ไม้สูง ( ไม้ป่า – ไม้ใช้สอย )
ไม้ต้น ขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบ สูง 20 – 40 เมตร ลำต้นเปลาตรง เปลือก หนาสีน้ำตาล มีชันสีเหลืองเกาะตามเปลือก ทั่วไป ต้นเล็กเปลือกจะเรียบ แต่เมื่อเป็นต้นใหญ่เปลือกจะแตกเป็นสะเก็ด เรือนยอดเป็นพุ่มทึบกลมหรือรูปเจดีย์ต่ำ ๆ ใบ เป็นใบเดี่ยวออกสลับ รูปไข่แกมรูปหอกหรือรูปดาบ ท้องใบจะมีตุ่มคอมเมเซียเกลี้ยง ๆ อยู่ตามง่ามแขนงใบ
ไม้ต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลม แผ่กว้างและแน่นทึบ เปลือกต้นสีนํ้าตาลอมเทาหรือดำ ค่อนข้างเรียบหรือมีรอยแตกตื้นๆ ตามแนวยาว ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ มีใบย่อย 1 – 7 คู่ รูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ออกตรงข้ามกัน ยอดอ่อนสีแดงเรื่อ
ถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยในประเทศไทยนั้นสามารถพบได้ทั่วไปตามชายป่าเต็งรัง หรือป่าเบญจพรรณในภาคตะวันออก ภาคอีสาน และภาคเหนือ
ถิ่นกำเนิดในอินโดแปซิฟิก มีการกระจายพันธุ์จากประเทศแทนซาเนียและประเทศมาดากัสการ์ไปทางตะวันออกผ่านประเทศอินเดียและรัฐควีนส์แลนด์, ประเทศออสเตรเลียถึงหมู่เกาะแปซิฟิกของประเทศซามัว
ต้นมีความสูงประมาณ 15 – 30 เมตร แตกแขนงบนเรือนยอด ทรงพุ่มเป็นรูประฆัง กิ่งแตกแขนงจำนวนปานกลาง โคนต้นเป็นพูพอนสูงและเป็นร่องลึกล้อมรอบลำต้น ยาวสูงจนถึงกลางลำต้น ลำต้นส่วนปลายไม่เกิดร่อง มีแผลเป็นหลุมตื้นตลอดลำต้นอันเกิดจากผิวด้านนอกแตกสะเก็ดหลุดออก
ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบรูปทรงแคบสูง รูปพีระมิด กิ่งก้านลู่ลง เปลือกต้นสีน้ำตาล มีขีดแคบยาวและรอยด่างสีขาวทั่วทั้งลำต้น ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอกแคบ กว้าง 3-5 ซม. ยาว 15-25ซม. ปลายใบแหลม โคนใบสอบขอบใบเป็นคลื่นแผ่นใบบางแต่ค่อนข้างเหนียว สีเขียวเข้มเรียบเป็นมัน ก้านใบยาว 0.5-1 ซม.
ต้นจำปาเป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดสูง โดยมีความสูงประมาณ 15-30 เมตร ลำต้นตั้งตรง เปลา มีลักษณะเป็นทรงพุ่ม เรือนยอดทรงปิรามิด ขนาดพุ่มประมาณ 4-5 เมตร สูงโปร่งคล้ายรูปกรวยคว่ำ สำหรับในประเทศไทยของเรามักพบได้ทั่วไป ในป่าดงดิบ โดยเฉพาะทางภาคใต้และภาคเหนือ
ถิ่นกำเนิดมาจากอเมริกาใต้ มักจะมีมดชนิดที่ดุร้ายเฉพาะถิ่นที่อาศัยอยู่ในโพรงบริเวณกิ่ง และมดนี่เองที่ช่วยป้องกันต้นไม้จากสัตว์กินพืชต่างๆ จึงเป็นที่มาของชื่อ Ant tree ส่วนในประเทศไทยเรามักจะคุ้นเคยกันในชื่อปาโลแซนโตส ต้นไม้ที่มีช่อสีแดงสวยงาม
ต้นเป็นพรรณไม้ยืนต้น ขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ลักษณะของลำต้นเหมือนรูปกรวยคว่ำ ปลายแหลม เปลือกลำต้นแตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ สีน้ำตาลปนเทา ลำต้นสูงประมาณ 10-20 เมตร
ไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ นอกสีน้ำตาลดำ หนา แตกสะเก็ด เปลือกในสีน้ำตาล มีน้ำเลี้ยงสีแดง เนื้อไม้แข็งสีแดงอมเหลือง มีลวดลายสวยงาม ใบประกอบขนนกชั้นเดียว ปลายใบคี่ เรียงสลับ ใบย่อยรูปไข่หรือรูปขอบขนาน กว้าง 2.5 – 5 เซนติเมตร ยาว 5 – 15 เซนติเมตร
เปลือกของลำต้น สามารถนำมาต้มดื่ม ใช้สำหรับเป็นยาถ่ายพยาธิยา รักษาโรคริดสีดวง ยาแก้อาการท้องเสีย และรักษาโรคบิดนอกจากนั้นยังสามารถรักษาโรคผิวหนัง หรือใช้ทาเป็นยารักษาแผลพุพองต่างๆ ได้ เมล็ดของมะค่าโมงสามารถนำมาต้มดื่มหรือนำเนื้อเมล็ดดิบมาหั่นเป็นฝอยต้มดื่ม ช่วยบรรเทาอาการอาเจียนได้
ไม้ต้นขนาดกลางถึงใหญ่ สูงถึง 25 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดรูปทรงกลมหรือทรงกระบอก ลำต้นค่อนข้างเปลาตรง หรือเป็นปุ่มปม เปลือกสีเทาอมน้ำตาลหรือสีเทาปนเขียวเรียบหรือแตกล่อนเป็นแผ่นบางๆ เนื้อไม้สีน้ำตาลแดง กิ่งก้านและยอดอ่อนมีขนละเอียดสีเหลือง
