พืช : เกษตรอินทรีย์ ( Plants )
ต้น เป็นไม้พุ่ม สูงได้ถึง 4 เมตร กิ่งก้านสีเทาหรือมีเปลือกสีดำ มีขนยาว ขนกระจุก และขนต่อมทั่วไป หูใบรูปใบหอก ยาว 1–1.5 ซม. ร่วงเร็ว ใบรูปหัวใจ ขอบใบหยักลึกเป็น 3 แฉก มีขนอ่อน ๆ ปกคลุม ดอก ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนงคล้ายช่อเชิงหลั่น ก้านช่อยาวเท่า ๆ ก้านใบ ก้านดอกยาวได้ถึง 3 ซม
ต้นพะยูง จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบช่วงสั้น ๆ มีลักษณะคล้ายกับต้นประดู่ โดยมีความสูงของต้นได้ถึง 25 -30 เมตร เมื่อโตเต็มที่ลำต้นจะมีลักษณะเปลาตรง มีเรือนยอดเป็นรูปทรงกลมหรือรูปไข่ทึบ
เป็นพืชพื้นเมืองของทวีปแอฟริกา ปัจจุบันพบปลูกในประเทศเขตร้อนทั่วไป มะขามเปรี้ยวเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ เปลือกลำต้นเมื่อต้นยังมีอายุน้อยจะมีสีเทา มีร่องแตกไปทั่ว และเมื่อต้นมีอายุมาก เปลือกลำต้นจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมดำ
เป็นพืชพื้นเมืองของทวีปแอฟริกา ปัจจุบันพบปลูกในประเทศเขตร้อนทั่วไป ต้นเป็นทรงพุ่มเตี้ย สูงประมาณ 1.5 – 2 เมตรใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ชั้นเดียวออกเรียงสลับ ใบย่อยมีขนาดเล็ก ลักษณะใบรูปขอบขนาน ปลายใบเว้าบุ๋มหรือมน โคนใบมน ออกใบเป็นคู่ๆ เรียงกันตามก้านใบแบบตรงข้าม
ต้นสูงประมาณ 2-3 เมตร แต่สามารถสูงได้มากที่สุดถึง 5 เมตร ลำต้นมียางขาว, เปลือกสีเทา, มีหนามยาว, มีกิ่งเป็นจำนวนมาก และกิ่งมีความแข็ง ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูปขอบขนาน ปลายใบกลมหรือเว้าบุ๋ม โคนใบมน ขอบใบเรียบ ผิวใบเกลี้ยงเนื้อใบหนาและเหนียวคล้ายแผ่นหนัง
ยอเป็นพืชพื้นเมืองในแถบพอลินีเชียตอนใต้ แล้วแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่นๆภาษามลายู เรียก เมอกาดู ในหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกเรียกโนนู เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 2 – 6 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาไม่มากนัก เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลเทา แตกเป็นสะเก็ดแล้วหลุด กิ่งอ่อนเป็นรูปสี่เหลี่ยม
พืชพื้นเมืองในแอฟริกาตะวันตก อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนถึงออสเตรเลียภาคเหนือ งิ้วเป็นไม้ยืนต้นเนื้ออ่อน ขนาดกลางถึงใหญ่ สูงได้ถึง 30 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดโปร่ง กิ่งก้านมีหนามแหลม ลำต้นเปล่าตรง เปลือกนอกน้ำตาลเทา เรียบ มีน้ำแข็ง เปลือกในสีขาว มีริ้วสีชมพูตามยาว กระพี้สีขาว มีขนสั้นนุ่มตามกิ่ง
มะรุมเป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศแถบเอเชีย เช่น อินเดีย ศรีลังกา เป็นต้น และยังมีในเขตเอเชียไมเนอร์และแอฟริกา ลำต้นมีลักษณะเพลาตรง สูงประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งน้อย แลดูเป็นทรงพุ่มโปร่ง เปลือกลำต้นมีสีขาวอมเทา มีตุ่มขนาดเล็กขึ้นกระจายทั่ว เนื้อไม้จัดเป็นไม้เนื้ออ่อน มีสีเหลือง เบา กิ่งมีลักษณะเพลาตรง เนื้อไม้ของกิ่งเปราะหักง่าย
มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินโดนีเซีย โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมยาวปกคลุม ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ มีใบย่อย 3 – 5 คู่ รูปไข่กลับแกมรูปรี ปลายใบมน โคนใบสอบ ยอดอ่อนสีแดงเรื่อและมีขนอ่อนปกคลุม แผ่นใบเมื่อส่องกับแสงจะเห็นต่อมน้ำมันใสกระจายทั่วใบ
ต้นประดู่ เป็นพรรณไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศมาเลเซีย และอยู่ในแถบอันดามัน มัทราช เบงกอล ส่วนอีกข้อมูลระบุว่า มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ลำต้นสูง 15 – 30 เมตร หุ้มด้วยเปลือกหนาสีน้ำตาลซึ่งแตกสะเก็ดเป็นร่อง ลึก มีนํ้ายางมาก เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ
ใบและลำต้นมีสีเขียวอมม่วงแดง ใบทั้งสองด้านมีขนมากโดยเฉพาะส่วนยอด เนื้อใบบาง ใบรูปร่างรีหรือรีขอบขนาน กว้าง 1 – 2.5 เซนติเมตร ยาว 2 – 4.5 เซนติเมตร ปลายใบและโคนใบอาจแหลมหรือมน ขอบใบค่อนข้างหยัก ใบและยอดรสเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอม
