ผักหวานป่า (Melientha suavis Pierre)
ผักหวานป่า เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูง 5-15 เมตร เนื้อไม้แข็ง เปลือกของลำต้นเมื่ออายุน้อยผิวเปลือกเรียบ สีเทาอมเขียว และเมื่ออายุมากขึ้นเปลือกแตกเป็นร่องรูปสี่เหลี่ยม สีเทาอ่อนอมน้ำตาล
ผักหวานป่า เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูง 5-15 เมตร เนื้อไม้แข็ง เปลือกของลำต้นเมื่ออายุน้อยผิวเปลือกเรียบ สีเทาอมเขียว และเมื่ออายุมากขึ้นเปลือกแตกเป็นร่องรูปสี่เหลี่ยม สีเทาอ่อนอมน้ำตาล
ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 8-15 เมตร อาจสูงได้ถึง 30 เมตร ผลัดใบหรือไม่ผลัดใบ เปลือกสีดำ แตกเป็นสะเก็ดเล็กๆ ตามยาว
ต้น เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง 5–10 เมตร กิ่งอ่อนมีหนามเรือนยอดเป็นพุ่มกลมโปร่ง
ใบ เป็นใบประกอบแบบรูปขนนก มี 3 ใบย่อย ใบกลางจะโตกว่า 2 ใบข้าง เส้นกลางใบและเส้นแขนงใบสีเหลือง
กระท่อมเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ปานกลาง มีแก่นเป็นไม้เนื้อแข็ง 10-15 เมตร อยู่ในตระกูลสูง Mitragyna speciosa ใบคล้ายใบกระดังงา
ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลมแน่นทึบ คล้ายขนุน เปลือกต้นสีนํ้าตาลอมดำ เรียบ หรือแตกเป็นร่องตื้นๆ ตามแนวยาว
ลำต้น ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ทรงพุ่มรูปทรงกระบอก ทุกส่วนของต้นมียางสีขาว เป็นไม้เนื้ออ่อน แก่นสีเหลือง ใบ มีสีเขียวเข้มเป็นมัน และแผ่นหนาเหมือนหนัง
ผลทรงรูปไข่ แต่ไม่เป็นระเบียบ ความยาวผลปานกลางรูปร่างหนามแหลมคม เปลือกหนา หนามปลายงุ้มเข้า หนามรอบขั้วผล หนามตรงไม่แหลม เนื้อหนาปานกลาง สีเนื้อเหลืองอ่อน มีกลิ่นอ่อน รสชาติของเนื้อมันพอดี
ผลของทุเรียน จะมีสีดำที่บริเวณก้น อันเป็นลักษณะที่ไม่พบเห็นในทุเรียนสายพันธุ์อื่น มีทรงผลสวย เปลือกบาง เมล็ดเล็กและลีบ เนื้อสุกเป็นสีเหลืองอมส้ม เนื้อละเอียดเนียน รสชาติหวานมันและหวานแหลมมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ลักษณะเนื้อสีแดงเข้ม ละเอียดและเหนียว เมล็ดเล็กและลีบบาง รสชาติหวานหอมมันรับประทานอร่อยมาก รูปทรงของผลสวย ผลโตเต็มที่มีน้ำหนักเฉลี่ยระหว่าง 2 กิโลกรัมต่อผล ลำต้นแข็งแรงทนต่อโรคแมลงได้สูง
ใบมีขนาดใหญ่กว่าใบทุเรียนพันธุ์ไทยทั่วไป
ต้น สมอเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่มีพุ่มขยายออกด้านข้าง เปลือกหุ้มจะมีรอยแตกเป็นร่องลึกและมีสีน้ำตาลเข้มปนดำหรือเทา กิ่งก้านมีความคดเคี้ยวแต่ยังดูเป็นระเบียบ ก้านขนาดเล็กจะมีขนอ่อนปกคลุม เนื้อไม้เหนียวและแข็ง
ต้นติ้ว จัดเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง มีความสูงของต้นเฉลี่ยประมาณ 3-12 เมตร และอาจสูงได้ถึง 35 เมตร เรือนยอดเป็นทรงพุ่มกลม โคนต้นมีหนาม กิ่งก้านเรียว ส่วนกิ่งอ่อนมีขนนุ่มอยู่ทั่วไป
ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เป็นเนื้อไม้แข็ง มีผิวเรียบ ลำต้นมีกิ่ง มีหนามยาวเล็กน้อย เปลือกมีสีน้ำตาล ใบ เป็นใบเลี้ยงคู่ มีลักษณะคล้ายกับใบไม้ 2 ใบ ต่อกันอยู่ คอดกิ่วที่กลางใบเป็นตอนๆ จะให้เห็นใบเป็น 2 ตอน แตกเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ใบมีสีเขียวแก่ พื้นผิวใบเรียบเกลี้ยง เป็นมัน ค่อนข้างหนา
มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลาง ลำต้นสูงประมาณ 10-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งน้อย แลดูเป็นทรงพุ่มโปร่ง เปลือกลำต้นสีดำอมเทา ใบออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกันบนกิ่งแขนง ใบมีรูปหอก โคนใบสอบแหลม ปลายใบแหลม ขอบใบโค้งเป็นลูกคลื่น