ลักษณะของลำต้นทองกวาวเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8–15 เมตร เป็นไม้ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ ลำต้นแตกกิ่งต่ำคดงอซึ่งเป็นไปโดยตามธรรมชาติของเขา
ต้นพะยูง จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบช่วงสั้น ๆ มีลักษณะคล้ายกับต้นประดู่ โดยมีความสูงของต้นได้ถึง 25 -30 เมตร เมื่อโตเต็มที่ลำต้นจะมีลักษณะเปลาตรง มีเรือนยอดเป็นรูปทรงกลมหรือรูปไข่ทึบ
ต้นประดู่ เป็นพรรณไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศมาเลเซีย และอยู่ในแถบอันดามัน มัทราช เบงกอล ส่วนอีกข้อมูลระบุว่า มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ลำต้นสูง 15 – 30 เมตร หุ้มด้วยเปลือกหนาสีน้ำตาลซึ่งแตกสะเก็ดเป็นร่อง ลึก มีนํ้ายางมาก เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ
ถิ่นกำเนิด ปารากวัย อาร์เจนตินา และบราซิล ลำต้น มีเปลือกสีน้ำตาล แตกเป็นร่อง ใบประกอบรูปนิ้วมือ มีใบย่อย 5-7 ใบ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายใบมนหรือแหลม โคนใบมน ใบเหลือบสีเงินทั้งสองด้าน
ถิ่นกำเนิดพบในประเทศลาว พม่า และไทย ขึ้นในป่าเบญจพรรณใกล้แหล่งน้ำทั่ว ๆ ไป ลำต้น มีเรือนยอดกลมหรือทรงกระบอก เปลือกต้นสีเทาเรียบหรือแตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ตื้น ๆ เนื้อไม้สีขาวอมน้ำตาล แก่นสีน้ำตาลอมดำ เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ
ถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ถูกนำเข้ามาปลูกครั้งแรกในประเทศไทยจากประเทศพม่า เมื่อประมาณปี 2443 (ค.ศ. 1900) โดยมิสเตอร์เอ็ชเสลด (Mr. H. Slade) ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 15-25 เมตร ผลัดใบเรือนยอดแผ่เป็นพุ่มกว้างคล้ายร่ม โคนต้นเป็นพูพอนต่ำ เปลือกสีน้ำตาลปนเทา แตกตามยาวขรุขระไม่เป็นระเบียบ
ถิ่นกำเนิด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบตามป่าเบญจพรรณและป่าผลัดใบ ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออก ในต่างประเทศพบที่เมียนมา เป็นไม้ประเภทยืนต้นที่สามารถพลัดใบได้ พบจำนวนมากในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือของไทย ขนาดความสูงของต้นประมาณ 4-15 เมตร
ถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปเอเชียเขตร้อนและสามารถพบเจอได้ทั่วไปในประเทศไทยเกือบทุกภาค แต่ส่วนใหญ่มักจะพบเห็นได้มากที่สุดในทางภาคเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ และภาคกลาง โดยเฉพาะป่าเบญจพรรณ
ไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง 15-25 เมตร ลำต้นตรง เปลือกสีน้ำตาลแดง ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อยรูปรีเบี้ยว โค้งเล็กน้อย มี 3-6 คู่ กว้าง 2.5-6 เซนติเมตร ยาว 6-15 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนแหลม ใบค่อนข้างหนา แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ใต้ใบสีเขียวอ่อน
ชื่อ – ชนิด พันธุ์ ยางนา หรือ ชันนา, ยางตัง, ทองหลัก, ยาง, ยางแม่น้ำ, ยางขาว, ยางควาย ชื่อวิทยาศาสตร์ Dipterocarpus Alatus ประวัติ ต้นยางนา พบได้ทั่วไปในประเทศไทย ซึ่งยืนยันได้จากชื่อหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ที่มีคำว่า “ยาง” มีอยู่ในทุกภาคของประเทศ
ชื่อ – ชนิด พันธุ์ ไผ่ ปักกิ่ง ชื่อวิทยาศาสตร์ Dendrocalamus sp. ประวัติความเป็นมา “ไผ่ปักกิ่ง” หรือไผ่จีน เป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากประเทศจีน ลักษณะลำต้น ลำต้นสีเหลืองอมเขียว กาบหุ้มลำต้นถี่และหลุดง่าย
วิธีการเลือก และการใช้ประโยชน์จากไม้ไผ่ การปลูกไผ่ การขยายพันธุ์ การดูแลบำรุงรักษาไม้ไผ่ ไผ่แต่ละชนิด ไผ่ป่า ( Bambusa Bambos ) ไผ่ข้าวหลาม, ไผ่ข้าวหลามกาบแดง หรือไผ่ข้าวหลามยอดแดง