยแผลเป็นของก้านใบที่หลุดร่วงไป มีน้ำยางสีขาวทั่วลำต้น ก้านใบสีเขียวอ่อน ลักษณะสั้นและแข็งแรง ก้านใบตั้งตรง ยาวประมาณ 60-80 เซนติเมตร ใบหนากว่าพันธุ์อื่นๆ
เป็นพืชล้มลุก เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง ลำต้นมีลักษณะกลมๆ ตรงใหญ่ ไม่มีแก่น ลำต้นอวบน้ำ ลำต้นมีตารอบๆ มีก้านใบล้อมรอบด้านบนต้น เปลือกต้นเรียบ แตกกิ่งก้านน้อย มียางขาวข้น มีรอยแผลเป็นของก้านใบที่หลุดร่วงไป มีสีเขียว เป็นใบเดี่ยว ก้านใบใหญ่ยาวเป็นหลอดกลวง ใบมีลักษณะใหญ่ยาว ขอบใบเว้าเป็นแฉกลึกถึงแกนก้าน
ไม้ล้มลุก ลำต้นตั้งตรงมักไม่แตกกิ่ง ไม่มีแก่น ต้นอวบน้ำ มีรอยแผลเป็นของก้านใบที่หลุดร่วงไป มีน้ำยางสีขาวทั่วลำต้น ใบมีสีเขียว เรียงสลับรอบต้นบริเวณยอด ใบเดี่ยว รูปฝ่ามือกว้าง โคนใบเว้า ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเว้าเป็นแฉกลึก และจักฟันเลื่อย ก้านใบยาว เป็นท่อกลวงยาว
ลำต้นจะมีขนาดใหญ่ ไม่มีแก่น ลำต้นอวบน้ำ ลำต้นมีตารอบๆ มีก้านใบล้อมรอบด้านบนต้น มียางขาวข้น มีรอยแผลเป็นของก้านใบที่หลุดร่วงไป มีสีเขียว เป็นใบเดี่ยว ก้านใบใหญ่ยาวเป็นหลอดกลวง ใบมีลักษณะใหญ่ยาว ขอบใบเว้าเป็นแฉกลึกถึงแกนก้าน มีรอยใบชัดเจน มีใบสีเขียว
มะละกอ เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดเดิมในเขตร้อนของทวีปอเมริกากลาง มะละกอแขกนวล เป็นสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์มาจากพันธุ์แขกดำ ไม้ล้มลุก ลักษณะเตี้ย ลำต้นตั้งตรงมักไม่แตกกิ่ง ไม่มีแก่น ต้นอวบน้ำ มีรอยแผลเป็นของก้านใบที่หลุดร่วงไป มีน้ำยางสีขาวทั่วลำต้น
ถิ่นกำเนิดมาจากอเมริกาใต้ มักจะมีมดชนิดที่ดุร้ายเฉพาะถิ่นที่อาศัยอยู่ในโพรงบริเวณกิ่ง และมดนี่เองที่ช่วยป้องกันต้นไม้จากสัตว์กินพืชต่างๆ จึงเป็นที่มาของชื่อ Ant tree ส่วนในประเทศไทยเรามักจะคุ้นเคยกันในชื่อปาโลแซนโตส ต้นไม้ที่มีช่อสีแดงสวยงาม
ต้นเป็นพรรณไม้ยืนต้น ขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ลักษณะของลำต้นเหมือนรูปกรวยคว่ำ ปลายแหลม เปลือกลำต้นแตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ สีน้ำตาลปนเทา ลำต้นสูงประมาณ 10-20 เมตร
ไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ นอกสีน้ำตาลดำ หนา แตกสะเก็ด เปลือกในสีน้ำตาล มีน้ำเลี้ยงสีแดง เนื้อไม้แข็งสีแดงอมเหลือง มีลวดลายสวยงาม ใบประกอบขนนกชั้นเดียว ปลายใบคี่ เรียงสลับ ใบย่อยรูปไข่หรือรูปขอบขนาน กว้าง 2.5 – 5 เซนติเมตร ยาว 5 – 15 เซนติเมตร
ถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียบริเวณประเทศอินเดีย ศรีลังกา แล้วมีการกระจายพันธุ์ไปยังบังคลาเทศ พม่า จีนตอนใต้ ไทย มาเลเซีย หมู่เกาะแปซิฟิก รวมถึงในออสเตรเลียด้วย สำหรับ ในประเทศไทยสามารถพบได้ทุกภาคของประเทศตามป่าเบญจพรรณป่าดิบแล้งป่าดิบชื้นและป่าละเมาะ