ลำต้นกลม ใหญ่ ตั้งตรง ไม่แตกกิ่งก้าน เปลือกต้นแข็ง สีเทา ขรุขระ มีรอยแผลใบ โคนต้นมีสะโพกใหญ่ โตเต็มที่สูงประมาณ 18 เมตร ทางใบใหญ่และยาว ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงเวียน รูปพัดจีบ โคนใบและปลายใบแหลม
ไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบ ทรงพุ่มกลมหรือทรงกระบอก แน่นทึบ กิ่งห้อยย้อย เปลือกต้นสีเทาเข้มเกือบดำ ผิวขรุขระ มีรอยแตกเป็นทางยาว ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่แกมรูปขอบขนาน กว้าง 6-10 ซม. ยาว 16-24 ซม. ปลายใบเรียวแหลมเป็นติ่งโคนใบมน แผ่นใบค่อนข้างหนา และเหนียว สีเขียวเข้ม
กระถินณรงค์เป็นไม้ขนาดกลาง มีลำต้นสูงประมาณ 10-20 เมตร ลำต้นทรงกลม ตั้งตรง แต่หากพื้นที่แห้งเลี้ยงมาก ลำต้นจะไม่สมมาตร เปลือกของต้นอายุน้อยมีสีเทา ผิวขรุขระ เมื่อต้นเจริญเต็มที่ เปลือกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ผิวเป็นร่องแตกสะเก็ด แตกกิ่งก้านมาก และหนาแน่นมากบริเวณเรือนยอด
มีแหล่งกำเนิดในประเทศอินเดีย พม่า ศรีลังกา และอินโดจีน ปลูกทั่วไปในบริเวณหมู่บ้านและสวน แล้วแพร่กระจายไปตามธรรมชาติ ในประเทศมาเลเซียและเกาะชวากับเกาะบาลี อินโดนีเซีย และมีการนำไปปลูกในแคลิฟอร์เนียและฟลอริดาเพื่อใช้ในการศึกษา
ต้นมะกอกฝรั่ง จัดเป็นไม้ยืนต้น มีความสูงของต้นประมาณ 7-12 เมตร เปลือกต้นเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาลแดง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ก้านใบยาว ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปไข่ค่อนข้างเรียวแหลม ปลายใบแหลม โคนใบแหลม ขอบใบหยักเล็กน้อย ออกดอกเป็นช่อแบบพานิเคิล (ช่อดอกที่มีช่อดอกแตกออกมาจากช่อดอกใหญ่อีกทีหนึ่ง)
ลำพูเป็นไม้ที่หิ่งห้อยชอบมาเกาะ ทำให้เกิดความสวยงามโดยเฉพาะในยามค่ำคืน ในอดีต ในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยเฉพาะในเขตพระนครมีต้นลำพูอยู่มาก เป็นที่มาของชื่อ “บางลำพู” ซึ่งเป็นชื่อย่านแห่งหนึ่งในเขต แต่ต่อมาต้นลำพูได้ถูกตัดทิ้งลงเป็นจำนวนมาก
ต้นกระบก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เป็นไม้ผลัดใบ ทรงเรือนยอดเป็นพุ่มแน่นทึบ ลำต้นเปลา เปลือกต้นมีสีเทาอ่อนปนสีน้ำตาลค่อนข้างเรียบ โคนต้นมักขึ้นเป็นพูพอน มีใบเป็นใบเดี่ยวติดเรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปไข่หรือรูปรีแกมรูปขอบขนานจนถึงรูปใบหอก ใบกว้างประมาณ 2-9 เซนติเมตรและยาวประมาณ 8-20 เซนติเมตร
ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นแตกกิ่งต่ำ เรือนยอดแน่นเป็นรูปกรวยคว่ำ ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปรีหรือรูปรีแกมรูปใบหอก มีหูใบระหว่างก้านใบ ช่อดอกออกตามง่ามใบใกล้ปลายกิ่ง มีดอกจำนวนมาก กลิ่นหอมเย็น ดอกแรกบานสีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองจนถึงเหลืองอมส้ม กลีบดอกติดกันคล้ายรูปแจกันมี 5 กลีบ
ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ต้นทรงพุ่ม ขยายแตกกิ่งก้าน ลำต้นมีลักษณะกลม เป็นไม้เนื้อแข็งเหนียว เปลือกต้นมีร่องแตก มีสีน้ำตาลอมเทา ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเป็นคี่เวียนสลับกันบนก้านใบยาว มีลักษณะทรงรีเรียว โคนใบแหลม ปลายใบเรียวแหลม ใบเรียบลื่น จะมีใบอ่อนและยอดอ่อนสีน้ำตาลแดง ใบแก่มีสีเขียว
ถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยในประเทศไทยนั้นสามารถพบได้ทั่วไปตามชายป่าเต็งรัง หรือป่าเบญจพรรณในภาคตะวันออก ภาคอีสาน และภาคเหนือ
ถิ่นกำเนิดอยู่ที่บริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างบ้านเรานี่เอง สามารถพบได้ทั้งในประเทศไทย พม่า มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย และได้มีการแพร่พันธุ์กระจายไปยังประเทศอินเดีย แถบอเมริกากลาง อเมริกาใต้และฮาวาย
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า