เป็นพืชพื้นเมืองของเขตร้อนในถิ่นโลกเก่า คือบริเวณเขตร้อนของทวีปเอเชียและแอฟริกาแต่พบมากในแถบเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นไม้ล้มลุกมีกิ่งก้านและขนปกคลุมมาก ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสีเขียวกันเป็นคู่ๆ รูปรี ปลายใบแปลม หรือมน ขอบใบหยักแบบพันเลื่อย ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ดอกติดรอบแกนช่อเป็นระยะๆ
มะตูมเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 8-15 เมตร ลำต้นตั้งตรง มีสีเทาและมีหนามแข็งยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ใบมะตูมเป็นใบประกอบที่มี 3 ใบย่อย เรียงตัวคล้ายทรงสามเหลี่ยม ลักษณะของแต่ละใบมีฐานกว้างปลายแหลม
เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของเอเชีย โดยสามารถพบได้ตามประเทศต่างๆ ที่อยู่ในเขตร้อนดังกล่าว เช่น อินเดีย พม่า ไทย ลาว กัมพูชา ศรีลังกา บังคลาเทศ เวียดนาม รวมถึงทางตอนใต้ของจีน สำหรับในประเทศไทยนั้น สามารถพบได้บริเวณป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง
เป็นไม้เถาเลื้อยอายุหลายปี สูงถึง 5 เมตร เถาเนื้ออ่อน สีเขียว ขนาดเล็ก โคนเถาช่วงล่างจะแข็งและมีขนาดใหญ่ ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงสลับ ก้านหนึ่งจะมีใบย่อย 8-20 คู่ ใบย่อยรูปรีแกมขอบขนาน โคนใบมน ปลายใบมน ขอบใบเรียบขนาน หน้าใบเรียบ
ถิ่นกำเนิด ปารากวัย อาร์เจนตินา และบราซิล ลำต้น มีเปลือกสีน้ำตาล แตกเป็นร่อง ใบประกอบรูปนิ้วมือ มีใบย่อย 5-7 ใบ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายใบมนหรือแหลม โคนใบมน ใบเหลือบสีเงินทั้งสองด้าน
ถิ่นกำเนิดพบในประเทศลาว พม่า และไทย ขึ้นในป่าเบญจพรรณใกล้แหล่งน้ำทั่ว ๆ ไป ลำต้น มีเรือนยอดกลมหรือทรงกระบอก เปลือกต้นสีเทาเรียบหรือแตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ตื้น ๆ เนื้อไม้สีขาวอมน้ำตาล แก่นสีน้ำตาลอมดำ เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ
ถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ถูกนำเข้ามาปลูกครั้งแรกในประเทศไทยจากประเทศพม่า เมื่อประมาณปี 2443 (ค.ศ. 1900) โดยมิสเตอร์เอ็ชเสลด (Mr. H. Slade) ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 15-25 เมตร ผลัดใบเรือนยอดแผ่เป็นพุ่มกว้างคล้ายร่ม โคนต้นเป็นพูพอนต่ำ เปลือกสีน้ำตาลปนเทา แตกตามยาวขรุขระไม่เป็นระเบียบ
ถิ่นกำเนิด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบตามป่าเบญจพรรณและป่าผลัดใบ ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออก ในต่างประเทศพบที่เมียนมา เป็นไม้ประเภทยืนต้นที่สามารถพลัดใบได้ พบจำนวนมากในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือของไทย ขนาดความสูงของต้นประมาณ 4-15 เมตร
ถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปเอเชียเขตร้อนและสามารถพบเจอได้ทั่วไปในประเทศไทยเกือบทุกภาค แต่ส่วนใหญ่มักจะพบเห็นได้มากที่สุดในทางภาคเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ และภาคกลาง โดยเฉพาะป่าเบญจพรรณ
ถิ่นกำเนิด มาเลเซียและภาคใต้ของไทย ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 5-10 เมตร ขนาด ทรงพุ่ม 3-6 เมตร ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลม แตกกิ่งในระดับต่ำ เปลือกต้น สีน้ำตาลอมเหลือง เปลือกเรียบแตกเป็นร่องตื้นตามแนวยาว
ไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง 15-25 เมตร ลำต้นตรง เปลือกสีน้ำตาลแดง ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อยรูปรีเบี้ยว โค้งเล็กน้อย มี 3-6 คู่ กว้าง 2.5-6 เซนติเมตร ยาว 6-15 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนแหลม ใบค่อนข้างหนา แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ใต้ใบสีเขียวอ่อน
ชื่อ – ชนิด พันธุ์ มะพร้าวไฟ หรือ มะพร้าวน้ำหอมสีทอง ชื่อวิทยาศาสตร์ Cocos Nucifera L. ประวัติ มะพร้าวไฟมีถิ่นกำเนิดในประเทศศรีลังกา รูปร่าง รูปทรง ( ต้น ใบ ดอก ผล ) เป็นมะพร้าวที่มีเปลือกสีเหลืองทอง ความสูงเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่ สูง 8-10 เมตร
ชื่อ – ชนิด พันธุ์ ยางนา หรือ ชันนา, ยางตัง, ทองหลัก, ยาง, ยางแม่น้ำ, ยางขาว, ยางควาย ชื่อวิทยาศาสตร์ Dipterocarpus Alatus ประวัติ ต้นยางนา พบได้ทั่วไปในประเทศไทย ซึ่งยืนยันได้จากชื่อหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ที่มีคำว่า “ยาง” มีอยู่ในทุกภาคของประเทศ