เปลือกของลำต้น สามารถนำมาต้มดื่ม ใช้สำหรับเป็นยาถ่ายพยาธิยา รักษาโรคริดสีดวง ยาแก้อาการท้องเสีย และรักษาโรคบิดนอกจากนั้นยังสามารถรักษาโรคผิวหนัง หรือใช้ทาเป็นยารักษาแผลพุพองต่างๆ ได้ เมล็ดของมะค่าโมงสามารถนำมาต้มดื่มหรือนำเนื้อเมล็ดดิบมาหั่นเป็นฝอยต้มดื่ม ช่วยบรรเทาอาการอาเจียนได้
ไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 2-8 เมตร เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาล มีหนามแหลมตามกิ่งก้าน ใบ เป็นใบประกอบที่มีใบย่อยใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ปลายใบและโคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบเป็นมันสีเขียวเข้ม มีต่อมน้ำมันอยู่ตามผิวใบ มีกลิ่นหอมเฉพาะ ก้านใบมีปีกดูคล้ายใบ
ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบที่ปลายกิ่ง
ไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มแคบ เปลือกต้นสีน้ำตาล แตกเป็นร่องตื้นๆ ตามยาวใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ มีใบย่อย 13-19 ใบ รูปรี กว้าง 1.5 ซม. ยาว 4 ซม. ปลายใบเว้าตื้นๆ โคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ สีเขียว ก้านใบร่วมสีน้ำตาลแดง
ต้นจำปาเป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดสูง โดยมีความสูงประมาณ 15-30 เมตร ลำต้นตั้งตรง เปลา มีลักษณะเป็นทรงพุ่ม เรือนยอดทรงปิรามิด ขนาดพุ่มประมาณ 4-5 เมตร สูงโปร่งคล้ายรูปกรวยคว่ำ สำหรับในประเทศไทยของเรามักพบได้ทั่วไป ในป่าดงดิบ โดยเฉพาะทางภาคใต้และภาคเหนือ
ใบนำมาตากแดด ใช้ชงเป็นชาดื่ม ใบนำมาขยี้ และผสมน้ำเล็กน้อยใช้ประคบรักษาแผล และช่วยในการห้ามเลือด ใบอ่อนใช้เคี้ยวเพื่อลดกลิ่นปาก ดอกนำมาต้มน้ำดื่ม ช่วยลดอาการไอ ทำให้ชุ่มคอ เปลือกลำต้นนำมาต้มน้ำดื่ม ใช้รักษาอาการท้องเสีย และอาหารเป็นพิษน้ำต้มจากเปลือกใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
ต้นหางนกยูงจัดเป็นไม้พุ่มที่มีความสูงหลายระดับ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และวิธีการดูแลรักษา ลำต้นด้านล่างมีขนาดเล็ก ตั้งตรงและพุ่งชะลูดขึ้นด้านบน ก่อนแตกเป็นกิ่งก้านขนาดเล็กจำนวนมาก เปลือกไม้เป็นสีน้ำตาลเข้ม บางพันธุ์จะมีหนามเล็กๆ ให้เห็นด้วย ยิ่งต้นแก่เท่าไรสีเปลือกไม้ก็ยิ่งเข้มขึ้น
ชัยพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่มีความสูง 15-25 เซนติเมตร และมีขนาดทรงพุ่ม 6-8 เมตร ซึ่งมีลักษณะเป็นทรงพุ่มรูปร่มแผ่กว้าง เปลือกต้นสีน้ำตาลค่อนข้างเรียบ ต้นเล็กจะมีหนาม ส่วนต้นใหญ่นั้นจะมีรอยแผลปนหนามตามแนวขวาง